วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นาซ่าชี้'ดาวเคราะห์น้อย'เฉียดโลกวันนี้

นาซ่าชี้'ดาวเคราะห์น้อย'เฉียดโลกวันนี้


นาซ่าชี้'ดาวเคราะห์น้อย'เฉียดโลกวันนี้

'นาซ่า' ระบุ ดาวเคราะห์น้อยขนาดเท่าภูเขา จะเฉียดเข้าใกล้โลกในวันนี้


31 พ.ค.56 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดาวเคราะห์น้อย ที่มีขนาดเท่าภูเขา และได้รับการคาดหมายว่า จะเคลื่อนตัวเฉียดเข้าใกล้โลกในวันนี้ ได้ทำให้เกิดการอภิปรายกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับการจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ กรณีดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก
ทั้งนี้ ดาวเคราะห์น้อย 1998 คิวอีทู (1998 QE2) มีกำหนดจะเคลื่อนตัวผ่านโลกในจุดที่องค์การบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซ่า เรียกว่า ระยะปลอดภัยที่ประมาณ 5.76 ล้านกิโลเมตร หรือ 15 เท่าของระยะทางจากโลกไปยังดวงจันทร์

ดาวเคราะห์น้อยนี้ ถูกตั้งตามชื่อของเรือสำราญที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ควีน เอลิซาเบธทู (Queen Elizabeth II) ของบริษัทคูนาร์ด ส่วนตัวเลข 1998 มาจากปีที่มันถูกค้นพบ


อีกทั้ง ดาวเคราะห์น้อย 1998 คิวอีทู ซึ่งได้รับการประเมินว่ามีความยาว 2.72 แต่ยังไม่อาจประเมินรูปร่างได้ จะถูกตรวจจับได้โดยกล้องโทรทรรศน์เรดาร์ เมื่อมันเคลื่อนตัวผ่านโลก และนาซ่ากำลังวางแผนตัดทำกิจกรรมที่หลากหลายทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการเคลื่อนตัวผ่านโลกของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ และให้สาธารณชนได้รับฟังคณะนักวิทยาศาสตร์อภิปรายและหารือกันในประเด็นที่ว่า พวกเขาได้เรียนรู้อะไรจากการมาของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้


นาซ่า ยังระบุว่า ได้ให้ความสำคัญในระดับสูงต่อการติดตามดาวเคราะห์น้อย และการปกป้องโลก
ภายใต้โครงการ " วัตถุใกล้โลก " (Near-Earth Object) และนับเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่โครงการนี้ดำเนินไปโดย เซนทรี่ (Sentry) หรือการใช้ระบบคอมพิวเตอร์วิเคราะห์และอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยโดยอัตโนมัติ รวมถึงการค้นหาดาวเคราะห์น้อยหรือวัตถุอวกาศที่อาจจะพุ่งชนโลก


สำหรับในปี 2559 นาซ่าจะส่งหุ่นยนต์อวกาศ โอซิริส เร็กซ์ (OSIRIS REx) ไป
สำรวจหนึ่งในวัตถุอวกาศที่อันตรายที่สุด ตามฐานข้อมูลของเซนทรี่ ที่มีชื่อว่า ดาวเคราะห์น้อย 101955 เบนนู (101955 Bennu) ซึ่งโอซิริส จะช่วยให้คณะนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาดาวเคราะห์น้อย หรือแม้แต่เก็บตัวอย่างขนาดเล็กกลับมาศึกษายังโลกได้เช่นกัน


อย่างไรก็ตาม การที่ไม่ได้จับตาหรือมีความรู้ที่แน่นอน เกี่ยวกับขนาดและรูปทรงของดาวเคราะห์น้อย
ทำให้ยากที่จะทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ความผิดปกติในวงโคจร แต่ 101955 เบนนู เป็นหนึ่งในกลุ่มของดาวเคราะห์น้อย เป็นที่รู้จักที่เรียกว่า กลุ่มอพอลโล่ (Apollo) ที่มีโคจรตัดกับโลกทำให้ความเสี่ยงขนาดเล็ก แต่ยากจะคำนวณโอกาสที่จะชนกัน และจากการคำนวนของนักวิทยาศาสตร์นาซ่า พบว่า มีโอกาส 1 ใน 1,800 ที่ดาวเคราะห์น้อยเบนนูจะชนกับโลก ในปี ค.ศ. 2182
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

วัยรุ่นดวลปืนสนั่นดับ 1 หลังเคลียร์ค่าแข่งรถไม่ลงตัว จ่ายด้วยลูกปืนแทน 31 5 56



วัยรุ่นดวลปืนสนั่นดับ 1 หลังเคลียร์ค่าแข่งรถไม่ลงตัว จ่ายด้วยลูกปืนแทน
เวลา 00.10 น. วันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.รัฐภาค โสภาพ สว.เวรฯ สภ.แสนสุข
ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกันที่ที่บริเวณถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองหนองมน ใกล้กับร้านแซ่บนัว ตำบลเหมือง อำเภอเมืองชลบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกับพล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อิทธิพร โพธิทอง ผกก.สภ.แสนสุข ไปที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายวัชชระ หรือ ต้อง ชื่นศิริ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ซอย 9 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่โหนกแก้มข้างขวา 1 นัด ต้นแขนขวา 2 นัด หน้าอกซ้าย 1 นัด ศรีษะ 1 นัด และชายโครงขวาอีก 1 นัดและพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายยี่ห้อซูซูกิ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง 24-175 สภ.เมืองชลบุรี และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวน 9 ปลอก และขนาด 9 มม.อีก 4 ปลอก ตกในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวัชชระ ผู้ตายได้มาตกลงเกี่ยวกับเงินแข่งรถกับนายบาส บางทราย
ซึ่งแข่งรถจบไปช่วงเวลา 23.00 น.ที่ผ่านมา ทางนายบาสแพ้ แต่ไม่ยอมจ่าย ตกลงกันไม่ได้ จึงเปิดฉากยิงกันเสียงปืนดังสนั่น นายวัชชระเห็นทีสู้ไม่ได้ เพราะฝ่ายของนายบาส และนายโหน่ง มีปืน 2 กระบอก จึงวิ่งหนีจะไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ ทางกลุ่มของนายบาส วิ่งตามไปยิงซ้ำ จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จึงขับรถฮอนด้า แจ๊ส สีขาว จำหมายเลขทะเบียน 8553 ไมีทราบหมวดจังหวัด ขับรถหลบหนีเข้าตัวเมืองชลบุรี

สำหรับนายวัชชระ เคยถูกจำคุกในคดีพยายามฆ่า มา 6 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 3 เดือน ไม่มีงานทำ และชอบแข่งรถ
ล่าสุดไปแข่งรถกับบาส บางทราย และชนะ จึงได้มาเคลียร์เรื่องเงิน แต่ก็มาถูกยิงตายดังกล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

'หน้ากากขาว'โผล่กรุง!รวมตัวต้านระบอบ'ทักษิณ' 31 5 56



'หน้ากากขาว'โผล่กรุง!รวมตัวต้านระบอบ'ทักษิณ'
วันนี้ 31 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่หน้าเพจ Dislike Yingluck For Concentration Citizen ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านหน้าเพจ โดยระบุว่า
ประกาศข่าวด่วน ขณะนี้กำลังมีการรวมตัวแถวหน้าโรงแรมดุสิตธานี. ขอความอนุเคราะห์จากพี่น้องในเพจ. คนไหนว่างรีบไปด่วนตอนนี้ใครมีหน้ากากขาวเอาไปด้วยถ้าไม่มีที่นั้นมีแจกไปตอนนี้ด่วนครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ได้มีกลุ่มคนจาก กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย สนามหลวง ร่วมกับ กลุ่ม Woman Thailand

ที่ได้ใช้เฟซบุ็กเชินชวนคนไทยออกมาร่วมต่อต้านแสดงพลังล้มล้างระบอบทักษิณ โดยใช้สัญลักษณ์เป็นหน้ากากขาว ได้ออกมารวมตัวปลุกกระแสให้คนออกมาร่วมกันแสดงพลัง ซึ่งจนถึงขณะนี้ต่างมีผู้คนที่ได้รับข่าวสารผ่านทางโลกออนไลน์ต่างเดินทางมาร่วมแสดงพลังกันเป็นจำนวนมากแล้ว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันที่ 30 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนสาย 218 บุรีรัมย์-นางรอง ก.ม.ที่ 22 บ.บุลาว ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์



คนแห่ไหว้หลักกิโลเมตร "เลขเบิ้ล" ที่จ.บุรีรัมย์
วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนสาย 218 บุรีรัมย์-นางรอง ก.ม.ที่ 22 บ.บุลาว ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ชาวบ้านและผู้สัญจรไปมาพากันนำสิ่งของ และน้ำแดงมาเซ่นไหว้หลักกิโลเมตรบอกระยะทาง โดยหลักกิโลเมตรดังกล่าว ระบุระยะห่างจาก อ.เมืองบุรีรัมย์ 22 ก.ม. ห่างจาก อ.พุทไธสง 88 ก.ม. ห่างจาก อ.นางรอง 33 ก.ม. และห่างจาก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 103 ก.ม. เป็นเลขเบิ้ล ไม่เคยพบที่ไหน อีกทั้งมีชาวบ้านนำเลขดังกล่าวไปเสี่ยงโชคและถูกรางวัลมาแล้วหลายราย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

‘บิณฑ์’ บุกโรงเชือดรังสิตไถ่ควายแม่ลูกอ่อน 5 ชีวิต มาไม่ทันตัวพ่อถูกฆ่าแล้ว 31 5 56



‘บิณฑ์’ บุกโรงเชือดรังสิตไถ่ควายแม่ลูกอ่อน 5 ชีวิต มาไม่ทันตัวพ่อถูกฆ่าแล้ว
เวลา 22.30 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าโรงเชือดสัตว์ ฟาติมาฟาร์ม ภายในชุมชนแก้วนิมิตร บ้านเลขที่ 12/23 หมู่ 5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ,ปทุมธานี เพื่อไถ่ชีวิตควายคอกแม่ลูกอ่อน จำนวน 5 ชีวิต เป็นควายเพศเมีย 2 ตัว และลูกควาย 3 ตัว หลังจากสืบทราบว่าแม่ควาย 2 ตัวจะถูกเข้าโรงเชือดในวันพรุ่งนี้

เมื่อเดินทางไปถึงภายในชุมชน พบว่าอาชีพส่วนใหญ่ของคนในชุมชนมีอาชีพเชือดวัว ,ควายเพื่อขายเนื้อ
และเมื่อไปถึงคอกวัว,ควาย ของโรงเชือดฟาติมาฟาร์ม พบกับนางกานดา ปาทาน อายุ 60 ปี เจ้าของคอก และพบวัวประมาณกว่า 30 ตัว ถูกขังอยู่ในคอกวัว โดยมีการแยกเป็นคอก ๆ รวมประมาณ 4-5 คอก และพบที่คอกควาย มีควายตัวเมีย 2 ตัว และลูกควาย 3 ตัว อยู่ภายในคอกที่กั้นแยกไว้ต่างหากจากวัว ตามที่ได้รับแจ้งมาจริง โดยควายคอกแม่ลูกอ่อนดังกล่าวอยู่ในคอกรวมกัน พบว่าลูกควายจะส่งเสียงร้องเรียกตลอดเวลา เพราะเป็นลูกควายยังไม่หย่านมแม่ และเดินพันแข้งขาแม่ควายแสดงความผูกพันของแม่ควายและลูกควาย ควายเพศเมียทั้ง 2 ตัว มีร่องรอยคราบน้ำตาแสดงให้เห็นเป็นที่น่าสงสารกับผู้ที่พบเห็น โดยไม่มีอาการตื่นตกใจแต่อย่างใด
จากนั้น บิณฑ์ จึงได้ติดต่อกับทางเจ้าของโรงเชือดดังกล่าว เพื่อขอไถ่ชีวิตควายคอกแม่ลูกอ่อนทั้ง 5 ตัวนี้
โดยตกลงราคากันเป็นเงิน 90,000 บาท ช่วยชีวิตควายคอกแม่ลูกอ่อนให้หลุดพ้นจากการถูกฆ่าในโรงเชือด จากนั้นทางด้านบิณฑ์ฯ ได้นำควายที่ไถ่ชีวิตมาได้ ให้ไปอยู่ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ย่านบางพลีก่อน จากนั้นจะดำเนินการประสานมอบถวายให้วัดช่วยดูแลต่อไป

ด้านบิณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลการแจ้งจากคนเลี้ยงที่จังหวัดนครนายก
ทราบว่าได้ขายควายยกคอก 6 ตัว เป็นคอกควายแม่ลูกอ่อน มีเพศผู้ 1 ตัว และเพศเมีย 2 ตัว และลูกควายยังไม่หย่านมอีก 3 ตัว แต่เมื่อมาถึงพบว่า ควายเพศผู้ซึ่งเป็นพ่อควายถูกนำเข้าโรงเชือดเสียชีวิตไปแล้ว ยังคงเหลือควายอีก 5 ตัว เสียดายที่มาไม่ทัน ซึ่งเหตุที่ทางเจ้าของขายให้กับโรงเชือดเพราะขัดสนทางด้านการเงิน จึงจำใจขายควายให้โรงเชือดยกคอก ทั้งที่เป็นคอกควายแม่ลูกอ่อน จึงได้ติดต่อจนพบว่าโรงเชือดอยู่ที่ย่านรังสิต ปทุมธานี จนพบว่าอยู่ที่โรงเชือดดังกล่าว และมีผู้ร่วมบุญต้องการช่วยเหลือคอกควายแม่ลูกอ่อนดังกล่าวได้ร่วมบริจาคมอบเงินเพื่อช่วยกันไถ่ชีวิต จึงรวบรวมเงินบริจาคตั้งใจมาไถ่ชีวิตให้หลุดพ้นจากความตาย โชคดีที่มาช่วยแม่ควายได้ทัน เพราะในวันพรุ่งนี้ต้องถูกฆ่าในโรงเชือดแล้ว

นางกานดา เจ้าของโรงเชือด กล่าวว่า ได้ตระเวนซื้อควายมาจาก จ.นครนายก ได้ประมาณ 2 เดือนที่แล้ว และทยอยนำควายเข้าโรงเชือด
แต่ควายคอกแม่ลูกอ่อนดังกล่าวไว้นำมาขังรวมกันไว้เพราะยังไม่หย่านม อีกทั้งมีความสงสารจึงยังไม่นำควายเพศเมียซึ่งเป็นตัวแม่เข้าโรงเชือด เพราะสงสารลูกควายที่ยังคงต้องกินนมจากแม่ควายอยู่ หากทางด้านคุณบิณฑ์ มีความประสงค์ที่จะไถ่ชีวิตพวกมัน ก็ยินดี และเต็มใจ โดยไม่ได้คิดเงินเกินราคาแต่อย่างใด ให้จ่ายตามราคาที่ซื้อมาจากเจ้าของควายเท่าเดิม เพราะใจจริงไม่อยากจะฆ่าแม่ควายด้วยซ้ำเพราะลูกควายยังไม่หย่านม แต่ด้วยเหตุจำเป็นซึ่งทางเรามีอาชีพขายเนื้อ ก็ต้องตัดสินใจทำ โดยในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ ตี 5 ก็จะนำแม่ควายไปเข้าโรงเชือด ถือว่าเป็นความโชคดีของคอกควายแม่ลูกอ่อนคอกนี้ที่มีคนมาช่วยเหลือ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

กองทัพบก ชี้ “บีอาร์เอ็น” แถลงยูทูบข่มขู่ บิดเบือนข้อเท็จจริง สงสัย “ฮัสซัน ตอยิบ” ตัวปลอม เพื่อยกระดับตัวเอง 31 5 56



ทบ.ชี้BRNแถลงยูทูบข่มขู่บิดเบือนข้อเท็จจริง
กองทัพบก ชี้ “บีอาร์เอ็น” แถลงยูทูบข่มขู่ บิดเบือนข้อเท็จจริง สงสัย “ฮัสซัน ตอยิบ” ตัวปลอม เพื่อยกระดับตัวเอง

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์กรณีตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็น นายอุสตาซ การิม ออกแถลงผ่านยูทูบว่า มีลักษณะเรียกร้องแกมบังคับข่มขู่ให้ตอบสนองข้อเสนออ้างอิงหยิบยกเหตุรุนแรงในอดีตกรณีการเสียชีวิตชาวบ้าน 6 ศพ ว่า ทำไปเพราะตอบโต้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เพื่อหวังผลในทางจิตวิทยา

เนื่องจากตั้งแต่เริ่มมีการพูดคุยกับกลุ่ม BRN ยังไม่สามารถแสดงออกได้ชัดเจนว่า สามารถควบคุมวิถีการก่อเหตุในพื้นที่ได้

จนเป็นเหตุให้สังคมเริ่มตั้งข้อสังเกตถึงสถานะตัวตนของกลุ่มฯ ดังกล่าว จึงอาจเป็นผลนำไปสู่การกล่าวอ้างถึงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อนำมาเชื่อมโยงให้สังคมได้รับรู้ถึงสถานะ ทั้งนี้ข้อมูลที่จะต้องพิสูจน์ความน่าเชื่อถือต่อไป โดยที่สำคัญคือ เนื้อหาบางตอนยังคงพยายามบิดเบือนเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ว่ามาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ในลักษณะนี้ อาจเคยใช้ได้ผลมาเมื่อสมัยตอนเริ่มมีสถานการณ์ นอกจากนี้เหตุการณ์รุนแรงมีความเชื่อมโยงกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่และปัญหาภัยแทรกซ้อนในเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ใช่มีเหตุปมเงื่อนไขเป็นไปตามการประกาศของ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น เพียงอย่างเดียว


“การพูดคุยสันติภาพกับ นายฮัสซัน ตอยิบ อาจเป็นเพียงการดำเนินการต่อกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไป
โดยเฉพาะความต้องการแฝงในการอยากยกระดับ หรือสร้างมูลค่ากลุ่มในสายตาของทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายหรือยกระดับไปสู่เวทีสากล ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร ที่สำคัญกลุ่มของ นายฮัสซัน ตอยิบ อาจไม่ใช่ตัวแทนของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้งหมดในพื้นที่ ข้อเสนอบางส่วนดูยังไม่สอดคล้องในหลักมาตรฐานกฎกติกาทางสังคม อย่างไรก็ดีการพูดคุยสันติภาพกับ นายฮัสซัน ตอยิบ ก็น่าจะมีส่วนในการเพิ่มโอกาสที่จะสร้างความสงบในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

จากกรณีที่ที่ 4 คนร้าย บุกเข้าไปทำร้ายนาย นายมูฮัมหมัดซับลี บินซาเอ็ด องค์รักษ์มกุฎราชกุมาร สุลต่านรัฐเคด้า ประเทศมาเลเซีย 31 5 56



จับได้แล้ว 2 คนคดีทำร้ายองครักษ์สุลต่าน
จากกรณีที่ที่ 4 คนร้าย บุกเข้าไปทำร้ายนาย นายมูฮัมหมัดซับลี บินซาเอ็ด องค์รักษ์มกุฎราชกุมาร สุลต่านรัฐเคด้า ประเทศมาเลเซีย
ภายในห้องพักเลขที่1627 ของโรงแรมมิลเลเนี่ยม รีสอร์ท ป่าตอง ภูเก็ต เพื่อหมายลอบสังหารองค์รัชทายาทมกุฎราชสุลต่าน รัฐเคด้าห์ ประเทศมาเลเซีย แต่โชคดีที่องค์รักษ์คนดังกล่าวรู้ข่าวก่อนจึงได้ย้ายห้องมกุฎราชกุมารไปนอนห้อง 1648 ส่วนองค์รักษ์ย้ายมานอนห้องที่เกิดเหตุซึ่งและรับกรรม โดยคนร้ายได้ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปแล้วซุกซ่อนตัวอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ เมื่อองค์รักษ์กลับจากรับประทานอาหารก็ได้เปิดประตูเข้าไปในห้องเพื่อพักผ่อนแต่กลับถูกคนร้าย 4 คน ได้ใช้สายไฟฟ้าอ่อนจับมัดมือไพร่หลังแล้วใช้มีดจี้ก่อนใช้ของแข็งตีจนเลือดอาบจากนั้นก็ได้หยิบทรัพย์สินหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ความคืบหน้า พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ได้กำชับคดีมาเป็นพิเศษในการติดตามจับกุมคนร้าย ที่ก่อเหตุ ทำร้าย เนื่องจากก่อเหตุแบบอุกอาจในโรงแรมที่มีคนพลุกพล่าน และหลังจากที่เกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ได้ติดตามคนร้ายให้ได้ด่วน ก่อนที่จะมาสรุปประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ากล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ทั้ง 4 คน และเป็นหลักฐานสำคัญในการติดตามจับกุมคนร้ายโดยได้ประสานไปยังตำรวจทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ต นอกจากนั้นยังได้ประสานไปยังตำรวจภูธรภาค 8-9 ให้ช่วยกันติดตามบุคคลต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะด่านตรวจรอยต่อระหว่างประเทศทุกจุดในตำรวจภูธรภาค 8 และ ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อป้องกันคนร้ายไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ

ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวอีกว่า หลังจากการสอบสวนติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วจำนวน 2 คน
คือนายสาคร หลีโสภา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.3 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา จับกุมตัวได้ระหว่างจะหลบหนีออกไปประเทศมาเลเซีย ส่วนนายประคอง (หรือเอียด) หลีโสภา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.3 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สิเกา จับกุมได้ขณะตั้งด่านสกัดในพื้นที่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์

สำหรับแนวทางการสอบสวนในการติดตามจับกุมคนร้ายครั้งนี้ทราบว่า
คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ได้เตรียมการวางแผนมาอย่างดีมีการทำงานกันเป็นทีมระดับมืออาชีพ น่าจะติดตามอยู่หลายวัน โดยคนร้ายได้พักที่โรงแรมแหนึ่งในในพื้นที่ตำบลกะรน จากนั้นได้ใช้รถยนต์เก๋งเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้วได้กลับมายังที่พักที่โรงแรม ต.กะรน จากนั้นก็ได้หลบหนีออกนอกเกาะภูเก็ตจนกระทั่งจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งไปรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบสวน เพื่อถึงสาเหตุว่าสาเหตุการเข้าทำร้ายครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ เป็นการหมายเจ้าลอบสังหารมกุฎราชกุมารหรือเป็นการหมายเข้าเพื่อเอาทรัพย์สิน เนื่องจากมีทรัพย์สินหายไปรวมมูลค่า 42,060 บาท ประกอบด้วยพาสปอร์ต 1 เล่ม เงินไทย 14,660 บาท เงินริงกิต 640 ริงกิต เป็นเงินไทยประมาณ 5,400 บาท บัตรประชาชนมาเลเซีย 1 ใบ บัตรเอทีเอ็มเมแบงค์ 1 ใบ โทรศัพท์ lphone 5 จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 22,000 บาทไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าขณะนี้มกุฎราชกุมารแห่งรัฐเคด้า ประเทศมาเลเซียและผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมคณะได้เดินทางออกจากที่พักบินกลับประเทศมาเลเซียแล้ว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

มือดี ปล่อยคลิป ลีน่า จัง ถือมีดพร้อมด่ากราด หลังโดนเจ้าหน้าที่ ตำรวจบุกสถานี - งัดบ้าน 31 5 56



ปล่อยคลิปลีน่าจังโดนตร.บุกสถานีว่อนเน็ต
มือดี ปล่อยคลิป ลีน่า จัง ถือมีดพร้อมด่ากราด หลังโดนเจ้าหน้าที่ ตำรวจบุกสถานี - งัดบ้าน
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีมือดี เผยแพร่คลิปวิดีโอ ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊ก โดยคลิปดังกล่าว มีความยาว 3.51 นาที ซึ่งเป็นภาพของ นางลีนา จังจรรจา เจ้าของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฮอต ทีวี และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือที่รู้จักในชื่อ ลีน่า จัง ยืนถือมีดขนาดยาว ขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย พร้อมด่ากราดสารพัด เนื่องจากอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้ามาบุกสถานี หลังนำหมายศาลเข้าตรวจค้น ร้านเครื่องสำอางและสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม
โดยก่อนหน้านี้ นางลีน่า อ้างว่าตำรวจใช้วิธีพังแม่กุญแจเพื่อบุกเข้าไปด้านใน ทำให้กุญแจร้านได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าอินทราสแควร์ ประตูน้ำ เลขที่ 120/111-112 ถนนราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านจำหน่ายเครื่องสำอางของตนเอง และยังเป็นสถานที่ออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ฮอต ทีวี ซึ่งทันทีที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงไป ทำให้มีผู้ชมในสังคมออนไลน์ ต่างเข้ามาเปิดดูคลิปวิดิดังกล่าว 319 ครั้ง ทั้งนี้จากการสอบถามไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลพญาไท ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ แจ้งว่า ไม่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

ระทึก!6ล้อเสียหลักอุโมงค์ห้วยขวางชนไฟลุกท่วม 31 5 56



ระทึก!6ล้อเสียหลักอุโมงค์ห้วยขวางชนไฟลุกท่วม
ฝนตก ถนนลื่น ทำให้รถถบรรทุกเสียหลักในอุโมงค์ห้วยขวาง รถวิ่งตามมาชน 6 คันรวด ไฟไหม้วอด 3 คัน เจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ เร่งเคลียร์ ขณะที่จราจรยังติดขัดอย่างหนัก
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน ในอุโมงค์ห้วยขวาง จนเกิดเพลิงลุกไหม้รถบรรทุก 6 ล้อ และลุกลามไปยังรถที่ชนกัน มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เจ้าหน้าที่ รีบช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บออกจากรถ ก่อนที่เพลิงจะลามมาถึงตัวรถ โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบ พบมีรถชนกันทั้งหมด 6 คัน เป็นรถแท็กซี่ 4 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน
โดยเพลิงลุกไหม้รถทั้งหมด 3 คัน ประกอบด้วย รถบรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุสีขาว ทะเบียน บต 8374 นนทบุรี รถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทศ 4337 กรุงเทพมหานคร และอีก 1 คัน เป็นรถกระบะ โตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน 8ฎ 0370 กรุงเทพมหานคร ส่วนสาเหตุเกิดจากฝนตกทำให้ถนนลื่น โดยรถบรรทุกเสียหลักขวางถนนจากนั้น รถที่วิ่งตามมาได้ชนกันจนเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

โผล่อีก!นักโทษชายโชว์เกรียนโพสต์รูปผ่านFB 31 5 56



โผล่อีก!นักโทษชายโชว์เกรียนโพสต์รูปผ่านFB
วันนี้ 30 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกสังคมออนไลน์โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก
กำลังวิพากวิจารณ์อย่างหนักเมื่อมีรูปภาพของนักโทษชายใส่โซ่ตรวน ตามร่างกายมีแต่รอยสัก โดยในมือถืออาวุธลักษณะคล้ายมีด ได้ถูกโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความ "ทายสิถ่ายที่ไหน" โดยภาพดังกล่าวมีรายงานว่า เป็นภาพของนักโทษชายแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี และมีการใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายและอัพโหลดผ่านเฟซบุ๊ก จนได้มีการแชร์รูปภาพส่งต่อ จนเป็นข่าวฮือฮา น

อกจากนี้บรรดาชาวเน็ตต่างตั้งข้อสงสัยว่า หากเป็นนักโทษจริง ทำไมจึงสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพนี้ได้ ซึ่งเป็นภาพที่อยู่ภายในเรือนจำ เพราะระเบียบก็มีชัดเจนว่านักโทษห้ามใช้หรือมีอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้วก็เกิดกรณีนักโทษชายโพสต์ภาพจากในคุกในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก โดยผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกได้สั่งสอบและลงโทษขังเดี่ยว นักโทษที่โพสต์รูปผ่านเฟซบุ๊กเช่นกัน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วิจารณ์แซดภาพนักโทษชายโพสต์ท่าหมู่โชว์ว่อนเน็ต 31 5 56



วิจารณ์แซดภาพนักโทษชายโพสต์ท่าหมู่โชว์ว่อนเน็ต
ภาพจาก Isnhotnews
ภาพจาก Isnhotnews

นักท่องโลกไซเบอร์ วิจารณ์แซด กรณีนักโทษชาย โพสต์ภาพอริยาบถต่างๆ ทางสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก พร้อมถามหามาตรฐานด้านความปลอดภัย

ขณะนี้ได้เกิดกระแสวิพากษวิจารณ์ อย่างกว้างขวาง ในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่ภาพชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายผู้ต้องขังมีโซ่ตรวนล่ามอยู่ที่ข้อเท้า โพสต์อยู่ในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “น.ช.ชั้นเลว” และ “น้องกัส น้องกัส” ซึ่งมีการระบุไว้ว่า

ภาพดังกล่าวถูกอัพโหลดมาจากโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งบอกว่าจุดที่ถ่ายอยู่ใน จ.ชลบุรี สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเน็ตอย่างมาก ถึงความหละหลวมของเรือนจำ เนื่องจากเหตุใดเรือนจำที่ห้ามใช้เทคโนโลยีทุกชนิดถึงใช้โทรศัพท์มือถือได้ นอกจากนี้ ภายในเฟซบุ๊กต้นเหตุยังพบว่ามีการเคลื่อนไหวเอาภาพเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อความล่าสุดที่ถูกโพสต์ไว้คือเมื่อเวลา 09.34 น.วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการอัพเดตสถานะว่ากำลังนับถอยหลังจะได้ออกจากเรือนจำ ส่วนภาพที่โพสต์อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพ ชายคล้ายนักโทษทั้งเดี่ยวและหมู่ ยืนยิ้มเล่นกับกล้องถ่ายรูปที่กำลังบันทึกภาพอยู่ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เรือนจำมาควบคุมดูแล บางภาพก็เป็นการจับกลุ่มสักยันต์ บางภาพก็ยืนแก้ผ้าหนีบอวัยวะเพศเอาไว้ รวมทั้งยังมีอิริยาบถอีกมากมายโดย

นายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผบ.เรือนจำกลางชลบุรี เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องได้ตรวจสอบภาพชายดังกล่าวแล้ว ทำให้พบว่าเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำจริง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช่ที่เรือนจำกลางชลบุรี ต้องขอเวลาในการค้นหาสักระยะเพื่อความถูกต้อง ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้ต้องขังรายนี้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 8 เดือน ในคดียาเสพติดและกำลังจะได้พ้นโทษสู่อิสรภาพในวันที่ 6 มิ.ย.ที่จะถึงนี้แล้ว

"ป.5" ยอดกตัญญูหอบข้าวโรงเรียน กลับบ้านป้อนพ่อพิการทุกวัน 31 5 56



"ป.5" ยอดกตัญญูหอบข้าวโรงเรียน กลับบ้านป้อนพ่อพิการทุกวัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้รับแจ้งจากนายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผอ.โรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ น.ส.นลิน นาถ้ำพลอย ครูประจำชั้นป.5 ว่า ต้องการให้ผู้มีจิตกุศลเข้าช่วยเหลือ ลูกศิษย์ ชื่อ ด.ญ.สุภาพร ญาณสิทธิ์ อายุ 11 ปี หรือ น้องนุ่น นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพราะเป็นเด็กที่มีความกตัญญูต่อบิดาที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ซึ่งได้ดูแลด้วยความแร้งแค้นมานานถึง 3 ปี

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านของน้องนุ่น ซึ่งห่างจาก โรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร ถึง 2 กิโลเมตร ลึกเข้าไปที่บ้านโนนศาลา
เลขที่ 117 หมู่ที่ 13 ตำบลภูดิน ซึ่งก็ต้องพบกับสภาพที่สุดจะเวทนา ซึ่งน้องนุ่น กำลังประคอง นายสมบูรณ์ ญาณสิทธิ์ อายุ 56 ปีผู้เป็นบิดา ขึ้นมาป้อนข้าวที่บรรจุปิ่นโตที่ได้รับการแบ่งอาหารจากทางโรงเรียน พร้อมกับเช็ดตัวให้กับบุพการี ซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์อย่างไม่รังเกียจ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบสภาพบ้านที่อยู่ของ น้องนุ่น
มีสภาพไม่ต่างจากกระท่อมปลายนา ที่มีขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาว 2.50 เมตร มุ่งหลังคาด้วยสังกะสีเก่า แล้วล้อมตัวบ้านด้วยผ้าใบ กระดาษที่ได้รับการบริจาคจากชาวบ้านที่ต่างเวทนาสงสาร มีเพียง นางแสวง ญาณสิทธิ์ อายุ 60 ปี ยาย ที่แบ่งพื้นที่บ้านให้ คอยเลี้ยงดูตามอัตภาพ

น.ส.นลิน ภูถ้ำพลอย ครูประจำชั้น กล่าวว่า ต้องการที่จะให้ผู้มีจิตกุศลได้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของ น้องนุ่น
เพราะ ตนเองได้ติดตามชีวิตของน้องนุ่นมาตั้งแต่เข้าโรงเรียน และเพิ่งจะเกิดปัญหาหนักในช่วง 3 ปีให้หลัง เพราะครอบครัวแตกแยก พ่อแม่หย่าร้าง และมีครอบครัวใหม่ แต่ก็ต้องมาประสบกับปัญหาเพราะ พ่อของน้องนุ่น ซึ่งมีอาชีพหาปลา ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ จนเป็นเหตุให้เป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนก็ทราบข่าวมาตลอด และคอยประคองชีวิตของน้องนุ่น ให้ได้รับการศึกษาตามอัตภาพ แต่มาในระยะหลัง เด็กเริ่มขาดโรงเรียน ครูจึงได้เดินทางเข้ามาดู ก็พบว่า ครอบครัวมีฐานะยากจนมาก จะมีก็เพียง นางแสวง ญาณสิทธิ์ ผู้เป็นยาย คอยดูแลมาตั้งแต่เกิด แต่เด็กที่มีความกตัญญู ซึ่งก็เลือกที่จะอยู่กับ พ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์

"ทุกวันก็จะเห็น น้องนุ่นต้องรีบกลับบ้านมาป้อนข้าว ป้อนน้ำให้กับพ่อ แต่ น้องนุ่น เป็นเด็กที่มีความกตัญญูสูง ชีวิตในแต่ละวัน จึงไม่ใช่ชีวิตของ เด็กอายุ 11 ปี ทั่วไป ไม่มีโอกาสไปเล่นกับเพื่อนๆ เพราะฐานะยากจน ในแต่ละวันหากเป็นวันหยุด ก็จะไปรับจ้างคัดปลาบริเวณท้ายเขื่อนลำปาว ก็จะได้ค่าแรงครั้งละ 40 บาท จากนั้นก็จะนำมาซื้อข้าวปลา อาหารให้พ่อรับประทาน ส่วนในช่วงวันเรียนปกติ ก็จะตื่นแต่เช้าไปที่วัดในหมู่บ้าน เพื่อรับอาหารจากพระที่ฉันท์แล้วมากินกับพ่อ ก่อนที่จะออกไปเรียนหนังสือ และในช่วงเที่ยง ก็จะรีบนำปิ่นโตไปรับอาหารจากแม่ครัวในโรงเรียน แล้วก็จะรีบปั้นจักรยานกลับบ้านมากินข้าว เช็ดตัวให้พ่อ ส่วนในช่วงเย็นก็จะได้รับการสงเคราะห์จากเพื่อนบ้านและยาย มาดูแล ซึ่งวันไหนโชคร้าย ก็จะไม่ได้กินข้าว ซึ่งก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา” ครูประจำชั้น กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

'พ.ต.ท.'เครียดยิงตัวตายใกล้โรงพัก 31 5 56



'พ.ต.ท.'เครียดยิงตัวตายใกล้โรงพัก

'พ.ต.ท.'เครียดเรียนหนักแต่มีงานต้องรับผิดชอบมาก ขี่จยย.ออกไปห่างโรงพัก 1 ก.ม.ยิงตัวเองเสียชีวิต เผยเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผู้การฯภาค 1


เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ต.ต.พีระกุล แฝงฤทธิ์หลง พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณป่าละเมาะหลังโรงงานมินิแบ หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศีอยุธยา ห่างจากสถานีตำรวจประมาณ 1 กม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธวัชชัย เกิดโภคทรัพย์ ผกก.สภ.บางปะอิน และชุดสืบสวนไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ ราญสระน้อย อายุ 58 ปี หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา
นอนจมกองเลือด หายใจรวยริน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .45 เข้าที่บริเวณกกหูขวา จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนวนคร 2 แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีฟ้า จอดอยู่
และพบอาวุธปืนขนาด .45 ของพ.ต.ท.ไพฑูรย์ ตกอยู่ด้วย โดยกระสุนยิงไป 1 นัด มีกระสุนเหลืออยู่ 6 นัด และยังพบปลอกกระสุนชนิดเดียวกัน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า พ.ต.ท.ไพฑูรย์ เป็นนายตำรวจที่มีอัธยาศัยดี เพิ่งย้ายมาจาก สภ.สระโบสถ์ จ.สระบุรี ได้ประมาณ 6 เดือน เคยบอกกับเพื่อนว่า กำลังเรียนต่อเนติบัณฑิต แต่ปรากฏว่าไม่มีเวลาไปเรียน เนื่องจากมีงานและการประชุมบ่อยมาก อีกทั้งยังมีโรคประจำตัว ทำให้เกิดความเครียด
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ เป็นนักเรียนนายร้อย รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ดูดวงเดลี่ กับ หมอดูต๊อกแต๊ก A4 วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556



ดูดวงเดลี่ กับ หมอดูต๊อกแต๊ก A4 วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556



คนเกิดวันจันทร์
การงาน
วันนี้คุณทำงานด้วยความสบายใจและที่สำคัญวันนี้ใครที่เพิ่งเปลี่ยนงานมาต้องบอกว่าจะพบมิตรภาพใหม่ๆ การเงิน ดีมีมาใช้ไป แต่คุณต้องระลึกเสมอภาระยังมี สุขภาพ วันนี้ปกติดี มีปวดเมื่อยบ้าง ความรัก คนรักพูดไม่เข้าหูทำให้หงุดหงิดใจ คนโสด ยังสนุกสนานต่อไปกับเพื่อนพ้อง สีที่ดี ชมพู น้ำเงิน


คนเกิดวันอังคาร
การงาน
ยังเจอกับความจำเจที่คุณเบื่อหน่ายอย่างที่สุด ควรหาเวลาพักบ้าง การเงิน เริ่มยิ้มออกจากที่ทุกข์ใจเรื่องเงินมา สุขภาพ วันนี้ระวังไมเกรน กำเริบ ความรัก พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้คนรักยอมรับแต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยใจใครโสด ระวังเจอคนหลอก สีที่ดี ส้ม ขาว


คนเกิดวันพุธ
การงาน
เหนื่อยใจกับการประสานงานที่เข้าใจไม่ตรงกันก่อให้เกิดการผิดพลาดได้ง่าย ระวังอารมณ์แปรปรวนบ่อย การเงิน หมุนเวียนดีมีเงินเข้ามาให้ใช้จ่าย สุขภาพ ปกติดีแต่ตกบ่ายระวังมึนหัว ความรัก คุณโชคดีที่มีคนเข้ามาดูแลมาช่วยเหลือ แต่คุณเองยังไม่พอใจยังต้องการสิ่งที่ดีที่สุด คนโสดเจอคนอายุน้อยมาพัวพัน
สีที่ดี น้ำตาล เขียว


คนเกิดวันพฤหัสบดี
การงาน
คำพูดของคนรอบข้างบางครั้งทำร้ายใจคุณบ่อยครั้ง แต่คุณค่อนข้างอดทนในการทำงาน การเงิน ยังฝืดเคืองหน่อยแต่คุณยังมีคนช่วยเหลือ สุขภาพ วันนี้เวียนหัวคั่นเนื้อคั่นตัว ความรัก เอาใจลำบากเพราะต่างคนต่างมีทิฐิ ต้องปรับตัวกันบ้าง คนโสดคิดถึงรักเก่าที่ยังไม่ลืม สีที่ดี แดง ทอง


คนเกิดวันศุกร์
การงาน
ราบรื่นดีมีคนคอยช่วยเหลือตลอดเจอมิตรภาพใหม่ๆ ที่ดี ตกบ่ายอาจจะมีงานเร่งด่วน การเงิน สามารถเอาตัวรอดได้ตลอด แต่คุณอย่าประมาทไปเพราะเงินบางก้อนยังยากมาถึงมือ สุขภาพ ระวังเลือดลม ความดันอาจจะทำให้วิงเวียน เบลอๆ ความรัก อย่าเอาแต่ใจจนเคยชินเพราะวันนี้คนรักอาจจะไม่ตามใจเหมือนเก่า คนโสด วนเวียนกับเพื่อนเก่าอาจจะมาถูกใจกัน สีที่ดี ส้ม ม่วง


คนเกิดวันเสาร์
การงาน
ต้องบอกว่าวันนี้ต้องพยายามมากถึงจะจัดการงานทุกอย่างสำเร็จดังใจหวัง อย่าหนีปัญหาควรแก้ไขด้วยตัวของคุณเอง การเงิน มีการเข้าใจผิดเล็กน้อยก่อนจะรับหรือจ่ายออกควรรอบคอบให้มาก สุขภาพ มีเจ็บท้องเล็กน้อย ความรัก คนรักค่อนข้างให้ความอิสระกับคุณแต่คุณเองกับหึงหวงมากอาจจะทำให้งอนกันบ่อย คนโสดระวังรถไฟชนกัน สีที่ดี ขาว ครีม


คนเกิดวันอาทิตย์
การงาน
วันนี้แอบน้อยใจเพื่อนร่วมงานที่ไม่ช่วยแล้วยังขวางประมาณว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ อย่าคิดมากผลงานคุณผู้ใหญ่มองเห็น การเงิน ยังมีมาเรื่อยๆแต่บางทีเหมือนทุกขลาภ สุขภาพ ปกติแข็งแรงดี ความรัก เดี๋ยวดีเดี๋ยวงอน ไม่รู้จะเอาใจกันยังไงเพราะคุณเองก็ไม่ค่อยจะยอมอย่างอนเยอะเดี๋ยวไม่มีคู่จะรู้สึก สีที่ดี เขียว ขาว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

จัดเต็มรัฐบาล "รังสิมา" ซัดสารพัดโกง แถมแขวะ "นายกฯปู" แรง 30 5 56



จัดเต็มรัฐบาล "รังสิมา" ซัดสารพัดโกง แถมแขวะ "นายกฯปู" แรง


"รังสิมา" จัดเต็มรัฐบาล กล่าวหาโกงสารพัด แขวะนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แรง ประธานในที่ประชุมสั่งถอนคำพูด แต่ไม่ถอน แจงตามพจนานุกรม "คำ" ที่พูด หมายถึง ผู้หญิงชั่งพูดแต่แสดงกิริยาน่ารัก


ที่รัฐสภา ได้เริ่มการประชุมสภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อีกครั้ง ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านลุกขึ้นสลับกันอภิปราย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น กระทั่ง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายกล่าวหารัฐบาลว่า งบบริหารราชการแผ่นดินกว่า 5 หมื่นล้านบาท จากเดิมกว่า 4 หมื่นล้านบาท
ซึ่งเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงข้าราชการ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พยายามรณรงค์ปราบปรามคอร์รัปชั่น
แต่ยังไม่เห็นผลอะไรซักอย่าง ข้าวกล่อง ถุงปลิดชีพ ส้วม เรือ ที่เอาไปให้คนจน ก็กินของเขาซะหมด คนจนก็ยิ่งจนต่อไป การตั้งราคากลางของรัฐบาลชุดนี้มีการเผื่อเอาไว้ถึง 40% โอนเปลี่ยนแปลงงบกันทุกปี เอาไปซื้อรถประจำตำแหน่ง ไปต่างประเทศกัน รวมถึงค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ที่ตั้งราคาไว้สูงซักวันคงฉิบหายกันบ้าง


ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ยังอภิปรายต่อว่า ขณะที่งบฯ ขุดลอกลำน้ำที่ตนเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเอาไว้
แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย พอคนในพรรคฯของรัฐมนตรีที่ร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบก็โดนต่อว่า ทำไมมาตรวจสอบพวกเดียวกัน
ทั้งนี้ น.ส.รังสิมา ยังใช้คำพูดค่อนข้างรุนแรง และไม่ค่อยสุภาพ ฝากถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตามหาตัวคนทุจริตมาลงโทษ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุม สั่งให้ถอนคำพูด แต่ น.ส.รังสิมา อ้างความหมายตามพจนานุกรมว่า "คำ" ดังกล่าว หมายถึง ผู้หญิงชั่งพูดแต่แสดงกิริยาน่ารัก โดยไม่ได้ถอนคำพูดตามคำสั่งนายวิสุทธิ์
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วุ่น!'เสริมศักดิ์'หลุดปากตัวเลขงบพิมพ์ผิด 30 5 56



วุ่น!'เสริมศักดิ์'หลุดปากตัวเลขงบพิมพ์ผิด
ภาพจาก คมชัดลึก
ภาพจาก คมชัดลึก

สภาหวิดล่ม หลัง 'เสริมศักดิ์' หลุดปากตัวเลขเสนอของบประมาณพิมพ์พลาด 10 หน้า - 'วราเทพ' แจงภายหลัง ทุกปีมีตัวเลขผิดพลาด น้อมรับไปแก้ไข


30 พ.ค. 56 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ซึ่งพิจารณาร่าง พรบ.งบฯ 57 ต่อประเด็นการอภิปรายของ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่าโครงการจัดซื้อรถตู้โดยสารเพื่อรับ-ส่งนักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 1,000 คันๆ ละ 2.3 ล้านบาท รวมเป็นเงินงบประมาณ 2.3 พันล้านบาทส่อทุจริต โดยยอมรับว่า รายละเอียดการเสนอของบประมาณโครงการดังกล่าวของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความผิดพลาดในการจัดพิมพ์ ทำให้ตัวเลขแตกต่างจากการกำหนดราคากลางของสำนักงบประมาณ ที่ตั้งไว้คันละ 1.2 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีนี้มีการจัดพิมพ์ผิดพลาดอยู่หลายจุดทำให้ สส.ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยข้อเท็จจริง ศธ.ได้ตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตู้จำนวน 1,000 คันๆ ละ 1,232,400 บาท ดังนั้นจะรวมเป็นเงิน 1,232 ล้านบาท โดยราคาดังกล่าวถือเป็นราคากลางที่สำนักงบประมาณได้กำหนดไว้ รวมถึงสเปคของรถตู้ จำนวน 12 ที่นั่งด้วย
“การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นบริบทหนึ่งที่เรารักและหวงแหนงบประมาณ เพราะ ศธ.ถือเป็นคนต้นแบบ ไม่ทำอะไรสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือชอบมาพากล งบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตู้โดยสาร 1,000 คันนั้น เป็นไปตามความต้องการของโรงเรียนและชุมชน ตามความจำเป็น ทั้งนี้ได้กำหนดแผนการใช้ตั้งแต่ปี 2555 คือ สนับสนุนโรงเรียนดีศรีตำบล จำนวน 850 คัน , อีก 150 คัน จะสนับสนุนให้โรงเรียนขนาดเล็กที่มีการควบรวมเป็นโครงการนำร่อง ส่วนการตั้งงบประมาณที่ผิดพลาดเป็นความผิดพลาดทางเอกสารเท่านั้น ยืนยันราคาที่จัดซื้อเป็นไปตามราคากลางของสำนักงบประมาณ” นายเสริมศักดิ์ ชี้แจง
จากนั้นนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ใช้สิทธิ์ชี้แจงในส่วนของการปฏิรูปการศึกษาชี้แจงว่าที่ผ่านมายอมรับว่า การประเมินผลการศึกษาของเด็กไทย ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เทียบกับประเทศต่างๆ ไม่เป็นที่พอใจ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาเพื่อยกระดับการศึกษาของเด็กไทย คือ ให้เด็ก คิด วิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ โดยเตรียมปรับเวลาการเรียนลดชั่วโมงเรียนที่เน้นการท่องจำ ส่วนงบงานวิจัยรัฐบาลยืนยันว่า งบที่เกี่ยวข้องสนับสนุนมหาวิทยาลัยวิจัยต้องได้รับการจัดสรร 5,000 ล้านบาท และปีต่อไปจะไม่ตัดงบประมาณส่วนดังกล่าวออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นที่ประชุมเริ่มมีความวุ่นวาย และเสนอให้มีการยุติการพิจารณา ร่าง พรบ.งบฯ 57 โดยนายจุฤทธิ์ กล่าวว่า ตามที่นายเสริมศักดิ์ ระบุว่า เอกสารเล่มขาวคาดแดง ส่วนของ ศธ.พิมพ์ผิด ดังนั้นต้องมีการยุติการพิจารณา เพราะหากยังคงพิจารณาต่อไป เสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 ว่าด้วยการนำเสนอร่าง พรบ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ ทั้งนี้ขอให้แก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาดให้ถูกต้องก่อน อย่าอ้างว่าพิมพ์ผิดแล้วเรื่องทุกอย่างก็จบ ทำให้นายเสริมศักดิ์ ชี้แจงโต้ตอบว่า “เอกสารแก้ไขตัวเลขที่ผิดพลาด ผมได้รับเอกสารแนบฉบับที่แก้ไขแล้ว โดยมีจำนวน 10 หน้าในส่วนของ ศธ.”
จากนั้นนายบุญยอด สุขถิ่นไทย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายทักท้วงว่า“เอกสารแนบฉบับแก้ไข สส.ยังไม่ได้รับ ดังนั้นทางออกตอนนี้ขอให้พักการประชุม ไม่เช่นนั้นผมจะขอใช้เอกสิทธิ์เสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 47(5) ให้เลื่อนให้พิจารณา เพราะสภาฯ ไม่สามารถพิจารณาอย่างลวกๆ ได้ ทั้งนี้ตนขอเรียกจิตวิญญาณของ สส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เข้ามาเป็นตัวแทนประชาชนชาวไทย ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐบาล” โดยบรรยากาศหลังจากนั้นมีแนวโน้มที่จะไม่ยุติลง ทำให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ฐานะประธานในที่ประชุมสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที เมื่อเวลา 13.45 น.
จากนั้นเวลา 14.10 น. ได้มีการเปิดประชุมอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่สภาฯ ได้แจกเอกสารฉบับแก้ไขให้กับ สส. จากนั้น นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ฐานะกำกับสำนักงบประมาณ ชี้แจงยืนยันว่า ไม่มีเจตนา หรือจงใจที่จะนำเอกสารที่ผิดพลาดมาให้พิจารณา อย่างไรก็ตาม รายละเอียดโครงการที่เสนองบประมาณ ตามเอกสารประกอบมีรายละเอียดจำนวนมากจึงเกิดความผิดพลาด อีกครั้งในโครงการจัดซื้อรถตู้โดยสาร ของ ศธ. เดิมมีการเสนอโครงการจัดซื้อรถจำนวน 2,000 คัน ตั้งงบไว้ ประมาณ 2,000 ล้านบาท เมื่อมีการแก้ไขโครงการลดจำนวนจัดซื้อรถตู้ เหลือ 1,000 คัน ก็ไม่ได้แก้ไขตัวเลขเสนองบประมาณ
“ในการพิจารณาที่ผ่านมาเมื่อถึงกรรมาธิการฯ จะมีการขอแก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาดได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกปี ส่วนโครงการซื้อรถตู้โดยสารที่ตรวจพบตัวเลขที่ผิดพลาด เพราะก่อนหน้านั้นมีข่าวเรื่องการทุจริต ผมยอมรับผิดและจะนำประเด็นเหล่านี้ไปแก้ไขปรับปรุง” นายวราเทพ กล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

สาวใหญ่ขับเกียร์ออโต้ชนกระจกธนาคาร พนักงานแตกตื่นนึกว่าโดนปล้น 30 5 56



สาวใหญ่ขับเกียร์ออโต้ชนกระจกธนาคาร พนักงานแตกตื่นนึกว่าโดนปล้น
เมื่อ 30 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจโดย ร.ต.ท.อรรณพ กระเสาร์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง
ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์พุ่งชนที่ทำการธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 135/ 8-11 สาขาถนนรอบเวียง ต.หัวเวียง อ.เมือง จึงรุดเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ไปถึงพบที่บริเวณหน้าที่ทำการธนาคารซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา โดยที่บริเวณทางเข้า มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีวิค รุ่นล่าสุด หมายเลจทะเบียน 1 กฮ 7179 กรุงเทพมหานคร จอดเกยอยู่บนฟุตบาท มีเศษกระจกของธนาคารหล่นเกลื่อนพื้นและฝากระโปรงรถ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ธนาคารและลูกค้าที่แตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหมาดๆ

ต่อมาจากการสอบสวนผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวทราบว่าชื่อ นางดวงพร ชาติทอง อายุ 38 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 5 ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยนางดวงพรเล่าว่าตนเองเดินทางมากับสามีเพื่อมาเบิกเงินในธนาคาร โดยตอนแรกสามีเป็นคนขับมาจอดแล้วลงไปทำธุรกรรมในธนาคาร แต่ปรากฏว่ารถยนต์จอดไม่เรียบร้อย ตนเองจึงกลับไปขยับรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งเป็นเกียร์ออโต้ ปรากฏว่าเมื่อแตะคันเร่งเพียงนิดเดียวรถยนต์เกิดเร่งขึ้นกะทันหันพุ่งจากขอบถนนปีนขึ้นบนฟุตบาทชนกระจกธนาคารเสียหายดังกล่าว ตนเองตกใจนั่งอยู่ในรถตั้งนานกว่าจะมีสติได้

สำหรับค่าเสียหายของประตูธนาคารประมาณ 3 หมื่นบาท เจ้าของรถได้เรียกประกันมาดูแล ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว่าได้ยินเสียงดังสนั่นถึงชั้นสอง ตนเองรีบวิ่งลงมาดูเห็นคนแตกตื่นกัน เพราะคิดว่ามีการปล้นธนาคาร บางคนก็วิ่งออกประตูทางด้านหลังธนาคารไปก็มี
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ประหาร 4 ตำรวจนอกแถวอมยาบ้า 3 แสนเม็ด 30 5 56



ประหาร 4 ตำรวจนอกแถวอมยาบ้า 3 แสนเม็ด
ศาลอาญาพิพากษา 4 ตำรวจนอกแถว จับยาบ้า 3 แสนเม็ด ยาไอซ์ 5 กก. ยึดไว้เองไม่ส่งดำเนินคดี ให้ลงโทษประหารชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต
ที่ห้องพิจารณาคดี 205 ศาลจังหวัดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ วันที่ 30 พ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1790/2555
ที่พนักงานอัยการประจำศาลจังหวัดมีนบุรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชิงชอบ ราชคม อดีตรอง สว.สส. กก.สส.บก.น.3, ด.ต.สมศักดิ์ ทิพย์รัศมีวงศ์ อดีตผบ.หมู่ ป. สน.ประชาสำราญ จ.ส.ต.ภัทระ วรชาณินธ์ อดีตผบ.หมู่ สน.จรเข้น้อย ส.ต.ท.นพดล พันธุ์อารีย์ อดีตผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.3 และนายชวลิต กำเนิดขอนแก่น เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐาน ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2555 เวลาประมาณ 01.00 น.
จำเลยทั้ง 5 ได้บังอาจร่วมกันยาบ้าจำนวน 305,200 เม็ด และไอซ์ น้ำหนัก 5 กก. ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น.สืบสวนพบว่าจำเลยทั้ง 5 ซึ่งเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 ดำเนินการโดยมิชอบโดยร่วมกันตรวจยึดยาเสพติดไว้ แต่ไม่ดำเนินคดีผู้ต้องหาที่กระทำผิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น. จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. เข้าตรวจสอบและจับกุมจำเลยทั้ง 5 ก่อนนำตัวไปตรวจสอบพบยาเสพติดของกลางที่รถยนต์ของจำเลย จึงดำเนินคดีกับจำเลยทั้ง 5 คน ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวจำเลยทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดี เหตุเกิดที่ กก.สส. บก.น.3 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. โดยในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความเป็นลำดับสำคัญเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง
โดยได้ติดตามพฤติการณ์ของจำเลยทั้ง5มาเป็นเวลานาน อีกทั้งพยานโจทก์เป็นเจ้าพนักงานและเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลย จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัย เชื่อว่าเบิกความไปตามที่พบเห็นจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยจำเลยที่ 1-4 ได้ไปพบผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมด้วยของกลาง แต่กลับไม่นำตัวส่งดำเนินคดีและยังได้ปล่อยผู้ต้องหาไป อีกทั้งเมื่อจำเลยได้นำยาเสพติดของกลางกลับมาที่ กก.สส. บก.น.3 แล้ว ก็ไม่มีการทำบันทึกตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังไม่รายงานต่อผู้บังคับบัญชา ทั้งที่การจับกุมยาเสพติดจำนวนมากย่อมเป็นผลงานดีเด่น จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่รายงานผู้บังคับบัญชา และไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะต้องปล่อยผู้ต้องหาในคดียาเสพติดไป

ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1-4 ที่ระบุว่า ไม่มีเจตนาที่จะไม่นำยาเสพติดของกลางมาทำการบันทึกจบกุมและไม่รายงานต่อผู้บังคับบัญชา ไม่มีน้ำหนักรับฟังเพียงพอ

ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1-4 ยึดยาเสพติดไว้เพื่อประโยชน์แห่งตน ส่วนจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นพลเรือน ทำหน้าที่คอยรับใช้และทำตามจำเลยที่ 1 โดยการช่วยเหลือขับรถให้ ซึ่งการที่จำเลยที่ 1-4 จะปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือกระทำการใดๆ ไม่จำเป็นต้องปรึกษาจำเลยที่5 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้เชื่อว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง

พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-4 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ลงโทษประหารชีวิต
คำให้การของจำเลยที่ 1-4 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีบ้าง ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-4 ไว้ตลอดชีวิต ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 5 ไม่ได้เป็นผู้ร่วมออกความคิดเห็นด้วย แต่ต้องทำตามจำเลยที่1 และได้ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่5 แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ซิ่งรถหรูลัมโบร์กินีป้ายแดงชนเสาไฟเละ ลือห้อยพระดังรอดตายปาฏิหาริย์ 30 5 56



ซิ่งรถหรูลัมโบร์กินีป้ายแดงชนเสาไฟเละ ลือห้อยพระดังรอดตายปาฏิหาริย์
เวลา 10.50 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.เผชิญ พรหมมี ร้อยเวรฯสภ.เมืองชลบุรี
ได้รับแจ้งว่ามีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณถนนสายสุขุมวิท หน้าขนส่งจังหวัดชลบุรี หมู่ที่ 1 ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี ฝั่งขาเข้าตัวเมืองชลบุรี มีของหลวงได้รับความเสียหาย จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ LP-7004 สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ณ-6091 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพหน้ารถพังเสียหาย ยางระเบิด พบคนขับทราบชื่อคือนายสมเกียรติ ครูวงศ์ไพบูลย์ อายุ 45 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียนสตีลบาร์ จำกัด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุมีเสาไฟฟ้าส่องทาง ถูกชนเสียหาย 2 ต้น และต้นไม้ที่อยู่กลางถนนเสียหายอีก 2 ต้นเช่นกัน
นายสมเกียรติ เผยว่า ตนเองขับรถมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะไปงานศพของบิดา ที่วัดป่าอรัญญิกกาวาส อำเภอเมืองชลบุรี เพื่อไปถวายอาหารเพล เหลืออีกประมาณไม่ถึง 5 กิโลเมตรก็จะถึง ในช่วงขณะขับรถมานั้นมีฝนตกหนักตลอดทาง พอขับมาถึงที่เกิดเหตุมีแอ่งน้ำขังอยู่ พอขับรถเข้าไปก็ทำให้รถเสียหลักหมุนหลายรอบ และไปชนกับเสาไฟฟ้า จนได้รับความเสียหายดังกล่าว
ต่อมาได้ให้ประกันยกรถเข้ากรุงเทพมหานคร โดยรถคันดังกล่าวซื้อมาได้ประมาณ 1 เดือน ราคา 34 ล้านบาท
ในตอนนี้ก็ให้ประกันเป็นผู้จัดการในเรื่องดังกล่าวทั้งหมด และนายสมเกียรติก็เดินทางไปร่วมงานศพบิดาทันที ซึ่งพบว่านายสมเกียรติแขวนพระพญาครุฑ ล้อมด้วยเพชร จึงรอดโดยปาฏิหาริย์

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ช็อก ครูลงโทษตีนักเรียน แล้วลงมือ"บรรลุความใคร่"ให้ตัวเอง 30 5 56



ช็อก ครูลงโทษตีนักเรียน แล้วลงมือ"บรรลุความใคร่"ให้ตัวเอง
ช็อก ครูโรคจิตวิตถาร ลงโทษตีนักเรียน เจ้าตัวสุดตื่นเต้น ลงมือ"บรรลุความใคร่"ให้ตัวเอง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุชวนตะลึงในเกาหลีใต้ เมื่อครูวัย 55 ปี รายหนึ่งก่อพฤติกรรมวิตถาร ลงโทษนักเรียนเพื่อช่วยบรรลุความใคร่ให้แก่ตัวเอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลีใต้

รายงานระบุว่า ในเหตุการณ์นี้ ครูรายหนึ่งได้จับนักเรียนรายหนึ่งมาลงโทษด้วยการเฆี่ยน ฐานฟังเพลงในชั้นเรียน
และปรากฎว่า เจ้าตัวสุดตื่นเต้นกับการกระทำดังกล่าว โดยครูโรคจิตรายนี้ได้ออกไปนอกห้องเรียน และได้ลงมือ"สำเร็จความใคร่"ให้ตัวเองชนิดควบคุมตัวเองไม่อยู่ ก่อนที่ตำรวจจะจับกุมครูโรคจิตรายนี้ โดยโฆษกตำรวจรายหนึ่งกล่าวว่า จากการสอบสวนครูรายนี้ ไม่พบว่าเขามีอาการป่วยทางจิตแต่อย่างใด และเจ้าตัวยังปฎิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าวด้วย


อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ตั้งข้อหาครูโรคจิตผู้นี้ว่า ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ส่วนโรงเรียนของครูรายนี้ ยังได้ไล่เขาออกทันที เนื่องจากไม่สามารถรับได้กับพฤติกรรมสุดอื้อฉาว ที่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่โรงเรียน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

ระทึก! สนามบินแม่ฟ้าหลวง เครื่องบินนกแอร์ล้อหลุด 30 5 56


ระทึก! สนามบินแม่ฟ้าหลวง เครื่องบินนกแอร์ล้อหลุด
นกแอร์ "ทำเสียว" ล้อหลุดผู้โดยสารนับร้อยชีวิตลุ้นระทึก โชคดีกัปตันนำเครื่องลงจอดได้ปลอดภัย "พาที" คาดสาเหตุเพราะเครื่องบินได้รับแรงกระแทกขณะลงจอด
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุระลึกขวัญขึ้นภายในสนามบินท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
ขณะที่เครื่องบินโบอิ้ง
738 ของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ดีดี 8715 ระหว่างสนามบินดอนเมือง กทม. ปลายทาง จ.เชียงราย โดยนำผู้โดยสารรวมจำนวน 162 คน ออกเดินทางมาจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 08.05 น. ใช้เวลาบิน 1.10 ชั่วโมง ขณะที่กัปตันนำเครื่องลงจอดที่รันแวร์ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ได้เกิดล้อหน้าหลุดขณะที่ล้อเครื่องบินได้แตะถึงพื้น และแล่นไปเกือบสุดทางวิ่งเพื่อชะลอความเร็ว ล้อคู่หน้าของเครื่องบินเกิดลื่นไถล ทำให้ล้อข้างหนึ่งที่อยู่ด้านซ้าย เกิดหลุดออกจากตัวเครื่อง เครื่องบินเกิดการสะเทือนเล็กน้อย และผู้โดยสารที่อยู่ภายในเครื่องบินได้ยินเสียงดัง กระนั้นเครื่องบินยังสามารถใช้ล้อที่เหลืออยู่อีกข้าง ทำการแล่นไปจอดจนเกือบสุดรันเวย์ และสามารถนำผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางไปยังอาคารที่พักผู้โดยสารของท่าอากาศยานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังเกิดเหตุ นายดำรงค์ คล่องอักขระ ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบนทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินอย่างละเอียด ทางด้านสายการบินได้ทำการตรวจสอบล้อที่หลุดออกมาพบว่าเป็นล้อด้านซ้าย ขณะที่ล้อด้านขวายังสามารถพยุงเครื่องบินไม่ให้ลำตัวของเครื่องบินตกไปแตะรันเวย์ กระนั้นก็ทำให้เครื่องบินเอียงลงเล็กน้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยต่อไป รวมทั้งทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
ต่อมา นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า
เบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดมาจากเครื่องบินได้รับแรงกระแทกรุนแรงขณะลงจอด และในช่วงบ่ายจะมีการส่งทีมช่างไปทำการตรวจสอบ และซ่อมแซม สำหรับเที่ยวบินขา กลับของจังหวัดเชียงรายตอนนี้ มีการประสานแล้วว่าให้ผู้โดยสารกลับกับสายการบิน ของการบินไทยแทน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ฝรั่งโชว์ภาพ รอยสักที่คอ รักเมืองไทย ส่งถึง"รมต."30 5 56


ฝรั่งโชว์ภาพ รอยสักที่คอ รักเมืองไทย ส่งถึง"รมต."
เผยหนุ่มนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ประทับใจการดูแลช่วยเหลือของคนไทยและเจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แบบสุดๆ เมื่อเดินทางกลับไปถึงบ้านเกิด ถึงกับลงทุนสักตัวอักษรภาษาไทยเป็นคำว่า "ผมรักเมืองไทย" เอาไว้ที่ต้นคอ
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เกิดกรณีนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวนอร์เวย์ประทับใจน้ำใจและการดูแลช่วยเหลือของคนไทยและทางการไทยอย่างมาก ถึงขนาดเมื่อกลับไปยังประเทศบ้านเกิดจึงตัดสินใจสักตัวอักษรภาษาไทยว่า "ผมรักเมืองไทย" ลงบนด้านหลังต้นคอของตนเอง

เหตุหนุ่มนอร์เวย์สัก "ผมรักเมืองไทย" เปิดเผยโดย น.ส.มนนภา นาวาทอง
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายจอน เฮลเก เวง นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ว่า ระหว่างมาท่องเที่ยวภูเก็ตต้องเผชิญกับประสบการณ์เลวร้าย ซึ่งเกิดจากคนขับรถของบริษัทรถโดยสารแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต
น.ส.มนนภาระบุว่า
หลังได้รับเรื่องร้องเรียน ทางศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ติดตามสอบสวนข้อเท็จจริงและพยายามดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงส่งอีเมล์แจ้งข้อมูลให้นายจอนทราบเป็นระยะๆ ทั้งยังขอให้กลับมาเที่ยวประเทศไทยอีก เพราะเหตุการณ์เลวร้ายสามารถเกิดขึ้นได้กับนักท่องเที่ยวในทุกประเทศ แต่คนไทยส่วนใหญ่นั้นมีอัธยาศัย ดีสมกับชื่อสยามเมืองยิ้ม ถ้าต้องการให้ช่วย เหลือใดๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยส่งอีเมล์แจ้งความคืบหน้าไปยังนายจอน
ล่าสุด นายจอนส่งอีเมล์ภาษาอังกฤษตอบกลับมาจากนอร์เวย์ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือด้านคดีความและปัญหาต่างๆ ตนรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณและดีใจที่ได้รับคำชี้แจง รวมถึงคำขอโทษต่อกรณีคน ขับรถดังกล่าว
"ผมทราบดีว่าพฤติกรรมของคนขับรถโดยสารรายนี้ ไม่ใช่พฤติกรรมของคนไทยส่วนใหญ่ ประสบการณ์ที่ผมได้พบกับคนไทยนั้นมีแต่สิ่งดีๆ คนไทยเป็นคนใจดี มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น และสุภาพ ผู้คนในแต่ละชาติย่อมต้องเจอกับวันที่เลวร้ายหรือคนนิสัยไม่ดี ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือนอร์เวย์ก็ เหมือนๆ กัน ผมมองว่าเหตุการณ์ที่ผมต้องเจอกับคนขับรถคนนั้นคือเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว" นายจอนระบุในอีเมล์

นักท่องเที่ยวนอร์เวย์ เขียนบรรยายมาด้วยว่า รู้สึกประทับใจและพึงพอใจที่ทางการไทยเข้ามาดูแลและสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนที่ภูเก็ต
ทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าประเทศไทยดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และตนจะกลับมาเที่ยวอีกแน่นอน คาดว่าช่วงเดือนก.ย. ถึงพ.ย.นี้ นอกจากนั้น นายจอนยังแนบไฟล์ภาพถ่ายรอยสักเขียนเป็นตัวอักษรภาษาไทยว่า "ผมรักเมืองไทย" เอาไว้ตรงด้านหลังต้นคอด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความประทับใจที่มีต่อเมืองไทย ล่าสุด รูปดังกล่าวส่งไปถึงนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เมียหัวคะแนน “แทนคุณ” บุกสภาฯ ร้อง กมธ.ตร. 30 5 56



เมียหัวคะแนน “แทนคุณ” บุกสภาฯ ร้อง กมธ.ตร.
น.ส.ณหทัย เครื่องสาย ภรรยานายชุติเดช สุวรรณเกิด หัวคะแนนนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต

เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดีจากสน.ดอนเมืองมาเป็นกองบังคับการปราบปราม

เนื่องจากคดีผ่านมา 1 ปี 5 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้
ด้านนายสมชาย กล่าวว่า ในเย็นวันเดียวกันนี้ ตนจะทำหนังสือถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เพื่อขอให้พิจารณาโอนคดีดังกล่าวไปให้กองปราบฯเป็นผู้ดูแล
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

บุกรร.ภูเก็ต-มุ่งปล้นรัชทายาทสุลต่าน 30 5 56



บุกรร.ภูเก็ต-มุ่งปล้นรัชทายาทสุลต่าน
คนร้ายบุกหวังปล้นทรัพย์รัชทายาทลำดับที่ 1 ของสุลต่านรัฐเคดาห์ มาเลเซีย ในห้องพักโรงแรมหรูหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต
แต่บอดี้การ์ดสลับห้องพักเลยรับเคราะห์แทน ถูกซ้อมจนน่วม ใช้สายไฟมัดซ้ำ ก่อนรื้อค้นเอาทรัพย์สินบางอย่างหลบหนีไป ตร.เปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบพบมากัน 4 คน 1 ในนั้นอาจเป็นคนไทย ตร.ปิดเกาะไล่ล่าคนร้าย ส่งกำลังอารักขาเต็มที่
เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 29 พ.ค. ร.ต.ท. ธวัชชัย ศรีไหม ร้อยเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
รับแจ้งเหตุคนร้าย 4 คนบุกทำร้ายนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในห้อง 1627 โรงแรมมิลเลนเนียม รีสอร์ต ภูเก็ต ป่าตอง ตั้งอยู่บน ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง จึงรายงาน พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก. พ.ต.ท. นิกร ชูทอง สวป. ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบพนักงานโรงแรม นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลไปแล้ว จึงเข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุพบมีสายไฟตกอยู่บนพื้นห้อง
เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ที่พื้นมีรอยเลือดของผู้เคราะห์ร้ายหยดบนพรม เป็นจุดๆ จึงบันทึกไว้ ก่อนนำพนักงานโรงแรมทั้งหมดมาสอบปากคำ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับระบบกุญแจห้องพักของโรงแรม ที่ใช้ระบบคีย์การ์ด ที่ถือว่าเป็นมาตรการสูงสุด แต่คนร้ายก็บุกเข้าไปได้ถึงห้อง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้าย 4 คน โดย 1 ในนั้นคาดว่าน่าจะเป็นคนไทย สวมเสื้อสีขาว เดินผ่านมาทางล็อบบี้โรงแรมและยังเดินผ่านไปยังห้องพักได้อย่างง่ายดาย โดยกล้องสามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน

ส่วนคนเจ็บเป็นชาวมาเลเซีย มีบาดแผลที่หน้าผาก 2 แผล เลือดไหลโกรก ตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ ให้การเบื้องต้นว่า มีคนร้าย 4 คน เข้ามาทำร้ายถึงในห้องพัก นอกจากนี้ ยังใช้สายไฟที่เตรียมมามัดมือไขว้หลังก่อน จะรื้อค้นหาทรัพย์สินของมีค่าหลบหนีไป

จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้เสียหายเป็นคณะของตวนกู บันตรารา แห่งเคดาห์, ตวนกู อันนูอาร์ อิบิน อัลมารุม สุลต่าน บาลิชาห์ ประธานมุขมนตรีประจำรัฐเคดาห์
ซึ่งเป็นรัชทายาทคนที่ 1 ของอับดุล ฮาลิม มูอัดซาม ชาห์ สุลต่านแห่งรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ที่มาเปิดห้องพักในโรงแรมดังกล่าว ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ที่จะเข้าปล้นทรัพย์ที่ห้องของรัชทายาท แต่เข้าไปพบกับผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นบอดี้การ์ดคุ้มกันแทน เลยเกิดต่อสู้กัน เนื่องจากก่อนหน้านี้บอดี้การ์ดคน ดังกล่าวได้สลับห้องกับรัชทายาทสุลต่าน เพื่อความปลอดภัย กระทั่งถูกคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายแล้วปล้นทรัพย์จนได้

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี พยายามหาข้อมูลและความเคลื่อนไหวของคณะรัชทายาท
และเลือกลงมือในช่วงกลับจากการรับประทานอาหารค่ำ ซึ่งในตอนนี้ตำรวจ จ.ภูเก็ต ระดมกำลังไล่ล่าคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่พบวี่แวว และเชื่อว่าคนร้ายยังหลบหนีวนเวียนอยู่ใน จ.ภูเก็ต สำหรับคณะของรัชทายาทลำดับที่ 1 ของสุลต่านรัฐเคดาห์ เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. จองห้องพักกว่า 10 ห้อง ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่รัชทายาทเลือกเข้าพักเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งวันเข้าพักทางโรงแรมจัดการต้อนรับอย่างดี กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเกิดหตุพ.ต.อ. จิรภัทรสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยตลอด 24 ช.ม.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด