วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

สรุปข่าวที่น่าสนใจจาก นสพ.เมื่อ 31 ม.ค.56




สรุปข่าวที่น่าสนใจ
พ.ต.อ.อธิป  แท่นนิล  ผกก.ปพ.บก.ป. กล่าวว่า  การจับกุมนายสมชายครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีประชาชนเข้าให้ข้อมูลกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์  ฉายาพันธุ์  ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ว่า นายสมชาย  หรือ กำนันเป๊าะ คุณปลื้มยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย และใช้ชีวิตตามปกติเช่นบุคคลทั่วไป แม้ว่าจะถูกศาลออกหมายจับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จึงสั่งการให้พล.ต.ต.สุพิศาล  ภักดีนฤบาล  ผบก.ป. มอบหมายให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบใน จ.ชลบุรี วางกำลังซุ่มตามจุดต่างๆ ในจ.ชลบุรี 10 จุด ใช้กำลังประมาณ 30 นาย เพื่อสืบสวนหานายสมชาย ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน จนพบว่าอยู่ในพื้นที่จริง จึงเฝ้าติดตามเป็นระยะ กระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 30 ม.ค. เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่พบว่ามีรถเลกซัส สีดำ ทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร ขับออกมาจากบ้านของนายสมชาย จึงสะกดรอยตามมาถึง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ รอจนหาหมอตรวจเสร็จรถคันดังกล่าวเดินทางกลับ จ.ชลบุรี เส้นทางมอเตอร์เวย์ จึงวางแผลเข้าจับกุมโดยใช้ตำรวจคอมมานโดประมาณ 10 นาย เข้าประกบรถ พร้อมกับแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขอเปิดประตู เมื่อคนในรถยินยอม พบว่าเป็นกำนันเป๊าะผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงให้ตำรวจคอมมานโดเข้าไปนั่งประกบโดยไม่มีการขัดขืนพร้อมนำตัวกลับมาที่กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม โชคชัย 4    (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
ขณะที่ สำนักข่าวเอพี รายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก ว่า  ตำรวจไทยสามารถจับกุมนักการเมืองคนสำคัญซึ่งหลบหนีคดีไปนาน 8 ปี หลังถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิดจริงในคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่น   (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)
ดักบึมทหารดับ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 30 ม.ค.  เกิดเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิด 2 แห่ง โดยรายแรก ขณะที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 33 จำนวน 5 นาย นั่งรถกระบะอีซูซุ สีบอร์นเงิน ออกลาดตระเวนตามเส้นทางเพื่อ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านจูดแดง ม. 6 ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส ถึงบริเวณสามแยกบ้านจูดแดง ห่างจากโรงเรียนเล็กน้อย ถูกคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่าทึบข้างทางใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบไว้ในถังปิกนิก นำหนัก 25 กก. นำไปฝังไว้กลางถนน แรงระเบิดทำให้รถกระบะฉีกขาดเป็น 2 ท่อนพ.จ.อ.สุเทพ โมกคล้ายมูล หน.ชุดและทำหน้าที่พลขับเสียชีวิต พลฯอนุชิต เกล็ดนิล และพลฯวสันต์ แก้วแสงสาย บาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ หลังเกิดเหตุ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร  ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ นำกำลังออกไล่ล่าคนร้ายแล้ว  รายที่ 2  เกิดเหตุขณะที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 6 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทางทำหน้าที่ รปภ.ครูโรงเรียนบ้านกูมุง ม.2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รายที่ 3 คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบไว้ในกล่องเหล็กหนัก 15 กก.ไปซุกซ่อนอยู่ใต้รถเข็นขายผลไม้ดองที่จอดอยู่หน้าโรงเรียนบ้านไอสะเตียร์ ม.13 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ฉวยโอกาสทหารพรานสังกัดร้อย ทพ.4807 กรมทหารพรานที่ 48 เข้าไปทำหน้าที่ รปภ.ครู จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ เป็นเหตุให้ อส.ทพ.อับดุลเลาะ รอฮิม บาดเจ็บสาหัส นำส่งรพ.เจาะไอร้อง ครูและนักเรียนที่อยู่ระหว่างเข้าแถวเคารพธงชาติตกใจหนีตายกันอลหม่าน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  31/01/2013
พงศพัศยังแรงสุขุมพันธุ์แต้มทรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้า โพล”  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  (นิด้า)  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนกรุงกับการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. โค้งที่ 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค. 2556 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 50 เขต จำนวน 1,503 หน่วยตัวอย่างกระจายทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพ จากการสำรวจ เมื่อถามว่า “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ท่านจะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯกทม.” พบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 23.82 ระบุ จะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ  รองลงมา ร้อยละ  19.16 จะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ร้อยละ 5.12 จะเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ร้อยละ 1.13 จะเลือก นายสุหฤท สยามวาลา ร้อยละ 0.20 จะเลือก นายโฆษิต  สุวินิจจิต ร้อยละ0.07 จะเลือก นายสัณหพจน์  สุขศรีเมือง  ร้อยละ 48.04 ที่ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ และมีเพียงร้อยละ  2.26 ที่ระบุว่าไม่ลงคะแนนเสียง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  31/01/2013
เรียกผู้รับเหมาแจง 4 ก.พ. 80 สภ.อ่วม
พล.ต.อ.วรพงษ์   ชิวปรีชา  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  กล่าวว่า  ได้มอบหมายให้แต่ละสถานีตำรวจและจังหวัดรวบรวมข้อมูลจากการตรวจสอบพบว่าโรงพักทั้งหมดกว่า 100 แห่ง ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างเลย โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญบริษัทคู่สัญญาก่อสร้างเข้าพบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงว่าภายในระยะเวลาที่เหลืออยู่มีแผนงานก่อสร้างอย่างไร มีแหล่งเงินทุนที่ไหน และมีขีดความสามารถเท่าใด  แต่ข้อมูลที่ได้รับขณะนี้ความเห็นส่วนตัวคงเสนอยกเลิกสัญญาก่อสร้าง แล้วจัดซื้อจัดจ้างใหม่ โดยเชื่อว่าผู้รับเหมาเจ้าเดิมไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการอีกครั้ง และเปิดโอกาสให้บริษัทคู่สัญญาเข้าชี้แจงด้วย นอกจากนี้จะฟ้องร้องทางแพ่งด้วย โดยจะพิจารณาดูว่าระหว่างที่ไม่มีโรงพักนั้นได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เช่น ต้องเช่าสถานที่ทำการนานกว่าปกติ  หรือได้คู่สัญญาใหม่แล้วแต่ราคาแพงมากกว่าเดิม  ซึ่งส่วนต่างของราคาทั้งหมดจะคิดรวมเป็นมูลค่าความเสียหาย และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน วันที่  31/01/2013
ธาริตมัด “เทือก” ศอฉ.-เซ็นสั่งเคลื่อนทหาร
นายธาริต เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวเปิดใจถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯและผอ.ศอฉ.ยื่นฟ้องคดีอาญา เกี่ยวกับการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพข้อหาฆ่า อันเป็นผลมาจากคดี 99 ศพ เมื่อปี 2553 ว่า คำฟ้องของทั้งสองไม่เป็นความจริง พนักงานสอบสวนทำหน้าที่ตรงไปตรงมา การแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นผลสืบเนื่องมาจากการไต่สวนของศาลอาญา โดยผลของการสอบสวนระบุว่า  นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการบังคับบัญชา ศอฉ. สั่งการให้ทหาร50,000นาย เข้าปฏิบัติการโดยใช้อาวุธ โดยมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรถึง 5 ครั้ง แม้ว่าประธานวุฒิสภาจะออกมายืนยันว่า ผลการเจรจากับนป.มีข้อยุติแล้วว่า นปช.จะยุติการชุมนุมโดยแจ้งให้บุคคลทั้งสองทราบแล้ว แต่ก็ยังมีคำสั่งให้ทหารปฏิบัติการต่อไปจนเกิดความสูญเสียอย่างมาก  แม้คำฟ้องของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพจะเข้าข่ายการฟ้องเท็จ  แต่ได้หารือกับจำเลยรวมอีก 3 คนแล้วว่า  จะไม่ใช้สิทธิ์ฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จ เพราะถูกฟ้องจากการปฏิบัติหน้าที่จึงจะไม่ดำเนินการใดๆ ให้คดีกลายเป็นเรื่องส่วนตัว คดีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาแล้วถูกตอบโต้รุนแรง  พฤติการณ์เช่นนี้อาจเทียบเคียงว่าเป็นการปฏิเสธการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และการที่พนักงานสอบสวนถูกฟ้องเป็นจำเลย อาจเป็นแบบอย่างให้ผู้ต้องหาคดีอื่นเอาเป็นแบบอย่างในการกดดันเจ้าหน้าที่
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่  31/01/2013
จับคาเก๋งบีเอ็มพระเอกมิวสิกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 30 ม.ค. พ.ต.ท.นาวิน เกตุผักแว่น สวป.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา นำกำลังตั้งจุดตรวจกวาดล้างยาเสพติดที่ถนนสายพิมาย – ตลาดแค ระหว่างสะพานครองโพธิ์ก่อนจะถึง อ.พิมาย ก่อนพบรถมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผม 2060 นครราชสีมา ต้องสงสัยผ่านเข้ามาจึงขอตรวจค้นพบ นายสมโชค ศาลาแดง อายุ 34 ปี และนายกิตติชัย ศิลาจันทร์ อายุ 36 ปี พร้อมยาบ้าซุกในกระเป๋ากางเกง 38 เม็ด จึงสอบสวนขยายผลจนทราบว่า ซื้อยามาจาก นายณรงค์ศักดิ์ แปลงไร่ อายุ 24 ปี และเป็นพระเอกมิวสิกวีดีโอเพลง ใจบ่มักดี ของไหมไทย ใจตะวัน นักร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง  ภายหลังทำการขยายผลล่อซื้อ กระทั่ง นายณรงค์ศักดิ์ ขับรถบีเอ็มดับบลิว สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ลฉ 2219 กรุงเทพมหานคร นำยาเสพติดมาส่งตามที่หมายพร้อมกับแฟนสาว จึงแสดงตัวเข้าควบคุมก่อนจะตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 49 เม็ด ยาไอซ์ 1.8 กรัม และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  31/01/2013
แดงแฉปมไม่ร่วมกลุ่ม 29 มกรา
นางธิดา  ถาวรเศรษฐ์  ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  กล่าวว่า  ขอปฏิเสธข่าว นปช.สกัดคนเสื้อแดงไม่ให้ไปร่วมกับกลุ่ม 29 มกราฯ เพราะมีเป้าหมายเดียว เพียงแต่วิธีการคนละแบบ จึงไม่มีเหตุอะไรที่จะไปสกัดกั้น ซึ่งเห็นว่า  การเสนอ พ.ร.ก. เป็นทางออกเดียวที่จะแก้ไขปัญหา แม้อาจจะต้องถูกกระแสต่อต้าน แต่ในอดีตเคยออก พ.ร.ก.นิรโทษฯมาแล้วถึง 7 ฉบับ แต่ขอร้องคนเสื้อแดงว่า ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้ขบวนการเสียหาย
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  31/01/2013
จี้ ธปท.ลดดอกเบี้ยสกัดบาทแข็ง
นายวีรพงษ์  รามางกูร  ประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กล่าวปาฐกถาในงาน Thailands Economic Outlook 2013” ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) วานนี้ (30 ม.ค.) ว่า  ประเด็นที่น่าเป็นห่วง ในขณะนี้ คือ การไหลข้าวของเงินทุนต่างประเทศ ที่อาจสร้างปัญหาฟองสบู่ในหลายตลาด โดยเงินทุนที่ไหลเข้ามานั้น เป็นผลจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยที่สูงกว่าดอกเบี้ยต่างประเทศ ดังนั้นวิธีที่จะลดการไหลเข้าของเงินทุนส่วนนี้ได้ดีที่สุด คือ การลดดอกเบี้ยนโยบาย
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  31/01/2013
ตั้ง ฉก.ดูค่าบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ  เมื่อวันที่ 30 ม.ค. โดยสั่งให้ตั้งทีมนักเศรษฐศาสตร์การเงิน เพื่อหารือกำหนดมาตรการที่จำเป็นรับมือค่าเงินบาทผันผวน ทีมนักเศรษฐศาสตร์ มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เป็นตัวแทนของรัฐบาล มีนักเศรษฐศาสตร์สำคัญหลายคน อย่างไรก็ดี แม้จะมีทีมงานดูแลค่าเงิน แต่อำนาจการบริหารยังอยู่ในการพิจารณาของ ธปท.
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  31/01/2013
กู้อีก 7 หมื่นล.จำนำข้าว
น.ส.จุฬารัตน์  สุธีธร  ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า  จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง วันที่ 31 ม.ค. เพื่อกู้เงินเพิ่ม 7 หมื่นล้านบาทให้ ธ.ก.ส. โดยส่วนหนึ่ง 5.5 หมื่นล้านบาท เป็นวงเงินกู้ที่เหลือจากการรับจำนำครั้งก่อน ที่ได้รับอนุมัติ 2.69 แสนล้านบาท สำหรับปีนี้ที่จะกู้ให้ ธ.ก.ส.รับจำนำข้าว 1.5 แสนล้านบาท ได้กู้แล้ว 3.7 หมื่นล้านบาท และจะทยอยกู้ให้ครบต่อไป อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยังชำระหนี้ให้กระทรวงการคลัง เพราะอยู่ระหว่างชำระหนี้ ธ.ก.ส.ให้ครบ 9 หมื่นล้านบาท เพราะ ธ.ก.ส.ใช้สภาพคล่องธนาคารรับจำนำข้าวให้รัฐบาลก่อน
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  31/01/2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น