วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"หม่อมอุ๋ย" ซัดหนัก!!"ระบอบแม้ว" ต้นเหตุความขัดแย้ง ชี้ต้องถอนรากถอนโคน-ความเชื่อมโยงออกไปประจำวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 56

"หม่อมอุ๋ย" ซัดหนัก!!"ระบอบแม้ว" ต้นเหตุความขัดแย้ง ชี้ต้องถอนรากถอนโคน-ความเชื่อมโยงออกไป
"หม่อมอุ๋ย" ชี้มวลชนออกมาแสดงพลังต่อต้านรัฐบาล ต้นเหตุจากทักษิณและรัฐบาล ชี้ต้องตัดความเชื่อมโยงและถอนรากถอนโคนระบอบนี้ออกไปได้  ประชาชนอาจจะกลับมายอมรับนับถืออีก                        
    

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  เทวกุล  อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  กล่าวกับสำนักข่าวทีนิวส์  ประจำวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน  ที่ผ่านมา  โดยแนะทางออกประเทศไทย  ท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมือง  เมื่อมวลชนออกมาแสดงพลังต่อต้านรัฐบาล  เท่าที่ผมดูทั้งท่าทีของรัฐบาล  และประชาชนที่ออกมาประท้วง  เป็นในลักษณะที่สู้กัน  รัฐบาลคิดว่าคุณสุเทพเป็นคนปลุกขึ้นมา  เป็นการนำโดยฝ่ายค้านที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล  รัฐบาลอาจจะรู้สึกว่าคุณสุเทพจุดการประท้วงแห่งความขัดแย้ง  แต่ความจริงคนที่จุดให้ติดไม่ใช่  แต่คนที่จุดคือทักษิณ  รัฐบาลและแกนนำของรัฐบาลเป็นคนเริ่ม  เสนอกฎหมายที่ไม่ชอบมาพากล  มีเงื่อนไขสลับซับซ้อนหลอกลวง  ทำให้ประชาชนเกิดความคลางแคลงใจ  ตรงนี้คือจุดที่ทำให้คนออกมา  ซึ่งถึงเวลาแล้วที่คนในรัฐบาล  จะต้องมานั่งคุยกันอย่างจริงๆ จังๆ รักษาประเทศนี้ไว้  ทำให้ประชาชน  ซึ่งเป็นเสียงประชาชน  ตอบสนองต่อเสียงประชาชนจริงๆ  วิธีแก้นิดเดียวก็คือ  ตัดความเชื่อมโยงถอดรากระบอบทักษิณออกไป  ถ้าตัดความเชื่อมโยงออกไปได้  ประชาชนก็อาจจะกลับมายอมรับนับถืออีก   
ทีนิวส์  :  ท่านมองปรากฏการณ์มวลชนที่ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย  จะออกมากี่แสนกี่ล้านคนก็นับไม่ถ้วน  แต่ว่ามากกว่าวันที่ 14 ต.ค. 2516  ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก  ถ้าดูให้ลึกลงเข้าไป  มันออกมาด้วยความรู้สึกที่ลึกลงเข้าไปข้างในที่อยากจะออกมาจริงๆ  เป็นเสียงประชาชนที่น่าสนใจจริงๆ  สิ่งที่ผมอยากจะฝากถึงรัฐบาลก็คือว่า  ไม่อยากให้คิดว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นการนำของคุณสุเทพ  เทือกสุบรรณ  ก็อาจจะเป็นคุณสุเทพอยู่ชั่วโมงแรก 2 ชั่วโมง  แต่หลังจากนั้นมันเป็นประชาชนที่ออกมาโดยแท้จริง  และในระบอบประชาธิปไตย  รัฐบาลก็ต้องฟังเสียงประชาชน  อย่าไปตั้งท่าว่าจะผิดหรือจะถูก  ฟังเสียงประชาชนและฟังความต้องการของเขา  และพยายามคิดให้ลึกๆ ว่าเขาต้องการอะไร  ถ้าความต้องการของเขาเป็นความต้องการที่เหมาะสม  ก็ต้องสนองตอบ  ที่ผมพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างนี้นะครับ  ขณะนี้เท่าที่ผมดูทั้งท่าทีของรัฐบาล  และประชาชนที่ออกมาประท้วง  ก็เป็นในลักษณะที่ว่า  เป็นลักษณะที่สู้กัน  รัฐบาลก็คิดว่าคุณสุเทพเป็นคนปลุกขึ้นมา  เราก็ต้องออกมาต่อสู้กับคุณสุเทพ  แต่ผมคิดว่า  ขณะนี้มันเลยจุดนั้นมาแล้ว  ตอนนี้คนไม่ได้ออกมาเพราะคุณสุเทพหรอก   
ทีนิวส์  :  แต่รัฐบาลอาจจะคิดแบบนั้นยากหรือเปล่าว่า  คนที่ขึ้นเวทีเป็นแกนนำ  ถึงการกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ  ก็เป็นการนำของคุณสุเทพ  รัฐบาลอาจจะรู้สึกว่า  เป็นการนำโดยฝ่ายค้านที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล  
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  รัฐบาลอาจจะรู้สึกว่า  คุณสุเทพจุดการประท้วงแห่งความขัดแย้งให้ติด  แต่ความจริงคนที่จุดให้ติดไม่ใช่  คนที่จุดคือทักษิณเองตังหาก  และรัฐบาลเองเป็นคนเริ่ม  ผมอยากจะตั้งประเด็นนี้ขึ้นมาว่า  การสลายในการประท้วงครั้งนี้มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเอง  เพราะว่ารัฐบาลและแกนนำของรัฐบาลเป็นคนเริ่ม  ที่เสนอกฎหมายที่ไม่ชอบมาพากล  มีเงื่อนไขสลับซับซ้อน  มีเงื่อนไขหลอกลวง  แล้วใช้วิธีทุกอย่าง  แม้กระทั่งโหวตตอนเวลา 04:28 ซึ่งคนเขาก็ไม่เคยเจอ พอใช้วิธีนี้มันก็เกิดความคลางแคลงใจ  ตรงนี้คือจุดที่ทำให้คนออกมา  เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็ต้องถามว่าตัวเองมีส่วนไหม  ท่านมีส่วนที่ทำให้คนออกมา  รัฐบาลก็ต้องถอดสลักที่คนออกมา   
ทีนิวส์  :  ทำยังไงครับถอดสลักที่ว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  ความจริงรัฐบาลก็เริ่มทำไปแล้ว 1 อย่าง  ก็คือการถอย  การสั่งให้สมาชิกวุฒิสภาคว่ำกฎหมายนั้น  นั่นเป็นการกระทำที่ถูกต้อง  เมื่อประชาชนไม่พอใจก็ยอมถอยให้  แต่เผอิญรัฐบาลไม่ได้อ่านลึกๆ ว่า  ที่ประชาชนไม่พอใจ  ไม่ใช่แค่พ.ร.บ.นิรโทษกรรม  มันเป็นเรื่องอื่นที่ลึกไปกว่านั้น  เราจะเห็นได้ว่า  ถ้าเป็นพ.ร.บ.นิรโทษกรรม  ประชาชนก็คงจะไม่ออกมาอีกแล้ว  แต่ประชาชนก็ยังอยู่ต่อ  เมื่อมีคนตะโกนว่า  เราต้องออกมาให้ถึงล้านคน  เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณและออกมาขนาดนี้  จริงๆ แล้วลึกๆ ประชาชนเขาออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ  หรือถ้ารัฐบาลอ่านให้ชัดเจนว่า  ประชาชนไม่พอใจกับระบอบทักษิณ  จะด้วยเหตุผลใดผมไม่รู้  แต่รัฐบาลอ่านว่าไม่พอใจ  และเป็นการแสดงความไม่พอใจอย่างบริสุทธิ์จริงๆ อย่างออกมาบอกว่า  ข้าพเจ้าไม่ชอบระบอบทักษิณ  คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลบที่ต้องตอบสนองตัวนี้แล้ว 
ทีนิวส์  :  ข้อเสนอของทางผู้ที่ร่วมชุมนุม  ภายใต้การนำของคุณสุเทพบอกว่า  นายกรัฐมนตรีต้องยุบสภา  ต้องลาออก  แต่นายกฯยังยืนยันว่า  ยังไงก็ไม่ลาออก   
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  รัฐบาลนี้ไม่ได้มีคนๆ เพียงคนเดียวนะ  แต่มีรัฐบาลทั้งชุด  พรรคเพื่อไทยทั้งพรรค  ผมคิดว่า  เราต้องมานั่งวิเคราะห์กันจริงๆ  เพราะประชาชนก็พูดอย่างชัดเจนว่า  ไม่ชอบระบอบทักษิณ แต่รัฐบาลใน 2 ปีที่ผ่านมา  ได้ทำให้คนเห็นอย่างชัดเจนหลายต่อหลายครั้งว่า  มีความเชื่อมโยงไปถึงตระกูลชินวัตร  ไปถึงทักษิณตลอดเวลา  ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมโยงในรูปแบบไหนก็ตาม  แล้วยิ่งน้องสาวได้มาเป็นนายกฯอีกด้วย  มีความเชื่อมโยงปัญหาไปถึงคุณทักษิณแน่นอน ฉะนั้นตรงนี้ก็คือสิ่งที่ทำให้ประชาชนเขาไม่พอใจ  ความไม่พอใจมันลึกมานานแล้ว  จนมีพ.ร.บ.นี้ออกมา  ซึ่งพ.ร.บ.นี้ก็มุ่งเสนอให้คนๆ เดียวอย่างเต็มที่  ความไม่พอใจมันก็แตกเป็นประเด็นออกมา  ไม่ใช่ไม่พอใจแค่นั้น  แต่ไม่พอใจรัฐบาลที่มีความเชื่อมโยงต่อระบอบทักษิณ  มันถึงเวลาที่คนในรัฐบาล  คนในพรรคเพื่อไทย  จะต้องมานั่งคุยกันอย่างจริงๆ จังๆ รักษาประเทศนี้ไว้  ทำให้ประชาชน  ซึ่งเป็นเสียงประชาชนจริงๆ ตอบสนองต่อเสียงประชาชนจริงๆ  
ทีนิวส์  :  ควรจะรับฟังเสียงประชาชนด้วยวิธีการอย่างไร
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  ในแง่ของผมก็คือ  จะต้องตัดความเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลนี้  หรือรัฐบาลที่เกิดขึ้นใหม่ก็ตาม  ตัดคุณทักษิณออก  ถ้าตัดความเชื่อมโยงนี้ได้  ประชาชนถึงจะออกมา  มีความเชื่อมั่นในรัฐบาล  จะอันนี้หรืออันใหม่ก็ตาม  อันนี้ต้องทำให้ได้  รัฐบาลต้องอย่าใส่เชื้อไฟเข้าไปข้างใน  อย่าไปคิดว่า  ฉันจะเอาชนะคุณสุเทพมันไม่ใช่  เราทำยังไงก็ตามให้ประเทศนี้มันอยู่รอด  วิธีแก้นิดเดียวก็คือ  ทุกอย่างในรัฐบาล  ทำยังไงให้รัฐบาลนี้ตัดความเชื่อมโยงถอดรากระบอบคุณทักษิณออกไป  ถ้าตัดความเชื่อมโยงออกไปได้  ประชาชนก็อาจจะกลับมายอมรับนับถืออีก
ทีนิวส์  :  คือต้องพยายามมองก้าวข้ามให้พ้นปัญหาที่เกิดขึ้น  มองอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  ถ้าเป็นรัฐบาลไหน  แล้วมีความเชื่อมโยงกับคุณทักษิณ  คนก็จะออกมาอีก  เพราะเขาได้ออกมาแล้ว  เขามีความไม่พอใจ  ซึ่วงรัฐบาลก็ได้ไปแคะ  ไปกระตุ้นให้มีการออกพ.ร.บ.นั้น  ความรู้สึกมันก็เลยพรั่่งพรูออกมา  ในเมื่อมันพรั่งพรูออกมาแล้ว  เราก็ต้องฟังเขา  เพราะคราวนี้เป็นเสียงของประชาชน  ไม่ใช่เสียงของคุณสุเทพ อย่าไปคิดว่า  ทำอย่างนี้แล้วจะแพ้คุณสุเทพมันไม่ใช่  ทำอย่างนี้แล้วจะตอบสนองประชาชน  ซึ่งเป็นเสียงของประชาธิปไตยที่แท้จริง  อันนี้คือระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง  ประชาธิปไตยไม่ได้อยู่แค่การเลือกตั้ง
ทีนิวส์  :  ทางออกที่หม่อมอุ๋ยเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ  ต้องยุบสภา  หรือต้องลาออกหรือเปล่า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  :  ผมว่าคนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย  หรืออยู่ในรัฐบาลคิดเป็น  โจทย์นิดเดียวคือ  ตัดความเชื่อมโยงนี้  หรือรัฐบาลหน้าก็ตามกับคุณทักษิณออกให้ได้  ตัดแบบชนิดที่ว่า  จะไม่เชื่อมโยงอีกต่อไป  ทุกอย่างก็จะกลับมาที่เดิมได้  ทุกคนก็จะกลับมาเข้าที่ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น