วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557



เขียนที่ ...............................................

วันที่ ...................................................


หนังสือรับรองการทำงาน

ข้าพเจ้า นาย / นางสาว / นาง  ....................................................................  ตำแหน่ง  .......................................................
ร้าน  ....................................  ซึ่งตั้งอยู่เลขที่  ................................................................................................................
ขอรับรองว่า นาย / นางสาว / นาง  ...................................................................  ได้ทำงานอยู่ที่ร้าน  ...................................
โดยปฏิบัติงานในตำแหน่ง  ............................................  ตั้งแต่ พ.ศ.  ............................  จนถึง พ.ศ.  ............................

            ขอรับรองว่าข้อความข้างตนเป็นความจริงทุกประการ

                                                                                   
                                                                                    ลงชื่อ  .......................................................  ผู้รับรอง
                                                                                                ( ................................................ )
                                                                                     วันที่  ...................................................................

หนังสือรับรอง



หนังสื
อรับรอง
 ขาพเจา นาย / นาง / นางสาว........................................................................................................................
ประกอบอาชีพ................................................................ตําแหนง.................................................ระดับ....................
ชื่อสถานประกอบการ……………………………………………………………………………………………….
เลขที่................หมู.............ซอย........................................ถนน.........................................ตําบล................................
อําเภอ.................................................จังหวัด.................................................รหัสไปรษณีย......................................
หมายเลขโทรศัพท......................................................................................................................................................
 ขอรับรองวา นาย / นาง / นางสาว................................................................................................................
ตําแหนง.......................................................................ทําหนาที่.................................................................................
เริ่มปฏิบัติงานตั้งแตวันที่..................เดือน.......................................................พ.ศ. ......................รวมระยะเวลาการ
ปฏิบัติหนาท / ี่
การทํางาน......................ป ี..................เดือน โดยไดรับคาตอบแทนเดอนละ ื .............................บาท
ปจจุบันพกอาศ ั ัยที่บานเลขท.................. ี่
หมู................ซอย...........................................ถนน......................................
ตําบล..................................อําเภอ....................................จังหวัด......................................รหัสไปรษณีย...................
หมายเลขโทรศัพท......................................................................................................................................................
 ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานเปนบุคคลที่มีความประพฤติ............................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
 ออกให ณ วันที่..................เดือน..................................................................พ.ศ. ...................

 ลงชื่อ........................................................ผูรับรอง
 (......................................................)
 ตําแหนง.................................................................



หมายเหตุ 1. หากมีตราประทับ ใหประทบตราน ั ั้
นมาดวย
 2. ตองสําเนาบัตรประจําตัวประชาชน / บัตรประจําตวขั าราชการ / บัตรประจําตําแหนง ของผูรับรอง
 มาดวย

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กัปตันเอ็มเอช370ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ เมื่อ 23 มิ.ย.57



กัปตันเอ็มเอช370ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
 

สื่ออังกฤษเผย กัปตันเอ็มเอช370 กลับมาเป็นผู้ต้องสงสัยหลักอีกครั้ง หลังพบข้อมูลใหม่ในเครื่องฝึกบิน


เดอะซันเดย์ ไทมส์ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) ว่าพนักงานสอบสวนคลี่คลายปริศนาการสูญหายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ พบว่ากัปตันซาฮารี ชาห์ เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีนี้ หลังจากได้สัมภาษณ์บุคคล 170 คน และสอบประวัติของผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนบนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่สูญหายเมื่อ 8 มีนาคมเสร็จสิ้นแล้ว 
          
พฤติกรรมการใช้เครื่องฝึกบิน หรือ ไฟลท์ ซิมูเลเตอร์ ที่บ้านของกัปตัน เป็นประเด็นสงสัยหนึ่งในการสอบสวนปริศนาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 สูญหายมาตั้งแต่แรก ตำรวจมาเลเซียบุกตรวจค้นบ้านกัปตันและยึดเครื่องคอมพิวเตอร์หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน
         
แม้ที่ผ่านมาไม่พบข้อมูลผิดปกติ แต่พนักงานสอบสวนไม่เคยตัดประเด็นนี้ออกไป และล่าสุด 
พบหลักฐานว่า ไฟลท์ ซิมูเลเตอร์ของกัปตันซาฮารี เคยตั้งโปรแกรมการบินไกลออกไปยังมหาสมุทรอินเดีย และฝึกซ้อมลงจอดบนรันเวย์สั้นๆ บนเกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง จึงทำให้กัปตันกลับมาเป็นผู้ต้องสงสัยหลักอีกครั้งว่า เจตนาบังคับเครื่องบินออกนอกเส้นทางหรือไม่  
          
ข้อมูลส่วนนี้ในเครื่องฝึกบิน ถูกลบออกไปก่อนเครื่องบินสูญหาย แต่ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์สามารถกู้ออกมาได้ 
         
ตำรวจยังพบว่าอีกประเด็นที่ต่างจากลูกเรือบนเครื่องรวมถึงนายฟาริค ฮามิด นักบินผู้ช่วย คือการที่กัปตันซาฮารีไม่มีนัดหมายทั้งเรื่องงานหรือกิจกรรมสังคมหลังเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ซึ่งดูจะผิดวิสัยสำหรับเขาที่มักออกไปพบปะสังสรรค์ ทั้งยังมีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวล่ม แต่ครอบครัวออกมาปฏิเสธ และเพื่อนคนหนึ่งของเขาบอกกับนิวซีแลนด์ เฮรัลด์ ก่อนหน้านี้ว่า สภาพจิตใจของนายซาฮารีไม่พร้อมสำหรับทำการบิน 
         
กัปตันซาฮารี เป็นนักบินมากประสบการณ์ มีชั่วโมงบินกว่า 1.8 หมื่นชั่วโมง  เข้าทำงานกับมาเลเซียแอร์ไลนส์ ตั้งแต่ปี 2524 
          
ผลสอบสวนเบื้องต้น ไม่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ แต่ถูกส่งให้กับรัฐบาลต่างประเทศแล้ว และซันเดย์ไทมส์ได้รับการเปิดเผยเรื่องนี้จากคนในแวดวงอุตสาหกรรมการบินและเจ้าหน้าที่รัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
          
อย่างไรก็ดี ตำรวจมาเลเซียย้ำว่า การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่มีการสรุปหรือตัดประเด็นใดออกไป รวมถึงเหตุขัดข้องทางเทคนิค หรือก่อการร้าย แต่ถ้าหากเที่ยวบินล่องหนจากการกระทำของคน กัปตันคือผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

จับอีกแล้ว ทหาร-ตร.ซิวตู้พนันไฟฟ้าย่านดอนเมือง เมื่อ 23 มิ.ย.57



จับอีกแล้ว ทหาร-ตร.ซิวตู้พนันไฟฟ้าย่านดอนเมือง
 
กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร.31 รอ.และตำรวจ สน.ดอนเมืองบุกจับกุมตู้พนันจักรกลไฟฟ้า จำนวน 19 ตู้ ซึ่งซุกซ่อนในอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างย่านสรงประภา พร้อมไพ่อีก 1,268 สำรับ และอุปกรณ์การเล่นพนันไฮโลอีก 2 ชุด ก่อนควบคุมตัวเจ้าของมาสอบสวนดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พ.อ.กัณชัย ประจวบอารีย์ ผบ.ร.31 รอ.

พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทากร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เข้าตรวจยึดตู้พนันจักรกลไฟฟ้า ตู้ลูกดีด และตู้ผลไม้ จำนวน 19 ตู้ ได้จากอาคารเคดีเอ็ม เรสซิเด้นท์ เลขที่ 3/3 ถนนสรงประภา 1 แยก 3 แขวงและเขตดอนเมือง ซึ่งเป็นอาคารที่พักสูง 5 ชั้น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังได้ขยายผลตรวจค้นที่ภายในศูนย์จัดเลี้ยงเกียรติดอนเมือง เลขที่ 42/3 หมู่ที่ 1ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของอาคารดังกล่าว พบไพ่ จำนวน 1,268 สำรับ และ อุปกรณ์สำหรับเล่นพนันไฮโลอีก 2 ชุด จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัว นายอภิชาติ ทวีศรี อายุ 32 ปี ซึ่งรับเป็นเจ้าของ มาทำการสอบสวน

เบื้องต้น นายอภิชาติ ให้การรับว่า เป็นผู้นำตู้พนันจักรกลไฟฟ้าทั้งหมดมาเก็บไว้ในอาคารที่กำลังก่อสร้างดังกล่าว

ซึ่งแต่เดิมตู้พนันเหล่านี้ถูกใช้ในบ่อน แต่เจ้าของบ่อนได้ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดไปนานแล้ว ตนจึงติดต่อขอซื้อตู้ทั้งหมดไว้ในราคา 2 แสนบาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน เพราะช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ จากนั้นจึงนำตู้พนันทั้งหมดมาซุกซ่อนไว้ที่อาคารซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งเป็นของคนรู้จักกัน เพื่อรอที่จะนำไปขายต่อให้กับผู้ที่สนใจซื้อต่อไป สำหรับในส่วนของไพ่ทั้งหมดนั้นตนก็จะเอาไว้ขายต่อในราคา 50 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจึงนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบ พร้อมทั้งนำตัว นายอภิชาติ ไปสวบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

“หมอวรงค์”จับพิรุธกองข้าวถล่มคลังสินค้าลำนารายณ์ เมื่อ 23 มิ.ย.57



“หมอวรงค์”จับพิรุธกองข้าวถล่มคลังสินค้าลำนารายณ์
 
"หมอวรงค์"จับพิรุธ กองข้าวถล่มที่คลังสินค้า "ลำนารายณ์" แฉซุกข้าวเสื่อมสภาพไว้ด้านล่าง วอน กก.ตรวจข้าว "คสช."ล็อกโกดัง จี้คนมีเอี่ยวต้องรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า
ได้รับแจ้งจากพลายกระซิบว่าเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา คลังสินค้ากลางลำนายรายณ์ หลังที่ 1 อยู่ที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นโกดังเก็บข้าวโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555 เกิดเหตุกองข้าวพังลงมา ทำให้ประตูเหล็กพังออกมา โดยอ้างว่าสาเหตุเพราะฝนตกหนัก ซึ่งโกดังนี้เคยเกิดเหตุกองข้าวถล่มมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็เกิดไฟไหม้ซ้ำซึ่งเป็นไฟที่เกิดจากการเผาไร่อ้อยห่างเป็นกิโล แต่เศษไฟมันอัศจรรย์เดินทางมาทำให้กระสอบข้าวไฟไหม้ได้ ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ การที่กองข้าวถล่ม แล้วมาอ้างว่าฝนตกหนักถือเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นมีหลายในพื้นที่กระซิบมาว่าเป็นเพราะมีการซุกข้าวเสื่อมสภาพไว้ด้านล่าง สุดท้ายข้าวเสียทำให้เกิดการยุบตัวรับน้ำหนักไม่ได้ จึงทำให้กองข้าวถล่ม




“ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการตรวจข้าว ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตั้งขึ้นมาว่า ต้องล็อกโกดังที่ข้าวถล่มให้ดีห้ามเคลื่อนย้ายทั้งเข้าและออก เวลาไปตรวจโกดังอย่าลืมรื้อกองตรวจคุณภาพข้าวด้วยที่สำคัญความเสียหายเหล่านี้ทั้งเจ้าของโรงสีที่ส่งข้าว เซอร์เวย์ หัวหน้าคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.)หรือองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.)ข้าราชการระดับสูงและฝ่ายการเมืองต้องร่วมรับผิดชอบ ส่วนเจ้าของคลังจะรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นต้องสอบเอาเอง เพราะเท่าที่ทราบบางแห่งก็เล่นด้วยบางแห่งก็ไม่เล่นด้วย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

สลด! เด็กหญิงขวบกว่าปีนหน้าต่าง ตกหม้อต้มยำไก่เดือดๆ เมื่อ 23 มิ.ย.57



สลด! เด็กหญิงขวบกว่าปีนหน้าต่าง ตกหม้อต้มยำไก่เดือดๆ
 
สลด! เด็กหญิงขวบกว่าปีนหน้าต่าง ตกหม้อต้มยำไก่เดือดๆ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชั้น 5 ห้องศัลยกรรมหญิง นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมคณะ และเจ้าหน้ากองสวัสดิการและสังคมเทศบาลเมืองหัวหินเดินทางไปเยี่ยมดูอาการ ด.ญ.อรอุมา จันทร์อุปถัมภ์ หรือ น้องซูกัส เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 8 เดือน ที่ประสบอุบัติเหตุ ตกลงไปในหม้อต้มยำไก่ที่น้ำกำลังเดือด โดยเหตุเกิดขึ้นช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา

 นางสาวอรอนงค์ จันทร์ฉาย อายุ 20 ปี เล่าว่า ตนทำงานเป็นผู้ช่วยแม่ครัวในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

 ส่วนสามีทำงานอยู่บริษัทกำจัดขยะ มีรายได้น้อย ตามปกติจะจ้างญาติซึ่งมีศักดิ์เป็นอา เลี้ยงลูกสาวเพราะตนไม่มีเวลา ส่วนวันเกิดเหตุ ตนกำลังซักผ้าอยู่ในบ้านเลขที่ 86/12 ถ.เดชานุชิต ชุมชนสนามกอล์ฟ ต.หินหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนแบบชั้นเดียว ส่วนน้องซูกัส บุตรสาวได้นั่งเล่นอยู่ที่บ้านอาที่ปลูกอยู่ติดกัน กระทั่งได้ยินเสียงลูกร้องดังนาน จึงลุกออกมาดู อาจึงบอกว่าลูกบีบหน้าต่างที่ไม่ได้สูงมากนัก แล้วผลัดตกลงจากหน้าต่าง เคราะห์ร้าย คือ ทางญาติได้ตั้งหม้อต้มน้ำสำหรับทำกับข้าวเป็นต้มยำไก่ไว้ บนเตาแก๊สที่อยู่ติดกับหน้าต่างด้วย ทำให้หน้าของน้องซูกัสจุ่มลงไปในหม้อน้ำเดือด และตามแขนขาก็ได้ถูกน้ำเดือดลวกด้วยบางส่วน

 ตนจึงได้รีบพาน้องซูกัสส่งโรงพยาบาลหัวหิน เมื่อแพทย์ตรวจและทำแผลเรียบร้อยก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ เพื่อให้ไปพักฟื้นที่บ้านต่อ แต่น้องซูกัสมีอาการอาเจียน และร้องไห้ตลอดเวลา จึงนำตัวมาพบแพทย์อีกครั้ง ซึ่งแพทย์ก็ให้พักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ
 ด้าน พันโทนายแพทย์บัญชา ตันชวลิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม
ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า เปอร์เซ็นต์ของบาดแผลที่พบบนร่างกายของน้องซูกัส ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เป็นบาดแผลที่อยู่ระดับ 1 และ 2 ยังไม่ถือว่าเป็นบาดแผลฉกรรจ์มาก 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

รอดตาย!'AIS'ยกเว้นเก็บค่าบริการ เด็กใช้เงิน 2 แสนซื้อไอเทมคุกกี้รัน เมื่อ 23 มิ.ย.57




รอดตาย!'AIS'ยกเว้นเก็บค่าบริการ เด็กใช้เงิน 2 แสนซื้อไอเทมคุกกี้รัน
 

23 มิ.ย. 57 นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส 

เปิดเผยถึงกรณีเด็กนำโทรศัพท์มือถือของผู้เป็นแม่ มาเล่นเกมคุกกี้รันและซื้อไอเทมภายในเกม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท ว่า ปัจจุบันการให้บริการเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นทางอินเตอร์เน็ต อาทิ การสมัครใช้งานหรือซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านทาง Google Play Store ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น
 
แต่ทางบริษัทเอไอเอสได้อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยจะเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการให้กับลูกค้าผ่าน Google Play Store โดยหักจากบิลล์ค่าโทรศัพท์ ทั้งในแบบระบบ prepaid (เติมเงิน) และ postpaid (รายเดือน) โดยการเปิดใช้บริการดังกล่าว ลูกค้าต้องมีการสมัครและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน และเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ จะมีการส่งยืนยันการซื้อดังกล่าวไปที่ E-mail ของลูกค้าเสมอ
 
อย่างไรก็ตามหลังเปิดบริการดังกล่าวไป หากพบว่าลูกค้ามีค่าบริการที่สูงผิดปกติตามทีเป็นข่าว บริษัทจะทำการปิดบริการสำหรับลูกค้าระบบ postpaid (เติมเงิน) ทันที และดูแลลูกค้าโดยการยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมด ให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
 
ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือน รวมไปถึงกำหนดนยอดการใข้งานสูงสุด (Credit Limit) เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า  

'ดีเจเบียร์'ซ่าออกคลิปท้ารบ'บิ๊กตู่' อุบาทว์ปล่อยข่าว'กริชสุดา'ตาย!! เมื่อ 23 มิ.ย.57



'ดีเจเบียร์'ซ่าออกคลิปท้ารบ'บิ๊กตู่' อุบาทว์ปล่อยข่าว'กริชสุดา'ตาย!!
 
23 มิ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊คเพจชื่อ "อิทธิพล สุขแป้น"

ซึ่งเป็นของนายอิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจเบียร์ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ ได้เผยแพร่คลิปเสียงของนายอิทธิพล ที่กล่าวข่มขู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ หัวหน้า คสช. กรณียังควบคุมตัว น.ส.กริชสุดา คุณะแสน แนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอยู่ระหว่างควบคุมตัวของ คสช. หลังจากที่ คสช. เรียกให้มารายงานตัวรอบ 2 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

นายอิทธิพล ระบุว่า หากมีพี่น้องคนเสื้อแดงเสียชีวิต พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ

และตนเองจะเปิดศึกกับพล.อ.ประยุทธ์จนกว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่ไปข้างหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าการไม่ไปรายงานตัวนั้นเป็นสิทธิที่จะสามารถกระทำได้ และจะไม่มีการเข้ารายงานตัวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติแน่นอน (ฟังคลิปเสียง)

รายงานระบุว่า นายอิทธิพล ปล่อยข่าวสร้างเรื่องว่า น.ส.กริชสุดาเสียชีวิตระหว่างที่ทหารควบคุมตัว

ทั้งที่ พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษก คสช.เพิ่งแถลงข่าวไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถึงข้อเท็จจริงในการควบคุมตัว น.ส.กริชสุดา และยืนยันว่าการควบคุมตัวของทหารนั้น ต้องการให้เข้าสู่กระบวนการปรับทัศนคติและสร้างความเข้าใจเพิ่มเติม จึงได้มีประกาศเชิญให้น.ส.กริชสุดา มารายงานตัว ซึ่งก็ไม่ได้รับปฏิบัติในลักษณะต่อผู้ที่มีความผิดเช่นเดียวกับทุกคนที่ผ่านมา การปฏิบัติทุกขั้นตอนในกระบวนการนี้ยังยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน  ขอให้ทุกฝ่ายรวมทั้งองค์กรสิทธิ์ต่างๆ สบายใจได้ ส่วนที่ไม่เปิดเผยสถานที่เพราะต้องการให้ผู้ที่มารายงานตัวออกจากความวุ่นวายต่างๆ มีสมาธิตั้งสติทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมา


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

ฝนถล่มท่วมใจกลางเมืองนครพนม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ14จุดเร่งระบาย เมื่อ 23 มิ.ย.57



ฝนถล่มท่วมใจกลางเมืองนครพนม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ14จุดเร่งระบาย
 
 
วันที่ 23 มิ.ย. เกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ตั้งแต่ช่วงตีห้าจนถึงรุ่งเช้า 
 ส่งผลให้ทำท่วมในพื้นที่ย่านธุรกิจกลางเมืองนครพนม  โดยเฉพาะถนนสายหลัก เช่น ถนนอภิบาลบัญชา   เป็นที่ตั้งของตลาดสดเทศบาลระดับน้ำเอ่อท่วมร้านค้า เขียงหมู ร้านขายของชำ เรื่อยไปจนถึงโรงเรียนอนุบาลนครพนม และโรงพยาบาลนครพนม รวมทั้งถนนราชทัณฑ์น้ำท่วมยังเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก

ขณะที่เด็กนักเรียนต้องเดินลุยน้ำเข้าโรงเรียนอย่างทุลักทุเล 

ระดับน้ำบางแห่งสูง 50-60 เซ็นติเมตร ช่วงแยกธนาคารไทยพาณิชย์-หน้าตลาดสด รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้  เวลา 09.00 น. ยังมีฝนตกโปรยปรายและไม่หยุดตกแต่อย่างใด โดยตกหนักติดต่อกันมานานร่วมสัปดาห์แล้ว

สำหรับระดับน้ำฝนเขตเทศบาลเมืองนครพนม วัดได้ 117.5 มิลลิเมตร อ.ท่าอุเทน 70 มิลลิเมตร อ.บ้านแพงง 45 มิลลิเมตร ระดับน้ำโขงสูง 4.52  เมตร

นายนิวัต  เจียวิริยบุญญา  นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวว่า  ได้ระดมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)และเทศกิจกว่า 20 นาย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่รวม 7 จุด กลางเมือง 3 จุด และริมฝั่งแม่น้ำโขง 4 จุด  เพื่อเร่งระบายน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างทันท่วงที  แต่ยังพบน้ำท่วมขังในบางจุด  สาเหตุอาจเกิดจากมีถุงพลาสติกและสิ่งปฏิกูลไปอุดท่อระบายน้ำ ไหลระบายไม่ทันจึงทำให้ทำท่วมฉับพลันดังกล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

ตร.ตั้งรางวัลนำจับผู้แสดงสัญลักษณ์ต้าน คสช. รวมภาพในเฟซบุ๊กด้วย ควักจ่าย 500 บาท/ภาพ เมื่อ 23 มิ.ย.57



ตร.ตั้งรางวัลนำจับผู้แสดงสัญลักษณ์ต้าน คสช. รวมภาพในเฟซบุ๊กด้วย ควักจ่าย 500 บาท/ภาพ
 
ตร.ตั้งรางวัลนำจับผู้แสดงสัญลักษณ์ต้าน คสช. รวมภาพในเฟซบุ๊กด้วย ควักจ่าย 500 บาท/ภาพ
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ในวันพรุ่งนี้ (24 มิถุนายน) จะมีกลุ่มผู้คนออกมารวมตัวทำกิจกรรม เพื่อรำลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ ที่ถนนราชดำเนิน และบริเวณวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ถนนพหลโยธิน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปีว่า ทางเจ้าหน้าที่จะมีการประชุม เพื่อวางมาตรการรับมือกับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งหากเป็นการรวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมรำลึก สามารถทำได้ แต่หากตรวจสอบพบว่ามีนัยยะทางการเมืองจะถือว่าผิดกฎหมายและเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการทันที

ทั้งนี้ในการรวมกลุ่มกันของประชาชนเกิน5 คน จะดูที่เจตนาเป็นหลัก หากไม่มีนัยยะทางการเมืองก็สามารถรวมกลุ่มกันได้ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย

นอกจากนี้พลตำรวจเอกสมยศยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนหากพบเห็นบุคคลใด ที่ออกมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับการควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. ให้บันทึกภาพ และส่งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงสามารถนำภาพที่โพสต์ทางเฟซบุคหรือโปรแกรมอื่นในอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากภาพดังกล่าวนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นได้ จะมีรางวัลให้ ภาพละ 500 บาท

ขณะที่หลังจากนี้ จะมีการประชุมร่วมกับทหาร เพื่อปรับลดกำลังเจ้าหน้าที่ลง

เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงมากแล้ว และไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ และสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว ตามแนวทางของหัวหน้าคณะ คสช. จึงจะปรับลดกำลังตามความเหมาะสม แต่ยังคงเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามจุดเสี่ยงต่างๆ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

"โรส" เย้ย "พาสปอร์ตอังกฤษ" ยังใช้การได้ดี ! เมื่อ 23 มิ.ย.57


"โรส" เย้ย "พาสปอร์ตอังกฤษ" ยังใช้การได้ดี !
 
"โรส" เย้ย "พาสปอร์ตอังกฤษ" ยังใช้การได้ดี ! บอกสัปดาห์หน้าจะไปเยี่ยมเพื่อนเสื้อแดงที่นอร์เวย์
วันนี้ (23 มิ.ย.) นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจับกุม ได้โพสข้อความลงเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่าChatwadee Rose Amornpat มีใจความว่า
"ฉันอยู่ในวันหยุด holiday ในขณะนี้ในภาคใต้ของฝรั่งเศส มันเป็นภูมิประเทศที่สวยงามมาก
ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกเทพนิยาย สัปดาห์หน้าฉันจะไปนอร์เวย์เพื่อที่จะพบกับเพื่อนเสื้อแดงบางคน
หนังสือเดินทางอังกฤษของฉันได้รับการต้อนรับจากทุกประเทศ"

"To All my friends who love democracy around the world:
I′m on holiday now in Southern France. It′s such a beautiful part of France. I feel like I′m in fairy tale world. I′ll be going to Norway next week and will meet up with some Red Shirts there. My British passport sailed through like a flying colors...
I miss & love y′all my FC"
  
ทั้งนี้ จากการแถลงของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขั้นตอนการนำตัว น.ส.ฉัตรวดี มาดำเนินคดีนั้น สามารถเป็นไปได้ 2 กรณี คือ

กรณีแรก เนื่องจากทางกระทรวงต่างประเทศยืนยันว่า น.ส.ฉัตรวดี ยังถือสัญชาติไทย และอยู่ในระหว่างดำเนินการขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นชาวอังกฤษ ซึ่งหากเปลี่ยนสัญชาติไม่สำเร็จ ก็จะสามารถดำเนินการจับกุม เพื่อมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยทันที 

กรณีที่สอง หาก น.ส.ฉัตรวดี สามารถดำเนินการเปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติอังกฤษได้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และอัยการสูงสุด ก็ต้องดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมขอให้ทำการถอดถอนหนังสือเดินทาง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

สุเทพ เผยใช้เงิน 1,400 ล้าน ล้างระบบทักษิณ เมื่อ 23 มิ.ย.57



สุเทพ เผยใช้เงิน 1,400 ล้าน ล้างระบบทักษิณ
 
นี้ (23 มิ.ย. 57) เว็บไซต์บางกอกโพสต์เปิดเผยว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  แกนนำกลุ่ม คณะกรรมการประชาชน
เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เปิดเผยในงาน เลี้ยงระดมทุนจัดตั้งมูลนิธิ กปปส.ที่แปซิฟิค คลับ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เคยปรึกษาพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงการเข้ากวาดล้างระบอบทักษิณตั้งแต่ปี 2553

รายงานข่าวยังเปิดเผยอีกว่า นายสุเทพยังได้พูดคุยผ่านโปรแกรม "ไลน์" โปรแกรมแชทชื่อดัง โดยก่อนจะประกาศกฏอัยการศึก   โดย มีอ้าง ประโยคถ้อยความที่ว่า "คุณสุเทพและมวลมหาประชาชนเหน็ดเหนื่อยมามากแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาทหารมาสานต่อหน้าที่ภารกิจนี้"

นายสุเทพยังเปิดเผยว่า ตัวเองเคยไปปรึกษากับพลเอกประยุทธ์
ตั้งแต่เหตุการณ์ความ ไม่สงบทางการเมืองเมื่อปี 2553 ว่าจะทำอย่างไรให้ถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณให้หมดสิ้น และปฏิรูปประเทศด้วยการกำจัดคอร์ รัปชั่นและสลายสีเสื้อที่แบ่งแยกพี่น้องชาวไทยมาอย่างยาวนาน



รายงานข่าวยังอ้างอิงคำพูดของนายสุเทพที่กล่าวว่า   "เราใช้เงินกล่าว 1,400 ล้านบาทในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่ง 400 ล้านบาทมาจากครอบครัวและกลุ่มแกนนำ อีก 1,000 ล้านบาทมาจากเงินบริจาคจากผู้สนับสนุน"
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

แอบดู!โรงรถ5รมต.เอี่ยวจำนำข้าว 'ปู'9คัน21.9ล้าน-'ยรรยง'ไม่มีรถ?เมื่อ 23 มิ.ย.57



แอบดู!โรงรถ5รมต.เอี่ยวจำนำข้าว 'ปู'9คัน21.9ล้าน-'ยรรยง'ไม่มีรถ?
 
23 มิ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากบัญชีเงินฝากหลายสิบบัญชี และที่ดินหลายสิบแปลง มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท ของบรรดา 4 รัฐมนตรี 
คือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล , นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ , นายยรรยง พวงราช และ นายภูมิ สาระผล ที่ถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งอนุกรรมการฯ สอบทรัพย์สินเชิงลึก ร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่ในขณะนี้นั้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยานพานหะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐมนตรีทั้ง 4 คน ที่แจ้งไว้ในบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน พบรายละเอียดดังนี้

1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แจ้งกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 ระบุว่า ครอบครองยานพาหนะ 9 คัน (ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งหมด) มูลค่ารวม 21,990,000 บาท ดังนี้

2.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรมว.พาณิชย์ แจ้งกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 ระบุว่า ครอบครองยานพาหนะ 3 คัน (รวมของคู่สมรส) มูลค่ารวม 5,700,000 บาท แบ่งเป็น ของ นายนิวัฒน์ธำรง 1 คัน 1,200,000 บาท และของคู่สมรส 2 คัน 4,500,000 บาท ดังนี้
3.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ แจ้งกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 ระบุว่า ครอบครองยานพาหนะ 2 คัน (รวมของคู่สมรส) มูลค่ารวม 1,887,700 บาท แบ่งเป็นของ นายบุญทรง 1 คัน 1,840,000 บาท และของคู่สมรส 1 คัน 47,700 บาท ดังนี้
4.นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ แจ้งกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 ระบุว่า ไม่มียานพาหนะไว้ในครอบครอง
อย่างไรก็ดี นายยรรยง ระบุว่า มีรายจ่ายเป็นค่าเดินทาง 180,000 บาท และค่าท่องเที่ยวและบริจาค (รวมของคู่สมรส) 200,000 บาท จากรายจ่ายทั้งหมด 1,144,500 บาท
5.นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ แจ้งกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 27 ต.ค.56 ระบุว่า ครอบครองยานพาหนะ 8 คัน (รวมของคู่สมรส) มูลค่ารวม 4,850,000 บาท แบ่งเป็นของ นายภูมิ 5 คัน 2,180,000 บาท และของคู่สมรส 3 คัน 2,670,000 บาท
เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครอบครองยานพาหนะเยอะที่สุดจำนวน 9 คัน รวมมูลค่า 21.9 ล้านบาท รองลงมาเป็นนายภูมิ ครอบครองทั้งหมด 8 คัน (รวมของคู่สมรส) รวมมูลค่า 4.8 ล้านบาท

ขณะที่นายนิวัฒน์ธำรง ครอบครองทั้งหมด 3 คัน (รวมของคู่สมรส) รวมมูลค่า 5.7 ล้านบาท และนายบุญทรง ครอบครองทั้งหมด 2 คัน (รวมของคู่สมรส) รวมมูลค่า 1.8 ล้านบาท

เป็นที่น่าสังเกตว่า นายยรรยง ไม่มีรถยนต์ไว้ในครอบครองแต่อย่างใด?


ที่มา : สำนักข่าวอิศรา
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

ศาลทหารอนุมัติหมายจับอีก28คน 'ใจ อึ๊งภากรณ์-จักรภพ-ตั้ง-โรส' เมื่อ 23 มิ.ย.57



ศาลทหารอนุมัติหมายจับอีก28คน 'ใจ อึ๊งภากรณ์-จักรภพ-ตั้ง-โรส'
 
23 มิ.ย.57 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ภายหลัง พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.ได้นำหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับ 28 ผู้ต้องหา ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยไม่เข้ารายงานตัวภายในกำหนดเวลา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนขออนุมัติหมายศาล ซึ่งต่อมาศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ไว้แล้ว

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย

1.นายขรรค์ชัย บุนปาน 2.นายใจลส์ ใจ อึ๊งภากรณ์ 3.นายจักรภพ เพ็ญแข 4.นายพิษณุ พรหมสร 5.นายเนติ วิเชียรแสน 6.นายองอาจ ธนกมลนันท์ 7.นายอำนวย แก้วชมภู 8.นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน 9.นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ 10.นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ 11.นายเสน่ห์ ถิ่นแสน 12.นายภิเษก สนิทธางกูร 13.นายสันติ วงษ์ไพบูลย์ 14.นางมนัญชยา เกตุแก้ว

15.นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส 16.นายจุติเทพ หรือเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ 17.นายทนง ศิริปรีชาพงษ์ 18.นายอุสมาน สะแลแมง 19.นายฉกาจ คหบดีรัตน์ 20.นายชัยพฤกษ์ สมานรักษ์ 21.นายรังสฤษฎิ์ ธิยาโน 22.นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ 23.นายยงยุทธ บุญดี 24.นายอัมรา วัฒนกูล 25.นายเกษมสันติ จำปาเลิศ 26.นายนิทัช ศรีสุวรรณ 27.น.ส.นุ่มนวล ยัพราช และ 28.นายวิระศักดิ์ โตวังจร

ทั้งนี้ ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

หินประหลาดตกจากฟ้า 30 ปีที่แล้ว เชื่อเป็น ‘อุกกาบาต’ เมื่อ 23 มิ.ย.57



หินประหลาดตกจากฟ้า 30 ปีที่แล้ว เชื่อเป็น ‘อุกกาบาต’
 
หินประหลาดตกจากฟ้า 30 ปีที่แล้ว เชื่อเป็น ‘อุกกาบาต’

 เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านยางคอยเกลือ ตำบลปากทาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร พบหินประหลาด มีสีดำมันวาว และสามารถขีดกระจกให้เป็นรอยได้ ซึ่งมีชาวบ้าน 5-6 คน จับกลุ่มต่างพากันดู และเชื่อว่าเป็นอุกกาบาต ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งมีค่า โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบหินประหลาด ที่มีหลุมบนเนื้อหินเกือบทั้งก้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร มีสีดำมันวาว น้ำหนักรวม ประมาณ 70 กรัม

 จากการลองพิสูจน์ โดยใช้ก้อนหินนี้ ขีดลงไปบนกระจก และเหล็ก

ทำให้กระจกและเหล็ก เกิดเป็นรอย กัดเซาะในเนื้อกระจกได้ และมีลักษณะพิเศษที่แข็ง ไม่แตกหัก ชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์ ถึงลักษณะพิเศษของก้อนหินนี้ และเชื่อว่าเป็นหินอุกกาบาต และของมีค่า เช่น เพชรพลอย จากคำบอกเล่าของเจ้าของหินประหลาดนี้

 นายทะเนตร์ ตุตะพะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/6 หมู่9 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร เจ้าของหินประหลาด กล่าวว่า 
เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ตอนเป็นเด็กได้เห็นหินนี้ ประกอบกับยายเล่าให้ฟังว่า ในช่วงกลางคืน ประมาณ ตี 3 ได้เกิดเสียงฟ้าผ่าบริเวณต้นมะขามหลังบ้าน แล้วเหมือนมีสิ่งของตกลงใส่ต้นมะขามขนาดใหญ่ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ในช่วงเช้าหลานอีกคน จึงไปดู แล้วพบก้อนหินนี้ตกลงข้างต้นมะขาม จึงนำมาให้ยายเก็บรักษาไว้บนหิ้งพระบูชาบนบ้าน

 หลังจากที่ยายได้เสียชีวิต ตนจึงนำเอามาดูว่ามันคือหินอะไร แล้วจึงมาลองขีดกระจก แล้วทำให้กระจกเป็นรอยได้ จึงสงสัย พร้อมทั้งจะนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านอัญมณี เพชรพลอย พิสูจน์ดู ซึ่งเชื่อว่าเป็นของมีค่าที่ตกลงมาจากฟากฟ้า 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

พ่วง 18 ล้อ ซิ่งชนเละ 5 คันรวด รถตู้-เก๋ง-กระบะ เจ็บสาหัส 15 เมื่อ 23 มิ.ย.57



พ่วง 18 ล้อ ซิ่งชนเละ 5 คันรวด รถตู้-เก๋ง-กระบะ เจ็บสาหัส 15
 
พ่วง 18 ล้อ ซิ่งชนเละ 5 คันรวด รถตู้-เก๋ง-กระบะ เจ็บสาหัส 15
 เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.บุญนาค ตราชู พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณสี่แยกไฟแดงแยกสระขวัญ ถนนสระแก้ว-เขาหินซ้อน ต.สระแก้ว รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสว่างสระแก้ว

 ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 81-8638 ศรีสะเกษ

และลูกพ่วง ทะเบียน 81-8639 ศรีสะเกษ ชนรถยนต์ตู้โดยสารยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ป้ายเหลือง 10-2566 ฉะเชิงเทรา สายฉะเชิงเทรา-จันทบุรี ภายในรถตู้มีผู้โดยสารเต็มคันรถ ได้รับบาดเจ็บ จนท. ช่วยเหลือ นำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 
 ใกล้กันประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน 1179 กทม. ถูกรถพ่วงเฉี่ยวชนตกไปข้างทางได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

ใกล้กันพบรถยนต์กระบะเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน 7229 นครราชสีมา ถูกรถบรรทุกพุ่งชนอีกเช่นกัน คนในรถได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนอีกคันห่างประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บจ-6550 สระแก้ว ตกไปอยู่ร่องข้างถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเช่นกัน

 ตรวจสอบพบว่า นายณรงค์ วงษ์ทิพย์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.4 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้านแจ้งว่า

เป็นคนขับรถบรรทุกได้รับบาดเจ็บแผลฉกรรจ์ที่แขนซ้ายและลำตัว ให้การช่วยเหลือนำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้วแล้ว รวมผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาย 6 คน หญิง 8 คน เด็กหญิง 1 ราย ทั้งหมด 15 ราย

 พ.ต.ท.บุญนาค เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่า ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่
ได้แลเห็นว่า มีรถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็วสูงและฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วและได้พุ่งชนรถกลางไฟแดงและเสียหลักข้ามไปทำให้รถเข้าพุ่งชนรถทั้งหมด5 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

40 ส.ว.ดักคอ "จักรภพ"ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เมื่อ 23 มิ.ย.57



 40 ส.ว.ดักคอ "จักรภพ"ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
 
40 ส.ว.ดักคอ "จักรภพ"ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ซัดแค่ "หมาน้อยเห่าเครื่องบิน"
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว.กล่าวถึงกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แกนนำตั้งองค์กรพลัดถิ่น เตรียมปาฐกถาที่ฮ่องกงและคาดว่าจะมีการพูดเรื่องรัฐบาลพลัดถิ่นว่า

1.นายจักรภพไม่มีสถานะใดๆ ทั้งสิ้นในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงไร้ความชอบธรรมใด ๆ 
2. สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไล่นายจักรภพไปจากกัมพูชาแล้ว เพราะไม่ต้องการเป็นอริกับทางการไทย และต้องการรักษาสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเอาไว้ 

3. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตกสภาพจำยอม เพราะแม้แต่ตัวเองก็ยากจะเดินหน้าต่อไปได้เนื่องจากไม่เหลืออำนาจต่อรองอะไรแล้ว และเขายังหวาดผวาว่าตระกูลชินวัตรจะไร้แผ่นดินอยู่ หากไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา

4.หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองที่ฝรั่งเศสตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะมีประเทศสัมพันธมิตรรับรอง สำหรับนายจักรภพหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีทางทำได้ อย่างเก่งก็ทำได้เพียงสร้างข่าวเป็นครั้งคราวเท่านั้นเหมือนผญาคนอีสานที่เปรียบว่า"หมาน้อยเห่าเครื่องบิน"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ตร.กรุงเก่ารู้จุดล็อตเตอรี่กว่า 4หมื่นฉบับ หล่นหายแล้ว เมื่อ 23 มิ.ย.57



ตร.กรุงเก่ารู้จุดล็อตเตอรี่กว่า 4หมื่นฉบับ หล่นหายแล้ว
 
ตำรวจอยุธยา ทราบจุดล็อตเตอรี่กว่า 4 หมื่นฉบับ หล่นหายแล้ว คาดตกจากหลังกระบะแครี่บอย ช่วงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม มุ่งหน้าไปศูนย์ราชการ

จากกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกประกาศ เรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ก.ค. 2557 สูญหาย จำนวน 42,800 ฉบับ

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสลากชุดที่ 29 และ 30 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. หลังจัดส่งให้ตัวแทนจำหน่ายในส่วนภูมิภาคทางไปรษณีย์ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ผู้นำจ่าย ทำสลากหล่นลงจากรถยนต์ ขณะขนส่งจากสำนักงานไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา ไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ต.ต. เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

เปิดเผยว่า สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดทั้งหมดแล้ว ตามที่พนักงานขับรถไปรษณีย์ให้การไว้ โดยเริ่มตั้งแต่รถไปรษณีย์ขับออกจากที่ทำการไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา วิ่งมาตามถนนอู่ทอง เลี้ยวขวาขึ้นสะพานนเรศวรขาออก มุ่งหน้าสู่ถนนโรจนะ จากนั้นเลี้ยวผ่านวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เพื่อมุ่งหน้าไปศูนย์ราชการ

ซึ่งจากการไล่ตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพฝาหลังคาแครี่บอยของรถไปรษณีย์เปิดอ้าออก บริเวณวงเวียนเจดีย์สามปลื้ม แต่ไม่เห็นมีสิ่งของตกหล่นออกมาจากรถ ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าสลากกินแบ่งที่สูญหายน่าจะหล่นช่วงที่รถเลี้ยวขึ้นสะพาน หรือบริเวณกลางสะพาน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันออกหาข้อมูล จากวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง และสอบถามข้อมูลเบาะแสจากประชาชนตามเส้นทางดังกล่าว
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน เชื่อว่าสลากทั้งหมดน่าจะมีการนำออกไปจำหน่ายนอกพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยาแล้วเพราะช่วงระยะเวลาก่อนที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกประกาศแจ้งอายัดสลากที่สูญหายนั้น ทิ้งช่วงเวลานานหลายวัน จึงฝากไปยังประชาชนที่จะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ก.ค.นี้ ให้ตรวจสอบว่าเป็นสลากที่ถูกแจ้งประกาศอายัดไว้หรือไม่

ตร.พัทยา รวบ 22 หนุ่มสาว จัดปาร์ตี้เสียสาว!?เมื่อ 23 มิ.ย.57



ตร.พัทยา รวบ 22 หนุ่มสาว จัดปาร์ตี้เสียสาว!?
 
ตำรวจ สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุมวัยรุ่นชายหญิงรวมจำนวน 22 คน
พร้อมของกลางยาเสียสาว หรือไฟร์ไฟร์ 5 จำนวน 3 แผง อาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุนปืน 10 นัด และกระสุนปืนขนาด .32 อีก 14 นัด โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 138/89 หมู่บ้านวิวพอร์ย ซ.ชัยพฤกษ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอกจากนั้นยังจับกุมนายปิยะพงษ์ นนท์ศิริ อายุ 24 ปี ที่ก่อเหตุวิ่งราวนักท่องเที่ยว พร้อมด้วยแก๊งสาวประเภทสองอีกจำนวน 7 คน ที่ออกตระเวนก่อเหตุรูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.ภาค 2 เผยว่า วัยรุ่นชายหญิงจำนวน 22 คน มักจัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยา
โดยจะเช่าบ้านเป็นหลัง ตกหลังละ 10,000 บาทต่อวัน โดยจะนัดเจอกันทางโทรศัพท์ หรือทางสื่อออนไลน์ โดยการมาจัดปาร์ตี้ที่เมืองพัทยานั้น เพราะต้องการหลบหนีการกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจชลบุรี – แสนสุข และศรีราชา ส่วนยาที่พบเป็นยาเสียสาว ที่ผู้หญิงกินไปแล้วจะอ่อนเพลีย และเกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งการจัดปาร์ตี้เซ็กส์ในเมืองพัทยา ได้ห่างหายไปนานแล้ว กระทั่งมาโผล่และถูกจับกุมได้ล่าสุด

เผยวินาทีทุบกระจกธ.ไทยพาณิชย์ เมื่อ 23 มิ.ย.57



เผยวินาทีทุบกระจกธ.ไทยพาณิชย์
 
ตร.เร่งตรวจวงจรปิด หาเบาะแส ลอบทุบกระจกธนาคารไทยพาณิชย์ ย่านสุขสวัสดิ์ โชคยังดีไม่มีของสูญหาย
เมื่อเวลา09.30 น.วันที่ 22 มิ.ย. ร.ต.ท.มนัส ธรรมดา ร้อยเวร สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายทุบกระจกธนาคารไทยพานิชย์ สาขาถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางประกอกเขตราษฎร์บูรณะ กทม. จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน


ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณประตูหน้าธนาคาร พบกระจกด้านข้างประตูทางเข้าธนาคารด้านขวาแตกเสียหายจำนวน 2 รอย

ลักษณะเป็นวงกว้างคล้ายกับรอยถูกทุบ ใกล้กันมีเศษกระจกแตกกระเด็นเกลื่อนกลาดเต็มพื้น ตรวจสอบภายในธนาคารไม่ทรัพย์สินเสียหาย หรือ สูญหายแต่อย่างใด จึงเก็บรายละเอียดที่พบไว้ตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายสมพงษ์ การีรัตน์ อายุ 45 ปี รปภ.ของธนาคารที่เกิดเหตุ กล่าวว่า

มาเข้าเวรตั้งแต่เวลา 19.00 น. จนถึง 07.00 น. ของทุกวัน โดยวันนี้ก็เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ซึ่งในเวลาประมาณ 24.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้เดินตรวจพื้นที่ตามปกติก่อนจะกลับเข้าไปนั่งพักที่ใต้ถุนของธนาคาร 


หลังจากนั้น เวลาประมาณ 05.00 น. ตนได้ออกเดินตรวจอีกครั้งก็มาพบว่า กระจกของธนาคารแตกเสียหายแล้ว ทั้งที่ระหว่างเข้าเวรไม่พบอะไรผิดสังเกต หรือ ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ จึงยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร 
ภายหลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคารพบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.01 น. ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชาย 1คน รูปร่างสันทัด

สูงประมาณ 160-170 ซม. อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นรองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหมวกแก๊บสีขาว คาดว่า น่าจะขับรถ จยย.ย้อนศรมาแล้วจอดข้างธนาคารเพื่อหลบมุมกล้อง จากนั้นก็เดินถือเหล็กหนาประมาณ 1 นิ้ว ความยาวประมาณ 1 เมตร มาที่ประตูธนาคารก่อนลงมือทุบไปประมาณ 5 ครั้ง ก่อนวิ่งหลบหนีไป 


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายมาทุบกระจกของธนาคารครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้ฝ่ายสืบสวนจะได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป. 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

แม่ลมจับ! โร่ร้องบิลเก็บค่าบริการสมาร์ทโฟน 2 แสน ลูกชายเล่นเกมคุกกี้รัน เมื่อ 23 มิ.ย.57



แม่ลมจับ! โร่ร้องบิลเก็บค่าบริการสมาร์ทโฟน 2 แสน ลูกชายเล่นเกมคุกกี้รัน
 
แม่ลมจับ! โร่ร้องบิลเก็บค่าบริการสมาร์ทโฟน 2 แสน ลูกชายเล่นเกมคุกกี้รัน
 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นางอัมพร ชุ่มชื่นดี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/2 หมู่ที่ 8 ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ร้องเรียนว่าได้มีบิลเรียกเก็บค่าสินค้าและบริการของเครือข่ายโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่ง ที่ลูกชาย อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนดัง จ.สุพรรณบุรี ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่า เรียกเก็บค่าสินค้าและบริการ รวมค่าใช้บริการรอบปัจจุบันถึงเป็นเงินถึง 203,477.06 บาท

 นางอัมพร เผยว่า จากการถามบุตรชายว่าใช้บริการเสริมอะไร ลูกชายบอกว่าใช้โปรโมชั่น แพ็กเก็จ 299 บาท และเล่นเกมคุกกี้รัน

โดยได้รับบิลเรียกเก็บเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงได้ไปสอบถามไปที่ช็อปของเครือข่ายโทรศัพท์ ที่ห้างโรบินสัน สาขาสุพรรณบุรี ก็ได้รับคำตอบว่าให้ประสานไปที่ คอลเซนเตอร์ ภายหลังทางคอลเซนต์เตอร์ยืนยันว่า บุตรชาย ซื้อไอเท็มในเกม ตามยอดที่แจ้ง มาระหว่างวันที่ 9-19 พ.ค. 57 จริง
 เมื่อบอกว่า ตนเป็นชาวไร่ชาวนา จะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ทางคอลเซนต์เตอร์บอกว่ายังไงก็ต้องจ่าย

โดยให้ผ่อนชำระก็ได้ แต่ตนเห็นว่ามันเยอะเกินไป และไม่เข้าใจว่า เกมดังกล่าวเป็นอย่างไร ทางคอลเซนเตอร์ บอกว่าขอตรวจสอบแล้วจะแจ้งกลับมา จนตอนนี้ผ่านไป 6 วัน เรื่องก็ยังเงียบอยู่ จึงร้อนใจเพราะกลัวจะมีผลทางคดี รีบไปปรึกษากับ นายธงชัย กล่ำจาตุรงค์ สจ.อ.บางปลาม้า ว่าควรทำอย่างไร

 โดยนายธงชัยได้พาไปที่ สภ.บางปลาม้า เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ยอดใช้จ่ายเยอะมาก ควรจะร้องไปที่ กสทช.ให้ตรวจสอบ ซึ่งตนได้ทำหนังสือไปที่ กสทช.แล้ว เพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนเครียดมาก เพราะเงินมากมายขนาดนี้ จะเอาที่ไหนไปจ่าย แต่จากการสอบถามหลายฝ่าย บอกตรงกันว่าน่าจะมีการผิดพลาดเพราะเงินมากมายขนาดนี้ แต่ทางคอลเซนต์เตอร์ก็ยืนยันว่าต้องจ่ายจริง 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

กต.เร่งคดี'โรส'ยันสัญชาติไทย-สตช.สั่งจับตาปิดสื่อหมิ่น เมื่อ 23 มิ.ย.57



กต.เร่งคดี'โรส'ยันสัญชาติไทย-สตช.สั่งจับตาปิดสื่อหมิ่น
 
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน "โรส" ยังไม่ใช้สัญชาติอังกฤษ เร่งประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ขณะที่ "วัชรพล" สั่งบอร์ด มอนิเตอร์ทุกสื่อ จับตาข้อมูลข่าวสาร กระทบมั่นคง-สถาบัน
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า

นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ยังไม่ได้สัญชาติอังกฤษตามที่กล่าวอ้าง โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

มีคำสั่ง ตร. ที่ 311/2554 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระหากษัตริย์ มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯ และความมั่นคง จึงตั้งคณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม โดยมี ผบ.ตร. เป็นประธานกรรมการ รอง ผบ.ตร. หรือที่ปรึกษา สบ.10 งานความมั่นคง เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 รอง ผบ.ตร. หรือที่ปรึกษา (สบ.1) งานกฎหมายและคดี เป็นรองประธาน คนที่ 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ฯลฯ

โดยให้มีอำนาจตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ที่เนื้อหาไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯ ในสื่อทุกแขนง
ทั้งทางออนไลน์ สิ่งพิมพ์ สื่อมวลชน หรือการรับแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ โดยให้มีอำนาจเสนอระงับการแพร่ตามกฎหมาย และกำหนดมาตรการป้องกัน

ทั้งนี้ ให้ดำเนินตามกฎหมายกับผู้ครอบครอง ให้บริการ แพร่ ส่งต่อ หรือเกี่ยวข้องใดๆ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ในกรณีมีหลักฐานชัด ว่า มีการกระทำผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้สั่งการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อเดือน เมื่อ 23 มิ.ย.57



ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อเดือน
 
ตำรวจภูธรอุดรธานี ทลายแก๊งรับจำนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์โดยไม่สนที่มาที่ไป ก่อนคิดค่าดอกเบี้ยโหด ถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน

รถจักรยานยนต์ 123 คัน และ รถยนต์ 2 คัน  คือของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้พร้อมเอกสารการจำนำ รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ก่อนนำตัวนางจินตนา วงษ์ชารี อายุ 40 ปี ผู้ต้องหามาแถลงข่าวจับกุม 
สืบเนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มีสถิติรถแจ้งหายในแต่ละเดือนสูง

เจ้าหน้าที่จึงสืบทราบพบว่าบางส่วนถูกนำไปประกันเงินกู้กับนายทุน กระทั่งทราบว่าบ้านของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านทั่วไป โดยไม่มีการตรวจสอบว่ารถที่นำมาจำนำนั้นได้มาโดยมิชอบหรือโจรกรรมมา จึงนำหมายศาลตรวจค้น สอบสวนเบื้องต้นพบว่า มีรถจักรยานยนต์ที่ติดไฟแนนซ์ 50 คัน ที่มีผู้ถือกรรมสิทธิ์ 51 คัน ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ 22 คัน และรถยนต์อีก 2 คัน

อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลยังมีกลุ่มนายทุนที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน ซึ่งสามารถยึดขอกลางได้จำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเกือบ 10 ล้านบาท

ผวา!อาฟเตอร์ช็อก 3.5 ริกเตอร์ ทำพระธาตุจอมหมอกแก้วทลาย เมื่อ 23 มิ.ย.57



ผวา!อาฟเตอร์ช็อก 3.5 ริกเตอร์ ทำพระธาตุจอมหมอกแก้วทลาย
 
เจ้าวัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยดูแลความเสียหายองค์พระธาตุ หวั่นศูนย์รวมใจพุทธศาสนิกชน อาจพังทลายจากแรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อก

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อคขนาด 3.5 ริกเตอร์ ที่ความลึก 6 กิโลเมตร ในเขตอ.แม่ลาวจ.เชียงราย
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายสว่าง ม่อมดีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย แจ้งว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายเพิ่ม โดยพระครูอรุณสวัสดิ์ มุนิวํโส เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว หมู่ 9 ต.จอมหมอกแก้วเปิดเผยว่า เหตุอาฟเตอร์ช็อคครั้งล่าสุด สร้างความสั่นสะเทือนให้กับตัวพระธาตุที่เคยได้รับรับความเสียหาย ยอดมณฑปพังถล่มลงมา จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บรรดาคนงานก่อสร้าง ที่กำลังดำเนินการปลูกสร้างอาคารจำวัดชั่วคราว ต่างตื่นตกใจและพากันวิ่งหาที่ปลอดภัยกันโกลาหล หลังเหตุการณ์สงบอาตมาขึ้นไปตรวจสอบรอบๆบริเวณองค์พระธาตุ


จากการตรวจสอบ พบรอยร้าวและร่องปริแยกขยายตัวที่องค์พระธาตุสีเหลืองอำพัน ลึกและยาวมากขึ้น 
จนหวั่นว่าหากเกิดอาฟเตอร์ช็อค ขนาดความรุนแรง 3.5 ริกเตอร์ ก็อาจส่งผลให้องค์พระธาตุจอมหมอกแก้ว หนึ่งในพระธาตุ 9 ศักดิ์ศิทธิ์เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวเชียงราย พังทลายลงมาได้ อาตมาเองอายุ 78 ปี เป็นโรคหัวใจมาอยู่ที่วัดพระธาตุจอมหมอกแก้วตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 ร่วมบูรณะพระธาตุจอมหมอกแก้วในปี 2536 เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว องค์พระธาตุซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานให้มา อาตมาก็คงไม่มีปัญญาทำไรได้ เหตุอาฟเตอร์ช็อคที่เกิดขึ้นกว่าพันครั้งส่งผลให้ อาตมาแทบจะไม่อยากมอง และทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือผู้นำท้องถิ่นสำหรับความเสียหายนั้น วิศวกรประมาณการอยู่ที่ 20-30 ล้านบาทแต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล ในขณะที่ก็ยังมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมากราบไหว้ทุกวัน.









ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์