เมื่อเดินหน้า "ภูผา" ก็ต้องผ่าไป
อืมมมม....เมื่อ "สุเทพ ณ ราชดำเนิน" เปรี้ยวสุดซอยและสุดตัวเช่นนี้ ผมก็ไม่มีความเห็นเป็นอื่น นอกจากบอกว่า "เอาไหน-เอากัน"
ลองก้าวหน้าไปถึงขั้น "ยึดกระทรวงคลัง-สำนักงบประมาณ-กรมประชาสัมพันธ์" ซึ่งอยู่กระจุกเดียวกันย่านริมคลองประปา ประเดิมเป็นปฐมชัยเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องพิรี้-พิไรถามว่า
"แล้วยังไงต่อ?"
นอกจากถาม...จะไปแจกกุหลาบที่ทำเนียบฯ เมื่อไหร่ และกระทรวงไหนต่อ?
ในเมื่อคุณสุเทพบุก-ดะ-ฉะ-เดี่ยว ลุยนำไปในเส้นทางวันเวย์ นั่นก็หมายถึง ตัดสินใจแน่วแน่เดินหน้าทะลุซอยลูกเดียว
เมื่อการณ์ยังไม่สำเร็จ ไอ้ที่จะถอย หรือยอมให้ใครสวน ไม่มีใน "ปทานุกรมสุเทพ"!
ถ้าสุเทพถอย ไม่ใช่ไอ้น้อยเสียคน แต่ "สุเทพ" นั่นแหละ...เสียคน
นั่นก็ยังไม่เท่าไหร่..........
ที่ทำให้มวลมหาชนร่วมแนวทางบนถนนราชดำเนินนับล้านคน "เสียใจ" นี่ซี ตาย...ขุดศพสุเทพขึ้นมาสับ
ก็ยังไม่สาสม!
เพราะปฏิบัติการราชดำเนิน ๒๔ พฤศจิกา ๕๖ มันคือ "มหาประชาชนปฏิวัติ" เป้าหมายล้างทรราชระบอบทักษิณ "ถอนราก-ถอนโคน" ให้สิ้นไปจากแผ่นดินไทย
แล้วปฏิรูปสังคมชาติสู่อนาคตใหม่ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉะนั้น แค่ยิ่งลักษณ์ออกไป...สมศักดิ์-นิคม...ออกไป มันแน่อยู่แล้ว มันไม่ออก ก็ต้องเฉดหัวพวกมันให้ออก
แต่ที่แน่กว่านั้น การปฏิวัติหรือปฏิรูปประเทศไทยครั้งนี้ จะต้องไม่ใช่พายเรือวนอ่างน้ำครำเดิมๆ แค่ "ยุบสภาฯ-เลือกตั้งใหม่
วนกันไป-เวียนกันมา ในหน้าเดิม วิสัยทัศน์เดิม!
แบบนั้น บ้านเมืองเราก็จะจมปลักนักการเมืองโสโครกเหมือนเดิม พี่น้องประชาชนผู้ด้อยโอกาส ก็จะด้อยโอกาสเหมือนเดิม เป็นเหยื่อนักการเมืองโจรเหมือนเดิม
และ "จนซ้ำซาก" เหมือนเดิม!
สังคมเข้าสู่ยุค "ใหม่...ใหม่" แล้ว ก็ดูซี หลังศาลรัฐธรรมนูญคว่ำ พ.ร.บ.รัฐสภาผัว-เมีย มีคนแนะทางออก ให้ยิ่งลักษณ์ประสาน "สำนักราชเลขาธิการ" เพื่อขอนำร่าง พ.ร.บ.ผิดกฎหมายนั้นกลับคืนมา
ยิ่งลักษณ์ตอบว่าไง...ท่านจำได้มั้ย เธอบอกว่า
"เป็นเรื่องใหม่" ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ขอศึกษาก่อน!?
และเมื่อวาน คุณสุเทพดาวกระจายไปกระทรวงคลัง-สำนักงบประมาณ และเข้ายึด "กระทรวงคลัง-สำนักงบฯ" ไว้ เป็นหนึ่งในมาตรการ "ขับไล่-ล้างระบอบทักษิณ"
ก็จำเป็นต้อง "สันติ-อหิงสา" รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเหมือนกัน!
"มหาประชาชนปฏิวัติ" เพื่อล้างโสโครกสังคมเก่าสู่สังคมใหม่นี่ก็เช่นกัน มันจะเป็นด้วยวิธีการและรูปแบบใหม่..ใหม่..ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ไม่ใช่แบบ ไล่นายกฯ เก่าไป ก็หาคนใหม่มาเป็นแทนในสังคมบริหารโกงชาติ-กินเมืองเดิมๆ
หรือยุบสภาฯ แล้วเลือกตั้งใหม่ทันที-ทันใด โดยยังไม่ทันได้จัดระเบียบวางกฎกติกากันใหม่ เพื่อป้องกันจัญไรเข้าสภาฯ น้อยที่สุด!
เมื่อสังคมชาติเข้าสู่เส้นทาง "เปลี่ยนใหม่" ฉะนั้น อะไรที่ลงทุน-ลงแรงไปแล้ว สุดท้ายก็กลับมาเหมือนเดิม ได้เหมือนเดิม อย่างนั้นมันจะเกิดประโยชน์อะไร
มันต้องทุบเก่า แล้ววางรากฐานใหม่!
เสียเวลานิดหน่อย ดีกว่าได้เวลา แล้วต้องเสียชาติ เสียสังคมให้โจรการเมืองในระบบรัฐบาล-รัฐสภา และในระบบ ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ-ครูบาอาจารย์ กระทั่งพระ เถน เณร ชี อัปรีย์-จัญไรบางตน
ที่ "ขายสำนึก" ให้โจร!
"ประชาชนปฏิวัติ ๒๔ พฤศจิกา" ปฏิบัติการวันนี้นั้น บุคคลเพื่อวันนี้ เป็นเพียงผู้กล้า-ผู้เสียสละ ผู้เป็นเหมือนแสงตะวันใหม่ยามอรุณรุ่ง
ยังหรอก...แสงตะวันใหม่ เป็นแค่แสงทำให้เห็นว่า ข้างหน้ามีเส้นทางสีทองสู่อนาคตใหม่ แต่แสงนั้นยังไม่สามารถบ่มรวงข้าวให้สุกได้
ต้องรอเวลาตะวันใหม่ บ่ายคล้อยเป็น "ตะวันเที่ยง" แผดแสงจ้าเปรี้ยง...เปรี้ยง หลอมโลก!
ดังเช่น คนจริงอย่างสุเทพเป็นหัวสว่านยักษ์ วีระอาจหาญ ทะลุ-ทะลวงกำแพงทรราชระบอบทักษิณที่กัดกินประเทศมาเป็นทศวรรษให้ใกล้ถล่ม เป็นการนำทาง
อีกทั้งตระกูลทรราชกำลังถูกส้นตีนมหาประชาชนลบหายไปจากแผ่นดินไทยเช่นนี้ สำหรับคุณสุเทพ ณ ราชดำเนิน และคณะมัฆวาน-ผ่านฟ้า นับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว
และนั่น งานปฏิวัติสังคมชาติ...เพิ่งเริ่ม!
สำหรับงานเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของชาติดีๆ เช่นนี้ ดูท่าบุรุษผู้มีจิตใจกว้างขวางอย่างคุณสุเทพ ยังหาเวลาไปเชิญ "สหายร่วมเส้นทาง" ที่เข้มแข็งท่านหนึ่ง ด้วยตัวเอง มาร่วมสังสรรค์ จิบน้ำชาด้วยกัน ยังไม่ได้กระมัง?
"สหายร่วมเส้นทาง" ท่านนั้นคือ "คุณสนธิ ลิ้มทองกุล" ยังไงล่ะครับ...คุณสุเทพ!
งานมงคลชาติ-มงคลมหาชนเช่นนี้ จะครึกครื้น-ครบครัน เป็นที่ปลื้มกันถ้วนหน้า เมื่อได้คุณสนธิมานั่งในที่ว่างซึ่งเว้นไว้ ๑ ที่ ในหมู่มิตรสหายที่ไหลรวมมาร่วมงานใหญ่กันครบครันแล้วขณะนี้
งานปฏิวัติสังคมประเทศ เป็นงานใหญ่และงานใหม่ คนใจใหญ่-ใจกว้างเท่านั้น จึงจะทำงานใหญ่ได้ คนหยุมหยิมในเรื่องย่อย คุณสุเทพเคยบอกผม "ทำงานใหญ่ยาก"
ดังนั้น กับเรื่องปฏิวัติสังคมชาติ ใครซักคนก็ขาดไม่ได้ แม้กระทั่ง "ขอทาน"!
เพราะขอทานก็ถือหุ้นประเทศไทยเท่ากับเราทุกคน เขาต้องมีที่นั่ง มีสิทธิ์-มีเสียง ในการกำหนดอนาคตสังคมประเทศ ทัดเทียมมวลมหาชนทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นมวลมหาชนมหาเศรษฐี นักปราชญ์ ราชบัณฑิต โสเภณี กะหรี่ ผู้ดี ไพร่ จัญไร วีรชน คนคุก ทั้งหลาย-ทั้งปวง
ยิ่งลักษณ์ประกาศเมื่อวาน (๒๕ พ.ย.๕๖) ไม่ยุบสภาฯ ไม่ลาออก
เป็นครั้งแรกที่ผมยืนยันแทนได้ว่า "เจ้าหล่อนไม่ตอแหล!?"
เพราะ ๒๖-๒๗-๒๘ พฤศจิกา เป็นช่วงเวลา "ห้ามยุบสภาฯ-ห้ามลาออก" เนื่องจากฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกนายกฯ ไว้ และจะเริ่มซักฟอกกันตั้งแต่วันนี้
ก็ไม่แน่ใจนะครับ เปิดประชุมแล้ว ฝ่ายค้านจะได้อภิปรายซักฟอกหรือไม่ เพราะ "ไข่ในหิน" อย่างยิ่งลักษณ์ มีราคา ใครๆ ก็อยากเสนอหน้าพิทักษ์ชายกระโปรง เป็นการหาลำไพ่พิเศษ!?
แต่พ้น ๒๘ พ.ย. ไปแล้ว ๒๙ พ.ย. ปิดสมัยประชุม นั่นอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ไม่ว่ายุบสภาฯ ไม่ว่าลาออก หรือถูกไล่ออก!?
จึงบอกได้ว่า ๒๖-๒๗-๒๘ พ.ย.นี้ เป็น "๓ วัน วัดใจ" ระหว่างมหาประชาชนราชดำเนิน กับ นปช.เพื่อไทยระบอบทักษิณ ว่า ๓ วันนี้ จะเป็น ๓ วันของฝ่ายไหน?
"เหตุพลิกผัน" ไม่คาดหมายใหม่ๆ ที่นำไปสู่สถานการณ์แปรผันใหม่ๆ มันจะพลิกผันสู่สถานการณ์แปรผันที่
"นปช.เพื่อไทยระบอบทักษิณ หรือมหาประชาชนราชดำเนิน"
เป็นฝ่าย...ยืนสะบัดธง!?
มหาประชาชนราชดำเนินนั้น ๒ ล้านกว่าตีน เดินก้าวข้าม หนามคุก หนามตะราง หนามตำรวจ หนามทหาร หนามอสูร-มารระบอบทักษิณ ยึดแดนอธรรมคืนสู่ธรรมได้บ้างแล้ว
เดินหน้า...ชาติจะพ้นแอ่งตีนระบอบทักษิณ สู่อนาคตใหม่ สดใส-งามสง่า!
เป็นประเทศชาติศิวิไลซ์ โดยปวงประชาใต้บารมีพระมหากษัตริย์ เป็นประชาธิปไตย ที่ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการชั่ว จะย่ำหัวประชาชนอีกไม่ได้
แต่ถ้า "มหาประชาชนราชดำเนิน" หวั่นไหวกับเสียงนก-เสียงกา เสียงหมาหอน ที่พอมีตอนนี้ หยุดอยู่กับที่หรือถอยหลัง
ประวัติศาสตร์ชาติหน้าใหม่ที่ "มหาชนราชดำเนิน" ร่วมกันเขียน มันจะเป็น "ประวัติศาสตร์อัปยศ" ที่ลูกหลานเราศึกษาแล้ว...ร้องไห้
อาย...พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย "ไม่เอาไหน" ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกา!.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น