วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เจ๊-ด…จะหายไป เมื่อ 7 พ.ย.56



เจ๊-ด…จะหายไป



นาย Guido Fawkes. เป็นชาวเวลล์ ถือ คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ขณะอายุ38 ในปี 1603 เขาได้รวบรวมเด็กหนุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน 6 คน ก่อตั้งเป็นขบวนการใต้ดินขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับ “ขุนนาง” อังกฤษ ที่บริหารเกาะบริเตนใหญ่ อย่างกดขี่ข่มเหงประชาชน โกงกอบโกยทรัพยากรของชาติไปบำเรอสุขให้ตัวเอง
มีสมาชิกเพิ่มเป็น 27 คน แล้วขบวนการนี้ได้วางแผนที่จะลอบปลงพระชนม์ “พระเจ้าเจมส์ที่1” กษัตริย์อังกฤษในขณะนั้น จึงได้ไปเช่าห้องที่อยู่ใกล้อาคารรัฐสภาที่สุด ในย่านกลางกรุงลอนดอน แล้วค่อยๆขุดอุโมงค์จากห้องเช่าลอดไปจนถึงใต้อาคารสภาขุนนาง แล้วนำดินปืนไปเก็บไว้ 36 ลัง น้ำหนัก 820 กิโลกรัม โดยทุกคนใส่หน้ากากเพื่อไม่ให้รู้จักกันและกัน จะเป็นการเก็บความลับได้ดี โดยนาย Guido Fawkes. บอกคนอื่นๆว่าตัวเองชื่อ Guy Fawkes

นัดหมายจะจุดระเบิดในขณะที่ พระเจ้าเจมส์ที่1 อยู่ในที่ประชุมสภาขุนนาง ในเช้าวันที่ 5 พ.ย.1605

แต่คืนวันที่ 4 พ.ย.1605ตำรวจลับของพระเจ้าเจมส์ ที่1 จับตัว Guy Fawkes. ขณะเฝ้าลังดินปืนในอุโมงค์อยู่คนเดียว แล้วก็ตามจับสมาชิกได้ครบ27 คน


ปี 1606 มีคำพิพากษาให้ประหารทั้ง27 คน โดย26คนใช้ดาบตัดหัวแล้วเสียบไม้ประจานไว้กลางลานประหาร ในขณะที่ตัว Guy Fawkes. โดนอำมหิตกว่าคนอื่น ด้วยการใช้เชือกผูกข้อขา ติดกับอานม้า 2 ตัว แล้วคนขี่ตีม้าให้วิ่งทะยานแยกออกจากกัน ฉีกขากายฟอล์คขาดออกสุดสยอง แล้วตัดหัวมาเสียบประจานไว้กับคนอื่นๆ

ชาวเวลล์กับชาวอังกฤษ สะเทือนใจกับการประหารชีวิตนี้มาก เรียกเหตุการณ์นี้ว่า Gunpowder plot….กบฏดินปืน

แล้วทุกปี ในคืนวันที่5 พ.ย.ชาวอังกฤษได้จัดงานจุดดินปืนทั่วกรุงลอนดอน เสียงกระหึ่มไปทั่ว


ชาวอังกฤษจัดงานจุดพลุทุกปีไม่เคยว่างเว้นเลย และในคืน 5 พ.ย.2013 ก็มีการจัดงานใหญ่ขึ้นที่กรุงลอนดอน เช่นทุกปี โดยได้มีคนกลุ่มหนึ่งหลายร้อยคนใส่หน้ากาก “V for Vendetta” หรือที่คนบ้านเรารู้จักในชื่อ “หน้ากาก”ขาว ไปชุมนุมที่ลานหน้าพระราชวังบิ๊กกิ้งแฮม จะจุดดินปืน แต่ตำรวจไม่ให้จุด และหวิดจะปะทะกับตำรวจ เมื่อมีชายคนหนึ่งใส่หน้ากากขาวปีนขึ้นไปบนพระบรมราชานุสาวรีย์ควีนวิกตอเรีย แล้วขว้างขวดน้ำใส่ตำรวจ

และคืนเดียวกัน ในพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งจัดงาน Guy Fawkes Day ขึ้นด้วย โดยมีกายแต่งกายในยุค 1605 มีการถือไม้พันผ้าชุบน้ำมันจุดไฟเดินขบวนด้วย
ไม่มีใครเห็นหน้ากากที่ Guy Fawkes. ใส่ขณะก่อการปฏิวัติกบฏดินปืน5 พ.ย.1605 แต่ในช่วงปี2005 ได้มีนักเขียนการ์ตูนชาวอังกฤษ ได้เอาเรื่องราวมาเขียนเป็นการ์ตูน ให้ “กาย ฟอล์ค” เป็นนักรบใส่หน้ากาก มีมีดสั้นคู่เป็นอาวุธ ใส่เสื้อคลุมสีดำ ใส่หมวกดำ ใส่หน้ากากสีขาว ที่เขียนขึ้นตามมโนภาพของ “David Lloyd” นักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษ

หลังสือการ์ตูนพิมพ์ขายรายเดือน จนถึงปี 2006 ก็มีนายทุนมายื่นข้อเสนอขอสร้างเป็นหนังใหญ่ ชื่อเรื่อง “V for Vendetta” มอบให้ “เดวิด ฟลอยด์” เป็นผู้ออกแบบหน้ากากขาวขึ้นมาตามมโนภาพของเขา

หน้ากากขาว เป็นหน้าผู้ชายแสยะยิ้มนิดๆ ที่ริมปากมีหนวดโง้งปลายแหลม งอขึ้น แววตาเฉยชา ไร้ความรู้สึก แก้มแดงนิดหน่อย

หนังไม่ทำเงิน แต่หน้ากาก V ดังมาก และยิ่งดังมากขึ้นเมื่อชาวนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ใส่มันในมหกรรมปิดล้อมตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เมื่อปี 2012

เขียนเรื่องกายฟอล์คยืดยาวก็เพื่อโยงเข้ากับสถานการณ์ในประเทศไทย เวลานี้ “ขบวนการประชาชนต่อต้านโกง” ได้ลุกฮือขึ้นมาแล้วอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เฉยกันมาก
คนไทยเอือมระอา ส.ส.มากอยู่แล้ว จากการที่ได้แสดงความไม่งดงามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อพรรคเพื่อไทยกระทำการห้าวหาญไม่เกรงกลัวผู้ใดในการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำมาตรา3 พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เอาของ “ประยุทธ ศิริพาณิชย์” มาลบล้างถ้อยคำเดิมของ “วรชัย เหมะ” ย้อนการนิรโทษให้ทุกคนทุกฝ่ายไปจนถึงปี2547 มาถึง8 ก.ย.2556 มันได้จุดประกายความไม่พอใจ ให้คนไทยลุกฮือครั้งใหญ่ที่สุด

ประเด็นที่กระชากผู้คนออกมาจากบ้าน ให้มาแสดงกิจกรรมบนถนนมากมายทั่วประเทศ คือคำปลุกเร้าที่ว่า

ถ้ากฎหมายนี้ผ่านจะทำให้กระบวนการโกงของนักการเมืองกำเริบเสิบสานมาก

โกงแล้วก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกเดียวกันเอง

ประกอบกับมีเหตุการณ์ “ทำให้หมั่นไส้” มากมายเสริมเข้ามาด้วย จนกลายเป็นกระแส

ไม่เอานิรโทษกรรม แต่ให้เนรเทศทั้งโคตร
กระแสอย่างนี้เคยเกิดมาแล้วในช่วง 14 ตุลาคม2516 ทำให้ “ถนอม-ประภาส-ณรงค์” ต้องหอบครอบครัวหนีออกนอกประเทศทั้งหมด

อีกปมหนึ่งที่ทำให้คนไทยที่เป็นคนรุ่นใหม่ คนหนุ่มคนสาว ทะลักออกมาถนนก็คือ

การด่ากันเองของแกนนำคนเสื้อแดง ด่าพรรคเพื่อไทย จากที่แดงห้ามแล้วอย่านิรโทษกรรมยกเข่ง แต่ไม่ฟัง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หัวใจคนไทยโอเคแล้ว

จะให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่โดนคดี ที่ยังถูกขังในคุก โดยไม่รวมแกนนำ คนสั่งการให้ฆ่าประชาชน


แต่พรรคเพื่อไทยก็ลักหลับตอนตีสี่ครึ่ง โหวตผ่านวาระ3 อย่างห้าวหาญ ตีสี่ครึ่ง 1 พ.ย.2556

“จตุพร พรหมพันธ์” แถลงข่าวอย่างเย้ยหยันว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยมอบความชอบธรรมการปลุกระดมมวลชนให้พรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาธิปัตย์ปลุกอะไรก็ปลุกไม่ขึ้น เพราะไม่มีความชอบธรรม

ประเด็นที่จตุพรพูดและน่าสนใจที่สุดคือ ไม่รู้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะอยู่ได้อีกกี่วัน

เพราะเวลานี้ได้กลายเป็น ปลุกระดมให้ขับไล่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว

มองโดยรอบแม้จะดูว่ายากอยู่ เพราะคนไทยทั้งประเทศก็ไม่ได้เอาด้วยทั้งหมด

คนไทยมี 65 ล้านคน

แต่สิ่งแน่นอนที่ได้เกิดขึ้นแล้วและจะไม่หายไปก็คือ…

กระแสต่อต้านนักการเมืองโกง

มองข้ามช็อตไปเลย เจ๊-ด คนที่ถูกประจานมาตลอดว่าคือคนที่ใช้อำนาจอิทธิพลส่วนตัวบงการให้โกงทุกอย่าง ในการประมูลงานราชการ ได้เดินมาถึงสุดทางของตัวเองแล้ว

จากนี้ต่อไป เจ๊-ด นอกจากจะสั่งการโกงไม่ได้แล้ว ยังจะไม่สามารถปรากฏตัวอยู่ในท่ามกลางบรรดาข้าราชการใหญ่ และนักการเมืองที่มีตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาลได้ด้วย

เจ๊-ด จะถูกศูนย์กลางอำนาจในพรรคเพื่อไทย ถูกญาติพี่น้อง ขับไล่ ให้หายตัวไป

ว่าไปแล้ว เจ๊-ด คนนี้ก็แปลก ไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ได้เป็น ส.ส. และโดนแฉมากมายว่าคือตัวการบงการโกงที่ร้ายที่สุด แต่กระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีใครรู้จักชื่อจริงนามสกุลจริง
การพลิก พ.ร.บนิรโทษกรรม มาเป็นสุดซอยยกเข่ง ก็ เจ๊-ด สั่งการ

จุดติดแล้ว….กระแสต่อต้านการโกงในหัวใจประชาชนจุดติดแล้ว ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะยังไงเสียรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะต้องควบคุมกันเองอย่างเต็มพิกัด อย่าให้มีการโกงเกิดขึ้นเด็ดขาด ไม่ว่าโกงเล็กโกงใหญ่นิดเดียวก็ไม่ได้ ถ้ามีข่าวแลบออกมาเมื่อไหร่

การเดินขบวนใหญ่จะเกิดขึ้น

สูญพันธุ์ และ ไม่มีแผ่นดินอยู่


วันที่ 7/11/2556 เวลา 14:56 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น