วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556




เจาะข่าวเด่น 31 มกราคม 2556




เจาะข่าวเด่น 31 มกราคม 2556 : ลดการบ้าน ช่วยเด็กเรียนดีขึ้น

“เครือข่ายปกป้องสถาบัน” ชุมนุมร้อง “อียู” หยุดแทรกแซง “สมยศ” นักโทษหมิ่นเบื้องสูง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์31 มกราคม 2556 18:53 น.
เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ ชุมนุมเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเคารพกระบวนการยุติธรรม หยุดแทรกแซงคำพิพากษา หลักออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยคำพิพากษาคดี “สมยศ” บก.วอยซ์ออฟทักษิณ ต้องคดีหมิ่นเบื้องสูง ชี้กษัตริย์ไทยไม่เหมือนประเทศอื่น และจำเป็นต้องมีมาตรา 112
       
       

       
       

       
       


วันนี้ (31 ม.ค.) ที่อาคารเคี่ยนหงวน 2 ถนนวิทยุ เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบัน นำโดยนายธนบดี วรุณศรี ได้ชุมนุมที่หน้าอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) เพื่อประท้วงกรณีที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และคณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ เป็นเวลา 10 ปี โดยมีความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีผลต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
       
       ต่อมาเวลา 11.00 น. สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ หลังบ่ายเบี่ยงอยู่พักใหญ่ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด พร้อมระบุว่าจะส่งเรื่องต่อให้ จากนั้นผู้ชุมนุมจึงยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 11.30 น.
       
       นายธนบดี วรุณศรี ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า การมาวันนี้เพื่อมาเลกเชอร์ให้อียูฟัง ขณะนี้พยายามประสานงานกับผู้แทนสหภาพยุโรปเพื่อขอเข้าไปอธิบายรายละเอียด โดยมีประเด็นที่ต้องการอธิบายต่ออียู คือ ต้องการให้เข้าใจสถานภาพกษัตริย์ของไทยว่าอาจไม่เหมือนกษัตริย์ประเทศอื่น บางประเทศในอียูไม่เคยมีกษัตริย์ อาจไม่เข้าใจว่าสถาบันกษัตริย์มีความสูงสุดขนาดไหน และต้องการอธิบายว่าทำไมต้องมีมาตรา 112 และไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แม้แต่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็มีโทษจำคุก 4-5 ปี หากมีการหมิ่นสถาบันกษัตริย์
       
       ทั้งนี้ นายสมยศซึ่งกระทำความผิดชัดแจ้ง โดยตีพิมพ์บทความสองบทความ มีโทษบทความละ 5 ปี ก็ถือว่าไม่ได้มากไปกว่าเนเธอร์แลนด์ หากไม่ได้มีการลบหลู่จริงใครจะมาทำอะไร รัฐธรรมนูญกำหนดให้กษัตริย์เป็นจอมทัพไทย ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายปกป้องประมุขของชาติ ส่วนเหตุจูงใจที่อียูมีการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคดีสมยศ มองว่าหากมองแบบไม่คิดลึกเข้าใจว่าอาจเป็นความรักชอบส่วนตัวกับสมยศ เพราะนายสมยศมีคุณูปการในการทำงานด้านแรงงาน ต่อสู้จนมีประกันสังคม แต่ก็ต้องแยกแยะการกระทำแต่ละครั้งว่าทำดีหรือทำผิด หวังว่าหากได้อธิบายแล้วอียูจะเข้าใจและสำนึกผิดได้ไม่ยาก ทั้งยังเห็นว่าควรออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจด้วย
       
       นายธนบดีกล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ พยายามประสานงานกับผู้แทนสหภาพยุโรปเพื่อขอเข้าไปอธิบายรายละเอียด และหวังว่าหากได้อธิบายแล้วอียูจะเข้าใจและสำนึกผิดได้ไม่ยาก ทั้งยังเห็นว่าควรออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจด้วย
       
       นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การแทรกแซงของสหภาพยุโรปต่อคำพิพากษาคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ความว่า สืบเนื่องมาจากที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยและคณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 ตอนหนึ่งว่า “คณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ มีความเป็นห่วงต่อคำพิพากษาของศาลในการตัดสินจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นเวลา 10 ปี โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คำพิพากษาดังกล่าว บั่นทอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและต่อเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง นั้น เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่ทำหน้าที่เฝ้าระวัง บุคคลที่มีพฤติกรรมการหมิ่น จาบจ้วงล่วงละเมิด สถาบันพระมหากษัตริย์ ในทุกกรณี ขอเรียนด้วยความไม่สบายใจต่อท่าทีในการแสดงออกร่วมกันของพวกท่าน ซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจในวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชนชาติไทยของเรา โดยเฉพาะกรณี คำพิพากษาของศาลดังกล่าวข้างต้นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะปล่อยให้ความไม่เข้าใจอันนี้ผ่านไปได้โดยเพิกเฉย
       
       เราจึงขอถือโอกาสนี้ ในการทำความเข้าใจกับท่านว่า ความเข้าใจในความเป็น “กษัตริย์” ของประเทศพวกท่าน อาจจะไม่ตรงกับประเทศของเรา ด้วยเหตุที่ประเทศของพวกท่านทั้งหลายไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้นับถือสืบต่อกันมายาวนาน และ พระมหากษัตริย์ของประเทศเรา เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยพระบุญญาธิการ และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ เทิดทูน โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ทรงครองราชย์มาเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี และได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจมากมายเป็นอเนกนานัปการ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ ผ่านโครงการพระราชดำรินับร้อยนับพันโครงการ จนเป็นที่ประจักษ์ชัด และรับรู้กันไปทั่วโลก ซึ่งพสกนิกรชาวไทยล้วนแล้วแต่เคารพรัก และเทิดทูนพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก เว้นแต่ประชาชนบางกลุ่ม บางคณะ ที่มีความเห็นต่าง และมีความพยายามที่จะกระทำการอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตลอดทั้งมีความพยายามที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
       
       ด้วยเหตุที่พระมหากษัตริย์ของประเทศเรา อยู่ในฐานะอันเลิศ ทรงเป็นพระประมุขของชาติ และยังทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงเป็นการสมควรที่จะต้องมีการปกป้องพระเกียรติยศ และทั้งเพื่อความมั่นคงของรัฐ นั่นเอง จึงต้องตราพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไว้เพื่อเป็นเครื่องมือในการปกป้องพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับหลายประเทศ รวมทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเอง เพราะฉะนั้น การที่พวกท่านได้มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์ดังกล่าวข้างต้นในห้วงแห่งการพิพากษาคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นี้นั้น จึงไม่ใช่แต่เป็นเรื่องความไร้มารยาททางการทูต หรือการก้าวล่วงกิจการภายในประเทศเท่านั้น แต่ถือเป็นการลุกล้ำอำนาจอธิปไตยของรัฐ ด้วยเหตุที่การพิจารณาพิพากษาดังกล่าว เป็นการกระทำในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ และเป็นไปเพื่อปกป้องพระเกียรติยศของพระประมุขของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่เรามีความไม่สบายใจอย่างสูงสุดนั่นเอง
       
       อนึ่ง เราทราบดีว่าประเทศพวกท่านทั้งหลายอาจจะมีความนิยมยกย่องในตัวของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและขบวนการผู้ใช้แรงงานทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ แต่ย่อมจะเป็นสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายจะต้องรู้จักที่จะแยกแยะ ระหว่างการทำความดีและการกระทำความผิด โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเป็นสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายจะได้ตระหนักถึงพฤติกรรมของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ได้กระทำสั่งสมต่างกรรมต่างวาระ ดังที่หลักกฎหมายว่า “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “exterior act indicates interior secret”
       
       ด้วยเหตุนี้ การพิพากษาตัดสินความผิดกรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จึงไม่ใช่แค่ความเป็นบรรณาธิการเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งผู้ติดต่อจ้างวาน โรงพิมพ์ ทำเพลต และบริษัทผู้จัดจำหน่ายนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ด้วยตัวเอง และการที่นำบทความที่เขียนโดย นายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีความคิดในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งขณะนี้หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ โดยตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นผู้ตรวจต้นฉบับด้วยตัวเองมาตีพิมพ์ แสดงให้เห็นว่านายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ย่อมมีเจตนาประสงค์ต่อผล จึงสมควรที่จะได้ถูกพิพากษาให้สมควรแก่การกระทำนั้น โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
       
       ที่สุดนี้ เราจึงเห็นว่าสหภาพยุโรปควรที่จะเคารพในหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศไทย ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งยังเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และพิจารณาได้ว่าพวกท่านควรจะมีท่าที ในการแสดงออกอย่างไร เพื่อให้ประชาชนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ได้เข้าใจในเรื่องนี้ให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงต่อไป

รื่องเด่นเย็นนี้ 31 มกราคม 2556




เรื่องเด่นเย็นนี้ 31 มกราคม 2556 - ดูรายการย้อนหลัง

ข่าวสำคัญวันที่ 31 ม.ค.56




เกาหลีใต้..ส่งจรวดปล่อยดาวเทียมสำเร็จ
วันพฤหัสบดี ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
http://www.krobkruakao.com/store/news/67631/1359589162.jpg
เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเป็นครั้งแรก หลังจากล้มเหลวมา 2 ครั้ง 
จรวดนาโร น้ำหนัก 140 ตันถูกส่งขึ้นจากแท่นปล่อยจรวดในหมู่บ้านโกเฮือง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ ใช้เวลา 9 นาที ก็เดินทางสู่ระดับความสูงที่กำหนดไว้และสามารถปล่อยดาวเทียมเพื่อการสำรวจทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าสู่วงโคจรสำเร็จ แต่ยังต้องรอการยืนยันว่า ดาวเทียมสามารถปฏิบัติการได้อย่างถูกต้องหรือไม่
การส่งดาวเทียมนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้สามารถทำสำเร็จด้วยตัวเอง หลังจากพยายามมา 2 ครั้งในปี 2009 และ 2011 แต่ประสบความล้มเหลว ขณะที่กำหนดปล่อยดาวเทียม 2 ครั้งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก็ถูกเลื่อนเวลาออกไปในนาทีสุดท้าย เนื่องจากเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค
โครงการส่งดาวเทียมมูลค่าเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯนี้ ทำให้เกาหลีใต้ขยับขึ้นสู่ทำเนียบมหาอำนาจทางอวกาศ หลังจากที่เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการยิงจรวดส่งดาวเทียมสู่วงโคจรเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯบอกว่าดาวเทียมของเกาหลีเหนือไม่สามารถโคจรและปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์ แต่ทางเกาหลีเหนือยืนยันว่าดาวเทียมของตนทำงานได้ดี
จรวดส่งดาวเทียมของเกาหลีใต้ ท่อนแรกออกแบบและผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญรัสเซีย ขณะที่เกาหลีเหนือ สร้างจรวดด้วยตนเองเกือบทั้งหมด
ยึดคลังระเบิดโจรใต้ในจังหวัดยะลา-ปัตตานี
วันพฤหัสบดี ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
http://www.krobkruakao.com/store/news/67637/1359602510.jpg
ตำรวจ-ทหาร ตรวจยึดระเบิดพาวเวอร์เจลและระเบิดซีโฟร์จำนวนมากซุกซ่อนไว้ในสวนมะพร้าวที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ขณะที่ยึดอาวุธปืนสงคราม ปุ๋ยยูเรียกว่า 10 กก.ซ่อนในสวนผลไม่ ที่จังหวัดยะลา
เวลา 08.30 น. วันนี้ ( 31 ม.ค.) พลตรีธวัช สุกปลั่ง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำของกลางเป็นระเบิดชนิดพาวเวอร์เจล จำนวน 17 แท่ง และดินระเบิดซีโฟร์อีกจำนวนหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 และ กองร้อยทหารพรานเชิงรุก 4304 จำนวน 30 นาย ตรวจยึดมาได้จากบริเวณสวนมะพร้าวบ้านสายหม้อ ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายผลปิดล้อมจับกุม นายอุสมาน บือโต และ นายนิภา นิกูโน เมื่อวันที่ 12 ม.ค. และยังได้ให้การซัดทอดถึง นายตูแวโซ๊ะ ยามา และ นายอำหราม มามะ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมทั้ง 2 คนได้ และจากการตรวจสอบยังพบว่าสวนมะพร้าวที่ซุกระเบิดเป็นที่ดินของ นายอำหราม มามะ
สำหรับสารพาวเวอร์เจลที่ยึดมาได้ 17 แท่ง หากคนร้ายนำไปประกอบระเบิดในถังแก๊ส ขนาด 15 กก.จะได้ระเบิดอย่างน้อย 17 ลูกเลย
ส่วนที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 11 ร่วมกับหลายฝ่าย  จำนวน 60 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณหลังโรงเรียนบ้านสาคอ ม. 4 ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง โดยเข้าตรวจล้อมภายในสวน ของ นางลีซะ สาแม อายุ 60 ปี พบอาวุธปืนอาก้า  1 กระบอก อาวุธปืนเอส.เค 1 กระบอก พร้อม แม็กกาซีน 4 แม็ก และกระสุนจำนวนหนึ่งซุกซ่อนในพงหญ้า นอกจากนั้น ยังพบปุ๋ยยูเรียใส่แกลลอน จำนวน 10 ลิตร วางอยู่ใต้ต้นกล้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาวุธปืนอาก้า AK 102 เป็นของ อส.สุภัท อินทระกนก ซึ่งถูกลุ่มผู้ก่อเหตุกราดยิงพร้อมพวกจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ก.พ 2555 และอาวุธปืน HK 33 พับฐาน เป็นของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งถูกคนร้ายปล้นไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย 2545 และนำมาใช้ก่อเหตุยิง จนท.ทหารพราน ที่ ต.ตาเซะ เมื่อปี 2553เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัววัยรุ่นต้องสงสัย จำนวน 4 คน ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งนำตัวเจ้าของสวนไปซักถามเพื่อขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่พบหรือไม่
ส่วนการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 และแถลงแผนการปฏิบัติงานประจำปี 2556 ของกอ.รมน.ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีการสรุปการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เหตุการณ์และความสูญเสียลดลง โดยในปี 2554 มีหมู่บ้านที่ไม่เกิดเหตุรุนแรง 1,355 หมู่บ้าน และในปี 2555 มี 1,442 หมู่บ้าน 
รมว.ตปท.พาคณะทูตจากโอไอซีเยี่ยมศูนย์โรฮิงญา
วันพฤหัสบดี ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
http://www.krobkruakao.com/store/news/67638/1359603306.jpg
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พาคณะทูตจาก 17 ประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC)ไปเยี่ยมศูนย์ดูแลเด็กและสตรีชาวโรฮิงญาชั่วคราว ที่จังหวัดสงขลา ก่อนพาลงพื้นที่ 3 จชต.
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทุตานุทูตในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ประจำประเทศไทย 17 ประเทศ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี และยะลา เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และรับทราบแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยก่อนจะเดินทางไปจังหวัดปัตตานี นายสุรพงษ์ จะถือโอกาสนำคณะทูตเดินทางไปตรวจเยี่ยมชาวโรฮิงญาที่เป็นหญิงและเด็ก จำนวนกว่า 100 คน ที่ลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และถูกส่งไปควบคุมตัวที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ที่จังหวัดสงขลา เพื่อดูสภาพชีวิตความเป็นอยู่ และพิจารณาให้การดูแลช่วยเหลือต่อไป ต่อจากนั้น นายสุรพงษ์ จะพาคณะทูตเดินทางไปยังจังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะพูดคุยและรับฟังปัญหาจากผู้นำศาสนาที่มัสยิดกลางปัตตานี หลังจากนั้นจะเดินทางต่อไปยังค่ายสิรินทร เพื่อฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานและการปฏิบัติงานดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่

สรุปข่าวที่น่าสนใจจาก นสพ.เมื่อ 31 ม.ค.56




สรุปข่าวที่น่าสนใจ
พ.ต.อ.อธิป  แท่นนิล  ผกก.ปพ.บก.ป. กล่าวว่า  การจับกุมนายสมชายครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีประชาชนเข้าให้ข้อมูลกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์  ฉายาพันธุ์  ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ว่า นายสมชาย  หรือ กำนันเป๊าะ คุณปลื้มยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย และใช้ชีวิตตามปกติเช่นบุคคลทั่วไป แม้ว่าจะถูกศาลออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จึงสั่งการให้พล.ต.ต.สุพิศาล  ภักดีนฤบาล  ผบก.ป. มอบหมายให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบใน จ.ชลบุรี วางกำลังซุ่มตามจุดต่างๆ ในจ.ชลบุรี 10 จุด ใช้กำลังประมาณ 30 นาย เพื่อสืบสวนหานายสมชาย ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน จนพบว่าอยู่ในพื้นที่จริง จึงเฝ้าติดตามเป็นระยะ กระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 30 ม.ค. เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่พบว่ามีรถเลกซัส สีดำ ทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร ขับออกมาจากบ้านของนายสมชาย จึงสะกดรอยตามมาถึง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ รอจนหาหมอตรวจเสร็จรถคันดังกล่าวเดินทางกลับ จ.ชลบุรี เส้นทางมอเตอร์เวย์ จึงวางแผลเข้าจับกุมโดยใช้ตำรวจคอมมานโดประมาณ 10 นาย เข้าประกบรถ พร้อมกับแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขอเปิดประตู เมื่อคนในรถยินยอม พบว่าเป็นกำนันเป๊าะผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงให้ตำรวจคอมมานโดเข้าไปนั่งประกบโดยไม่มีการขัดขืนพร้อมนำตัวกลับมาที่กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม โชคชัย 4    (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
ขณะที่ สำนักข่าวเอพี รายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก ว่า  ตำรวจไทยสามารถจับกุมนักการเมืองคนสำคัญซึ่งหลบหนีคดีไปนาน 8 ปี หลังถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิดจริงในคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่น   (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)
ดักบึมทหารดับ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 30 ม.ค.  เกิดเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิด 2 แห่ง โดยรายแรก ขณะที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 33 จำนวน 5 นาย นั่งรถกระบะอีซูซุ สีบอร์นเงิน ออกลาดตระเวนตามเส้นทางเพื่อ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านจูดแดง ม. 6 ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส ถึงบริเวณสามแยกบ้านจูดแดง ห่างจากโรงเรียนเล็กน้อย ถูกคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่าทึบข้างทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบไว้ในถังปิกนิก นำหนัก 25 กก. นำไปฝังไว้กลางถนน แรงระเบิดทำให้รถกระบะฉีกขาดเป็น 2 ท่อนพ.จ.อ.สุเทพ โมกคล้ายมูล หน.ชุดและทำหน้าที่พลขับเสียชีวิต พลฯอนุชิต เกล็ดนิล และพลฯวสันต์ แก้วแสงสาย บาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ หลังเกิดเหตุ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร  ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ นำกำลังออกไล่ล่าคนร้ายแล้ว  รายที่ 2  เกิดเหตุขณะที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 6 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทางทำหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านกูมุง ม.2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รายที่ 3 คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบไว้ในกล่องเหล็กหนัก 15 กก.ไปซุกซ่อนอยู่ใต้รถเข็นขายผลไม้ดองที่จอดอยู่หน้าโรงเรียนบ้านไอสะเตียร์ ม.13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ฉวยโอกาสทหารพรานสังกัดร้อย ทพ.4807 กรมทหารพรานที่ 48 เข้าไปทำหน้าที่ รปภ.ครู จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ เป็นเหตุให้ อส.ทพ.อับดุลเลาะ รอฮิม บาดเจ็บสาหัส นำส่งรพ.เจาะไอร้อง ครูและนักเรียนที่อยู่ระหว่างเข้าแถวเคารพธงชาติตกใจหนีตายกันอลหม่าน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  31/01/2013
พงศพัศยังแรงสุขุมพันธุ์แต้มทรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้า โพล”  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  (นิด้า)  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนกรุงกับการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. โค้งที่ 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค. 2556 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 50 เขต จำนวน 1,503 หน่วยตัวอย่างกระจายทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพ จากการสำรวจ เมื่อถามว่า “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ท่านจะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯกทม.” พบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 23.82 ระบุ จะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ  รองลงมา ร้อยละ  19.16 จะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ร้อยละ 5.12 จะเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ร้อยละ 1.13 จะเลือก นายสุหฤท สยามวาลา ร้อยละ 0.20 จะเลือก นายโฆษิต  สุวินิจจิต ร้อยละ0.07 จะเลือก นายสัณหพจน์  สุขศรีเมือง  ร้อยละ 48.04 ที่ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ และมีเพียงร้อยละ  2.26 ที่ระบุว่าไม่ลงคะแนนเสียง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  31/01/2013
เรียกผู้รับเหมาแจง 4 ก.พ. 80 สภ.อ่วม
พล.ต.อ.วรพงษ์   ชิวปรีชา  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  กล่าวว่า  ได้มอบหมายให้แต่ละสถานีตำรวจและจังหวัดรวบรวมข้อมูลจากการตรวจสอบพบว่าโรงพักทั้งหมดกว่า 100 แห่ง ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างเลย โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญบริษัทคู่สัญญาก่อสร้างเข้าพบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงว่าภายในระยะเวลาที่เหลืออยู่มีแผนงานก่อสร้างอย่างไร มีแหล่งเงินทุนที่ไหน และมีขีดความสามารถเท่าใด  แต่ข้อมูลที่ได้รับขณะนี้ความเห็นส่วนตัวคงเสนอยกเลิกสัญญาก่อสร้าง แล้วจัดซื้อจัดจ้างใหม่ โดยเชื่อว่าผู้รับเหมาเจ้าเดิมไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการอีกครั้ง และเปิดโอกาสให้บริษัทคู่สัญญาเข้าชี้แจงด้วย นอกจากนี้จะฟ้องร้องทางแพ่งด้วย โดยจะพิจารณาดูว่าระหว่างที่ไม่มีโรงพักนั้นได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เช่น ต้องเช่าสถานที่ทำการนานกว่าปกติ  หรือได้คู่สัญญาใหม่แล้วแต่ราคาแพงมากกว่าเดิม  ซึ่งส่วนต่างของราคาทั้งหมดจะคิดรวมเป็นมูลค่าความเสียหาย และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน วันที่  31/01/2013
ธาริตมัด “เทือก” ศอฉ.-เซ็นสั่งเคลื่อนทหาร
นายธาริต เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวเปิดใจถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯและผอ.ศอฉ.ยื่นฟ้องคดีอาญา เกี่ยวกับการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพข้อหาฆ่า อันเป็นผลมาจากคดี 99 ศพ เมื่อปี 2553 ว่า คำฟ้องของทั้งสองไม่เป็นความจริง พนักงานสอบสวนทำหน้าที่ตรงไปตรงมา การแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นผลสืบเนื่องมาจากการไต่สวนของศาลอาญา โดยผลของการสอบสวนระบุว่า  นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการบังคับบัญชา ศอฉ. สั่งการให้ทหาร50,000นาย เข้าปฏิบัติการโดยใช้อาวุธ โดยมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรถึง 5 ครั้ง แม้ว่าประธานวุฒิสภาจะออกมายืนยันว่า ผลการเจรจากับนป.มีข้อยุติแล้วว่า นปช.จะยุติการชุมนุมโดยแจ้งให้บุคคลทั้งสองทราบแล้ว แต่ก็ยังมีคำสั่งให้ทหารปฏิบัติการต่อไปจนเกิดความสูญเสียอย่างมาก  แม้คำฟ้องของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพจะเข้าข่ายการฟ้องเท็จ  แต่ได้หารือกับจำเลยรวมอีก 3 คนแล้วว่า  จะไม่ใช้สิทธิ์ฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จ เพราะถูกฟ้องจากการปฏิบัติหน้าที่จึงจะไม่ดำเนินการใดๆ ให้คดีกลายเป็นเรื่องส่วนตัว คดีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาแล้วถูกตอบโต้รุนแรง  พฤติการณ์เช่นนี้อาจเทียบเคียงว่าเป็นการปฏิเสธการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และการที่พนักงานสอบสวนถูกฟ้องเป็นจำเลย อาจเป็นแบบอย่างให้ผู้ต้องหาคดีอื่นเอาเป็นแบบอย่างในการกดดันเจ้าหน้าที่
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่  31/01/2013
จับคาเก๋งบีเอ็มพระเอกมิวสิกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 30 ม.ค. พ.ต.ท.นาวิน เกตุผักแว่น สวป.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา นำกำลังตั้งจุดตรวจกวาดล้างยาเสพติดที่ถนนสายพิมาย – ตลาดแค ระหว่างสะพานครองโพธิ์ก่อนจะถึง อ.พิมาย ก่อนพบรถมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผม 2060 นครราชสีมา ต้องสงสัยผ่านเข้ามาจึงขอตรวจค้นพบ นายสมโชค ศาลาแดง อายุ 34 ปี และนายกิตติชัย ศิลาจันทร์ อายุ 36 ปี พร้อมยาบ้าซุกในกระเป๋ากางเกง 38 เม็ด จึงสอบสวนขยายผลจนทราบว่า ซื้อยามาจาก นายณรงค์ศักดิ์ แปลงไร่ อายุ 24 ปี และเป็นพระเอกมิวสิกวีดีโอเพลง ใจบ่มักดี ของไหมไทย ใจตะวัน นักร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง  ภายหลังทำการขยายผลล่อซื้อ กระทั่ง นายณรงค์ศักดิ์ ขับรถบีเอ็มดับบลิว สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ลฉ 2219 กรุงเทพมหานคร นำยาเสพติดมาส่งตามที่หมายพร้อมกับแฟนสาว จึงแสดงตัวเข้าควบคุมก่อนจะตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 49 เม็ด ยาไอซ์ 1.8 กรัม และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  31/01/2013
แดงแฉปมไม่ร่วมกลุ่ม 29 มกรา
นางธิดา  ถาวรเศรษฐ์  ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  กล่าวว่า  ขอปฏิเสธข่าว นปช.สกัดคนเสื้อแดงไม่ให้ไปร่วมกับกลุ่ม 29 มกราฯ เพราะมีเป้าหมายเดียว เพียงแต่วิธีการคนละแบบ จึงไม่มีเหตุอะไรที่จะไปสกัดกั้น ซึ่งเห็นว่า  การเสนอ พ.ร.ก. เป็นทางออกเดียวที่จะแก้ไขปัญหา แม้อาจจะต้องถูกกระแสต่อต้าน แต่ในอดีตเคยออก พ.ร.ก.นิรโทษฯมาแล้วถึง 7 ฉบับ แต่ขอร้องคนเสื้อแดงว่า ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้ขบวนการเสียหาย
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  31/01/2013
จี้ ธปท.ลดดอกเบี้ยสกัดบาทแข็ง
นายวีรพงษ์  รามางกูร  ประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กล่าวปาฐกถาในงาน Thailands Economic Outlook 2013” ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) วานนี้ (30 ม.ค.) ว่า  ประเด็นที่น่าเป็นห่วง ในขณะนี้ คือ การไหลข้าวของเงินทุนต่างประเทศ ที่อาจสร้างปัญหาฟองสบู่ในหลายตลาด โดยเงินทุนที่ไหลเข้ามานั้น เป็นผลจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยที่สูงกว่าดอกเบี้ยต่างประเทศ ดังนั้นวิธีที่จะลดการไหลเข้าของเงินทุนส่วนนี้ได้ดีที่สุด คือ การลดดอกเบี้ยนโยบาย
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  31/01/2013
ตั้ง ฉก.ดูค่าบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ  เมื่อวันที่ 30 ม.ค. โดยสั่งให้ตั้งทีมนักเศรษฐศาสตร์การเงิน เพื่อหารือกำหนดมาตรการที่จำเป็นรับมือค่าเงินบาทผันผวน ทีมนักเศรษฐศาสตร์ มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เป็นตัวแทนของรัฐบาล มีนักเศรษฐศาสตร์สำคัญหลายคน อย่างไรก็ดี แม้จะมีทีมงานดูแลค่าเงิน แต่อำนาจการบริหารยังอยู่ในการพิจารณาของ ธปท.
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  31/01/2013
กู้อีก 7 หมื่นล.จำนำข้าว
น.ส.จุฬารัตน์  สุธีธร  ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า  จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง วันที่ 31 ม.ค. เพื่อกู้เงินเพิ่ม 7 หมื่นล้านบาทให้ ธ.ก.ส. โดยส่วนหนึ่ง 5.5 หมื่นล้านบาท เป็นวงเงินกู้ที่เหลือจากการรับจำนำครั้งก่อน ที่ได้รับอนุมัติ 2.69 แสนล้านบาท สำหรับปีนี้ที่จะกู้ให้ ธ.ก.ส.รับจำนำข้าว 1.5 แสนล้านบาท ได้กู้แล้ว 3.7 หมื่นล้านบาท และจะทยอยกู้ให้ครบต่อไป อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยังชำระหนี้ให้กระทรวงการคลัง เพราะอยู่ระหว่างชำระหนี้ ธ.ก.ส.ให้ครบ 9 หมื่นล้านบาท เพราะ ธ.ก.ส.ใช้สภาพคล่องธนาคารรับจำนำข้าวให้รัฐบาลก่อน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  31/01/2013

เผยข้อมูลแกะรอย"กำนันเป๊าะ"เมื่อ 31 ม.ค.56




เผยข้อมูลแกะรอย"กำนันเป๊าะ"

ย้อนรอย 2 คดีดัง กำนันเป๊าะ 31 Jan 2013




ย้อนรอย 2 คดีดัง กำนันเป๊าะ 31 Jan 2013

ลำดับเหตุการณ์ จับกุมกำนันเป๊าะ 31 มกราคม 2556




ลำดับเหตุการณ์ จับกุมกำนันเป๊าะ 31 มกราคม 2556

เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 3




เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 3

เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 2 : วิเคราะห์หุ้นรายวัน




เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 2 : วิเคราะห์หุ้นรายวัน

เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 1 2




เล่าข่าวเศรษฐกิจ 31 มกราคม 2556 : ช่วงที่ 1 2

เรื่องเล่าเช้านี้ 31 มกราคม 2556 - ฉบับเต็ม




เรื่องเล่าเช้านี้ 31 มกราคม 2556 - ฉบับเต็ม - ดูรายการย้อนหลัง

ล้อมจับ "เป๊าะ" คาด่านมอเตอร์เวย์ : 31 มกราคม 2556




ล้อมจับ "เป๊าะ" คาด่านมอเตอร์เวย์ : 31 มกราคม 2556

ข่าว 5 หน้า 1 31 มกราคม 2556




 - ดูรายการย้อนหลัง

สรุปข่าวที่น่าสนใจ เมื่อ 31 ม.ค.56




กมธ.ทหารฯ ถกปัญหาภาคใต้ ชี้ต้องมีนโยบายต่อเนื่องแม้เปลี่ยนรัฐบาล แนะสานแนวทางอื่นควบด้านความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการทหาร (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎรที่มีพล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน มีการพิจารณากรณีปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเชิญ ส.ส.ภาคใต้ทุกพรรคการเมือง รวมถึง พล.ท.พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน ส.ว.พะเยา ในฐานะเลขากมธ.การทหาร วุฒิสภา เข้าร่วมหารือ ทั้งนี้นายณรงค์ ดูดิง ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาภาคใต้เปรียบเสมือนอาหารข้าวยำ เพราะทุกอย่างปนกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทั้งการก่ออาชญากรรมส่วนตัว การแบ่งแยกดินแดน การขัดแย้งผลประโยชน์ในพื้นที่ ฯลฯ ซึ่งระยะเวลาที่เกิดขึ้นนั้นมีมานานแล้ว เรื่องนี้นักการเมืองในพื้นที่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องร่วมกันแยกแยะลักษณะการก่อเหตุโดยมุ่งเน้นไปที่การข่าว เพื่อที่จะหาผู้กระทำและแยกแยะปัญหาได้ถูกวิธี
ขณะที่นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อรัฐต้องทำงานในพื้นที่ก็จะต้องลบข้อกล่าวหาให้ได้ว่ารัฐไม่ได้เป็นผู้กระทำเหตุเสียเอง เพื่อให้ชาวบ้านมีทัศนคติที่ดี และในฐานะที่ตนเป็นคนในพื้นที่มองว่านโยบายจากฝ่ายการเมืองยังไม่ตรงกันนัก กล่าวคือเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายก็จะหยุดชะงัก แทนที่จะทำอย่างต่อเนื่อง เหตุนี้ต้องหาวิธีการรวมกันเพื่อที่จะมีแนวทางทำงานที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลแต่ยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ นอกจากนี้ตนเห็นว่าควรสร้างแรงจูงใจและขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ ให้เทียบเท่าประชาชนที่ชุมนุมทางการเมืองที่มีเงินชดเชยหากเสียชีวิตถึง7.5ล้านบาท
ส่วนนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่า แม้มิติด้านความมั่นคงจะเป็นหนทางหนึ่งก็จริง แต่การแก้ปัญหาต้องมองถึงมิติด้านอื่นๆด้วย อาทิ ด้านเศรษฐกิจที่มีข้อมูลชี้ว่าแม้สถานการณ์ความไม่สงบไม่แน่นอน แต่จำนวนเงินที่มีการซื้อขายในชายแดนไทย-มาเลเซีย ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ในระดับ6-7แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งแสดงว่าประชาชนของทั้ง2ประเทศยังซื้อขาย แลกเปลี่ยนและมีความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจกันอยู่ เหตุนี้นโยบายที่จะออกมาจากรัฐควรต้องมีความถ่วงดุลในด้านต่างๆให้ดี อย่ามองแค่เรื่องการเมือง การทหารอย่างเดียว เปรียบเสมือนการให้อาหารต้นไม้ที่เน้นไปที่สารใดสารหนึ่งแทนที่จะทำให้เติบโตก็อาจตายได้
ด้านพล.ท.พงศ์เอก ตัวแทนจากวุฒิสภา กล่าวว่า ข้อสรุปที่กมธ.กับฝั่ง ส.ว.มีความคล้ายคลึงกัน จึงเห็นด้วยหากจะใช้แนวทางเช่นนี้แก้ไขปัญหา ทั้งนี้กมธ.ในส่วนวุฒิสภา แบ่งประเด็นการแก้ปัญหา อาทิ ด้านงบประมาณ ที่ควรจะลงไปในส่วนไหนอย่างไร ให้เกิดความเหมาะสม สมดุล ด้านวิธีคิดในการแก้ปัญหา ที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ด้านรูปแบบการปกครองพิเศษ ที่ให้คนในพื้นที่ปกครองตัวเอง อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีอยู่ผลที่ออกมาก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่ามักเป็นคนในพื้นที่เองที่ได้รับตำแหน่งบริหารไป ทั้งนี้ต้องนำมาพิจารณาด้วยว่าในหลักการการเมืองนำการทหารนั้นควรมีการออกแบบมาตรการอย่างไรให้เกิดความเหมาะสม สมดุลกับด้านอื่นๆ
ส.ว.สรรหา ชี้กระทรวงการต่างประเทศระบุนิยาม “สันปันน้ำ” ในเอกสารชี้แจงคดีพระวิหารคลาดเคลื่อน ชี้เขตแดนจากช่องบกถึงช่องสะงำไม่จำเป็นต้องทำหลักเขตแดน กังขานำเรื่องนี้มาพูดเหมือนไม่ยืนยันในเส้นเขตแดนเดิมของไทย พยายามยกระดับแผนที่เขมร หวั่นกระทบเส้นเขตแดนทั้งหมด 195 กม.
       
       วันนี้ (31 ม.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” ระบุว่า เหมือนกระเหี้ยนกระหือรือที่จะสละแผ่นดินของเราเสียจริงๆ ถ้าไม่พูดแบบนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรที่สุภาพกว่านี้ได้ เพราะในเอกสาร "50 ปี 50 ประเด็นถามตอบกรณีปราสาทพระวิหาร" ตลอด 50 ข้อ 47 หน้า มีอยู่ตอนเดียวที่แทรกบทนิยามศัพท์เข้าไป คือตอนท้ายข้อ 8 ตอนต้นของหน้า 10 แต่เป็นนิยามศัพท์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง จะมีผลกระทบต่อปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชาในอนาคต ไม่เฉพาะแต่บริเวณปราสาทพระวิหารเท่านั้น แต่รวมตลอดแนว 195 กิโลเมตรจากช่องบก อุบลราชธานี ถึงหลักเขตที่ 1 ช่องสะงำ ศรีษะเกษ ที่ไม่เคยมีหลักเขตแดนมาตลอดกว่า 100 ปี
       
       เป็นนิยามศัพท์ของคำ "สันปันน้ำ" ที่ระบุไว้ว่า... "สันปันน้ำ คือ แนวสันต่อเนื่องในภูมิประเทศ เมื่อฝนตกจะแบ่งน้ำเป็นสองส่วน ซึ่งอาจไม่ใช่สันเขาหรือขอบหน้าผาก็ได้ โดยปกติต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคในการพิสูจน์หาสันปันน้ำ ทั้งนี้ ตรงบริเวณปราสาทพระวิหาร จนถึงบัดนี้ยังไม่เคยมีการสำรวจหาสันปันน้ำในภูมิประเทศจริง"
       
       นิยามศัพท์นี้ และคำตอบต่อปัญหาที่ว่าทำไมเขตแดน 195 กิโลเมตรนี้ไม่มีหลักเขตแดน เพราะกรรมการผสมสยาม-ฝรั่งเศสเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมี เพราะสันปันน้ำเป็นหน้าผาชัดเจน "ไม่ต้องทำ" หลักเขตแดน (มุมมอง ศ.สมปอง สุจริตกุล และภาคประชาชน) หรือว่า "ยังไม่ได้ทำ" หลักเขตแดน (มุมมองกระทรวงการต่างประเทศ) ไม่มีความจำเป็นจะต้องบรรจุเข้ามาในเอกสารฉบับนี้เลย บรรจุเข้ามาทำไม เพื่อวัตถุประสงค์ใด จิตใจของคนบรรจุข้อความนี้เข้ามาคิดอะไรอยู่ เพราะเท่ากับเป็นการไม่ยืนยันในเส้นเขตแดนเดิมของประเทศไทยในส่วน 195 กิโลเมตรจากช่องบกถึงช่องสะงำ เท่ากับยอมเจรจาใหม่หมดในส่วนนี้ ต่างกับกัมพูชาที่เขายืนยันเส้นเขตแดนตามแผนที่ระวางดงรักมาตลอด
       
       “การบอกว่า "ยังไม่เคยมีการสำรวจหาสันปันน้ำในภูมิประเทศจริง" คิดในด้านกลับก็คือการยกระดับราคาแผนที่ระวางดงรักของกัมพูชา” นายคำนูณ ระบุ
       
       ก่อนหน้านี้ นายคำนูณได้เขียนบทความ “50 ปี 50 ประเด็น 50 วิธี‘รักชาติ’แบบเนียน ๆ ของ กต.ไทย !” ลงในเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ และจะตีพิมพ์ใน นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน กล่าวโดยสรุปว่า ราชอาณาจักรไทยไทยต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหารภาค 2 ปลายปี 2556 นี้อีกครั้ง หลังจากเจ็บปวดมาแล้วเมื่อ 50 ปีก่อน โดยไม่มีเงื่อนไข โดยไม่มีข้อแม้ และโดยไม่ต้องรับฟังเสียงของประชาชน แม้ว่าจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนอย่างเป็นทางการเพิ่มถึง 50 % และ 66.66 %
       
       ทั้งนี้ นายคำนูณได้ตั้งข้อสังเกต 3 ประการ ได้แก่ ในจำนวน 50 ประเด็น ไม่มีสักประเด็นเดียวที่กระทรวงการต่างประเทศจะให้ข้อมูลถึงเหตุที่ประเทศต่าง ๆ จะรับเขตอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ประการต่อมา แม้มีการพูดถึงจะอ้างถึงหนังสือลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2505 จากพ.อ.ถนัด คอมันตร์ถึงเลขาธิการสหประชาชาติแจ้งมติคณะรัฐมนตรี 3 กรกฎาคม 2505 ถึงการไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารภาคแรก 15 มิถุนายน 2505 และขอตั้งข้อสงวนสิทธิที่ประเทศไทยจะมีหรือพึงมีในอนาคตเพื่อเรียกคืนปราสาทพระวิหาร แต่ก็กลับกล่าวถึงว่าเป็นหนังสือที่ขัดกับธรรมนูญศาลข้อ 60 เป็นไปไม่ได้ และถ้าจะพอเป็นไปได้บ้างตามข้อ 61 ก็ขาดอายุเสียแล้วตั้งแต่ปี 2515
       
       นอกจากนี้ การที่กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า คดีปราสาทพระวิหารภาค 2 นี้ไม่ใช่คดีใหม่ แต่เป็นคดีเก่า เป็นการขอตีความตามคดีเก่าตามธรรมนูญศาลข้อ 60 วรรคสอง ทั้งๆ ที่แม้แต่ในทฤษฎีกฎหมายระหว่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศยึดถือว่าประเทศไทยยังคงผูกพันอยู่กับเขตอำนาจศาลแม้จะขาด

มติชน – สรุปข่าวหน้า 1 ประจำวันที่ 31 ม.ค. 56




มติชน – สรุปข่าวหน้า 1 ประจำวันที่ 31 ม.ค. 56
31/01/2013 , 07:43  
Filed under breakingnewsข่าวมติชน
31 ม.ค.–มติชน
ล็อก “กำนันเป๊าะ” โผล่กรุงเช็กมือถือโยง “เครือข่าย” ช่วยหนี
คดี “จ้างฆ่า-ทุจริตซื้อที่” ส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีตร.เผยใช้ชื่อ “กิม แซ่ตั้ง”
“เฉลิม” ปัดเกมการเมือง คอมมานโดจู่โจมรวบ “กำนันเป๊าะ” บนถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี หลังกลับจากหาหมอ รพ.ดังใน กทม.เผยหนีกบดานอยู่ในบ้านพัก ต.แสนสุข “ชลบุรี”
“พงศพัศ” ยังลิ่ว-โพลสำรวจรอบสอง
ปชป.งัด2กลยุทธ์พลิกสู้คุณชายชูอุโมงค์กันท่วม’บิ๊กแจ๊ด’ตั้ง1แสนจับโกง
ปชป.งัดกลยุทธ์เจาะรอยตะเข็บ กทม.เยี่ยมยามพี่น้องอีสาน หวังดึงคะแนน “สุขุมพันธุ์” ชูสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มพท.ขอข้าราชการกรุงเทพฯเป็นกลาง’พงศพัศ’ดันรถโรงเรียนแบ่งเบาภาระพ่อแม่ “ผบช.น.” ให้ 1 แสนบาทจับโกงเลือกตั้ง
“โปงลาง” ส่อแตก! “อี๊ด” แย้มปัญหา ไร้เงา “ลูลู่-ลาล่า” 
“ลูลู่-ลาล่า” ชี้แจงวงแตกวันนี้ “อี๊ด-โปงลางสะออน” โทร.ขอโทษรองเจ้าอาวาสวัดพิจิตร อ้างมีปัญหาภายใน
นักวิชาการชี้นิรโทษ ห้ามยกเว้น”บุคคล” 
“อภิสิทธิ์” ย้ำจุดยืนหนุนกม.นิรโทษกรรม แต่ต้องแยกแยะกลุ่มใดควรได้ประโยชน์ จี้รบ.ถอน 4 ร่าง กม.ปรองดองพร้อมเปิดเวทีหาข้อสรุป “เฉลิม” ยันไม่ทิ้งนักโทษเสื้อแดง
เรียกผู้รับเหมาแจง4 กพ.80 สภ.อ่วม
โรงพักโดนทุบราบ เร่งหา “ที่ทำงาน” ให้อุบลฯใช้เลี้ยงปลา
ตร.เรียกคู่สัญญาสร้าง 396 โรงพักทั่วประเทศแจงเหตุทิ้งงาน 4 ก.พ.เล็งฟ้องแพ่ง
ตั้งอนุกก.แก้ปัญหา “ท่าเรือ” สหภาพลั่น’วิโรจน์’ต้องออก
‘บิ๊กแจ๊ด’ตั้งอนุ กก.พิจารณาข้อเรียกร้อง เหตุม็อบชุมนุมไล่ “ผอ.การท่าเรือฯ” นำเข้าถกในที่ประชุมกิจการสัมพันธ์1 ก.พ.นี้ ชี้ปัญหาเกิดจากตั้งกรรมการสอบกลุ่มที่มีการฟ้องร้อง สหภาพยันถอยไม่ได้ ยืนกราน’วิโรจน์’ต้องลาออก พร้อมชุมนุมกดดันต่อเนื่อง
“ดร.โกร่ง” แนะลด “ดอกเบี้ย” ชะลอเงินไหลเข้าสู้บาทแข็ง
“ดร.โกร่ง” สั่งเฝ้าระวังหลังเงินนอกไหลเข้าประเทศมากขึ้น เห็นสัญญาณเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น-ตลาดตราสารหนี้ สะท้อนเงินต่างชาติเข้าเก็งกำไร ทำให้เงินบาทแข็งขึ้น