แม้วจ่อเขี่ย‘โต้ง’พ้นคลัง
“เดอะโต้ง” ส่อหลุดเก้าอี้ ครม.ปู 4 “นายใหญ่” เขม่นทำบ่อเงินบ่อทอง “ทวายโปรเจ็กต์” สะดุด หึ่ง! ยิ่งลักษณ์ต่อรองสุดชีวิตขอพี่ชายเว้นไว้คน “ยงยุทธ” ดัน “วิสาร” เสียบแทน “ปรีชา” ที่ครบโควตา ยังไร้แวว “ทั่นตู่” ขึ้นวอ ครม.โบนัสสวนดุสิตโพล ตั้ง “สุขุม” นั่งแท่นกรรมการคุรุสภา
เมื่อวันอังคารเริ่มมีการส่งสัญญาณถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือปู 4 แล้ว หลังนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาถึงแก่อสัญกรรม และในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคุณสมบัติของนายวราเทพ วรากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่ามีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จากการถูกศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า จริงๆ แล้วยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน มีการร้องขอจากทางพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเดียว เราคงมองเฉพาะประเด็นนั้นมากกว่า
แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า ในวันที่ 1-2 ก.พ.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเยือนเขตบริหารพิเศษมาเก๊าเพื่อหารือกับบรรดาแกนนำพรรคในประเด็นการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 4 ซึ่งรายชื่อที่คาดว่าจะปรับออกนั้นมีชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.การคลังร่วมอยู่ด้วย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเห็นว่านายกิตติรัตน์ไม่สามารถผลักดันโครงการร่วมทุนไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ในการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ท่าเรือน้ำลึกทวายได้ตามเป้า โดยเฉพาะการไม่สามารถดึงกลุ่มทุนจากจีนและญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทุนได้ ทำให้โครงการล่าช้า
“รัฐบาลมีแผนเชื่อมเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-บ้านโป่ง –กาญจนบุรี เข้าถึงบ้านน้ำพุร้อนชายแดนไทย-พม่า เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางรองรับการขนส่งสินค้าและการลงทุน และมีกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่ใกล้ชิดเข้าไปพัฒนาที่ดินรองรับแล้ว อาทิ กลุ่มบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าจากโครงการเช่นกัน” แหล่งข่าวเผย
แหล่งข่าวยอมรับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์พยายามต่อรองกับพี่ชายไม่ให้ปรับนายกิตติรัตน์ออกมาตั้งแต่สมัยปรับ ครม.ปู 3 แล้ว เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นว่านายกิตติรัตน์เป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ไม่เล่นการเมืองกับเธอ รวมทั้งนายกิตติรัตน์ยังเป็นเพื่อนสนิทกับนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริด้วย และล่าสุดนายกิตติรัตน์ยังเป็นติวเตอร์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในการจัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ม.ค. ในการชี้แจงถึงแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 4 ด้าน วงเงิน 2 ล้านล้านบาทด้วย
“นายกฯ คงต้องเหนื่อยหน่อยในการพูดให้นายยอมให้นายกิตติรัตน์อยู่ต่อ เพราะคนในพรรคเองก็ไม่ค่อยปลื้มนายกิตติรัตน์เท่าใดนัก โดยเฉพาะกรณีไวต์ไลน์เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดยังไปเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ทำให้ภาพของขุนคลังดูไม่ค่อยดีเท่าใด” รายงานระบุ
มีรายงานแจ้งอีกว่า ใน ครม.ปู 4 จะมีการดึงนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงราย 9 สมัย บิดา น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในสายนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตแกนนำกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ที่ให้เข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แทนนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ที่ครบเวลาตามโคตาด้วย ส่วนโควตาของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังไม่มีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.แต่อย่างใด
สำหรับการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาลนั้น ล่าสุด นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า รัฐบาลและฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอให้รัฐสภาบรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง ส่วนจะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาก่อนหลังอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับความเห็นของสมาชิก
“แม้รัฐบาลจะยื่นญัตติมาล่าช้า แต่เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะได้ยื่นญัตติมาแล้ว แสดงว่าพร้อมและน่าจะสามารถแถลงผลงานได้ทันในสมัยประชุมนี้” นายสมศักดิ์ย้ำ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ว่า สมัยประชุมนี้เป็นสมัยประชุมนิติบัญญัติไม่สามารถพิจารณาได้ ต้องเสนอญัตติขอรัฐสภาอนุมัติให้วุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาเรื่องนี้ในสมัยประชุมได้ ก็อยู่ที่รัฐบาลจะอนุญาตหรือไม่ แต่หากไม่อนุญาตก็จะเป็นเรื่องแปลกมาก ว่ารัฐบาลพยายามไม่แถลงผลงานต่อสภาฯ ทั้งที่เป็นกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ
“สมัยประชุมที่ผ่านมา ผมเข้าใจว่าตอนแรกเราจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็รอให้รัฐบาลแถลงผลงานก่อน ซึ่งดูเหมือนว่ารัฐบาลมีปัญหาและล่าช้าอยู่ จนกระทั่งฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จก็ปิดสมัยประชุม เรื่องการแถลงนโยบายจึงค้างมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเรื่องนี้จะมีนัยหรือไม่นั้น ก็น่าจะลองไปสอบถามรัฐบาล”
ส่วนในการประชุม ครม.นั้น นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุมว่า ก่อนประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการตอกย้ำถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และได้สั่งการให้ทุกกระทรวงต้องส่งแผนจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ที่ต้องตอบโจทย์ดังกล่าว และให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจัดส่งมาเพื่อพิจารณาในวันที่ 22 ก.พ.
นพ.ทศพรกล่าวต่อว่า ยังได้มีการตั้งคณะทำงาน 8 คณะ เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย 1.คณะการค้าชายแดน ความมั่นคงและเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2.คณะทำงานบูรณาการด้านการท่องเที่ยวและบริการ วัฒนธรรม 3.คณะทำงานด้านการแพทย์ชั้นสูงหรือเมดิคัลฮับ 4.คณะทำงานด้านพลังงาน กรีนอีโคโนมี และเรื่องสิ่งแวดล้อม 5.คณะทำงานด้านการปฏิรูปการศึกษา ด้านแรงงานและอาชีวศึกษา 6.คณะทำงานด้านการแก้ไขความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง 7.คณะทำงานด้านการรวบรวมองค์ความรู้ในทางราชการ และ 8.คณะทำงานด้านแรงจูงใจนักลงทุน โดยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่างๆ เป็นแม่งาน
วันเดียวกัน ครม.ได้มีการแต่งตั้งกรรมการในหลายส่วนที่น่าสนใจคือ การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา 8 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ คือ 1.นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการ 2.นายวรศักดิ์ แก่นมีผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารการศึกษา 3.นายเจริญ ไชยสมคุณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอาชีวศึกษา 4.นายสุกิจ เดชโภชน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาพิเศษ 5.นายสุขุม เฉลยทรัพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ 7.นายพลสัณห์ โพธ์ศรีทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 8.นายธีระพันธ์ พุทธิสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย โดยเฉพาะนายสุขุมนั้นเป็นผู้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือสวนดุสิตโพล ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต รวมทั้งที่ผ่านมายังได้รับเชิญออกรายการทีวีทางช่อง 9 และช่อง 11 หลายครั้ง และส่วนใหญ่เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกกับรัฐบาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น