สื่อสารผิดพลาด ทำ‘ต่างด้าว’ตื่น บัวแก้วแจงเขมร เมื่อ 18 มิ.ย.57
"ประจิน" ยอมรับ คสช.สื่อสารนโยบายจัดระเบียบต่างด้าวผิดพลาด ทำแรงงานข้ามชาติตื่นตระหนกอพยพทะลุหลักแสน "บัวแก้ว" เชิญทูตกัมพูชาหารือ จับมือเคลียร์ชุมชนเขมรในไทย "นายกฯสมาคมประมง" โวยธุรกิจเริ่มสะดุด จี้ จนท.เร่งทำความเข้าใจ "สีหศักดิ์" แย้มจับตาสหรัฐจัดอันดับค้ามนุษย์ในไทย 20 มิ.ย.นี้เมื่อวันอังคาร พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผอ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาแรงงานต่างด้าวทยอยเดินทางออกประเทศภายหลังจากที่ คสช.มีมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวว่า เกิดจาก 2 กรณี คือ 1.เรื่องแรงงานต่างด้าว หน่วยงานด้านความมั่นคงมีความเป็นห่วงกรณีที่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศโดยไม่ถูกกฎหมายและระเบียบ จึงมีความพยายามที่จัดระเบียบเพื่อให้เกิดความถูกต้อง 2.เรื่องความต้องการแรงงานทางด้านอุตสาหกรรมและภาคเกษตรมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งมองว่าหากมีความเข้าใจสถานการณ์แล้ว แรงงานต่างด้าวเหล่านั้นจะทยอยเดินทางกลับเข้ามาเหมือนเดิม
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การดำเนินการในโครงการต่างๆ มีความต้องการแรงงานทุกระดับ ตั้งแต่ระดับแรงงานทั่วไป แรงงานฝีมือ รวมถึงผู้ควบคุมงาน และเชื่อว่าแรงงานต่างด้าวจะเข้าใจว่า คสช.ต้องการจัดระเบียบ และต้องการให้แรงงานกลับเข้ามาทำงานในระบบเช่นเดิม
"แรงงานที่ทยอยกลับมีจำนวนตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน แต่ตัวเลขก็มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และเรากำลังติดตามสถานการณ์อยู่ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนของผู้ประกอบการ ทำให้แรงงานต่างด้าวตกใจและเดินทางกลับออกนอกประเทศ" รองหัวหน้า คสช.กล่าว
พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 2 กล่าวว่า จากการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี และ กอ.รมน.ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีชาวกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศทางช่องจอม จ.สุรินทร์ ไปแล้วกว่า 6,400 คน ซึ่งมาจากหมดสัญญากับทางคู่แรงงานที่ว่าจ้าง ไม่ใช่การกวาดล้างจับกุม
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญนางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อหารือถึงนโยบายที่เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ภายหลังเกิดกรณีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางกลับประเทศ เพราะเกรงกลัวว่าจะกวาดล้างอย่างรุนแรง ใช้เวลา 30 นาที
นายสีหศักดิ์แถลงว่า ได้ย้ำว่า คสช.ให้ความสำคัญด้านนโยบายที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัมพูชาที่เราเน้นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ชายแดน และยืนยันกระแสข่าวการกวาดล้างและจับกุมแรงงานต่างด้าวนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่ทราบมาจากที่ใด
"ความจริงแล้วประเทศไทยต้องการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบถูกต้องตามกฎหมายไทย เพื่อไม่ให้แรงงานเหล่านี้ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือเข้าไปอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ จึงอยากให้ทั้งไทยและกัมพูชาร่วมกันสื่อสารว่าข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในเรื่องการจ้างแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย เพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย รวมทั้ง 2 ประเทศจะทำงานกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น" ปลัดกระทรวงต่างประเทศกล่าว
นายสีหศักดิ์กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์นี้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐจะเผยแพร่รายงานประจำปี เรื่องสถานการณ์ค้ามนุษย์ประจำปี 2557 ซึ่งจะเป็นรายงานว่าประเทศต่างๆ ได้ดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์มากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่อันดับที่ 2 ซึ่งปีนี้ต้องรอดูว่าประเทศไทยจะอยู่ในอันดับใด
"เราได้ยืนยันไปว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ศสช.) ให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากจำนวนคดี ที่มี 400 คดี และลงโทษไปแล้วกว่า 200 ราย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ หวังว่ารายงานของสหรัฐจะสะท้อนความคืบหน้าการดำเนินการค้ามนุษย์ และคิดว่าสหรัฐจะเผยแพร่รายงานในคืนวันที่ 20 มิ.ย." นายสีหศักดิ์กล่าว
ด้านนางอีท โซเฟีย กล่าวว่า เห็นด้วยที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปล่อยข่าวลือ ซึ่งสิ่งที่ไทยและกัมพูชาต้องการคือ การทำให้แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยอย่างผิดกฎหมายได้เข้าสู่ระบบตามกฎหมายไทย ซึ่งมีการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง 2 ประเทศอยู่แล้ว
นางอีท โซเฟีย กล่าวว่า ข้อเท็จจริงต่อแรงงานชาวกัมพูชาในไทย โฆษกกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาได้ชี้แจงข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากการหารือกันในวันที่ 17 มิ.ย. โฆษกรัฐบาลกัมพูชาและโฆษกกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาคงจะมีการชี้แจงให้ชาวกัมพูชาทราบต่อไป
"ได้ติดต่อกับชุมชนชาวกัมพูชาในไทยอยู่แล้ว หากชาวกัมพูชาในไทยมีข้อกังวลใด ก็สามารถติดต่อสอบถามสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยได้ทันที และทั้ง 2 ฝ่ายมีการเปิดสายด่วนติดตามสื่อสารระหว่างกันโดยตรง" เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกล่าว
นายภูเบศ จันทนิมิ นายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบปัญหาแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศว่า จะต้องเร่งทำความเข้าใจกับแรงงานต่างด้าวและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทย ประสานไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัดแต่ละจังหวัดเรียกประชุมประสานงานในฐานะที่อยู่ใกล้ชิดที่สุด เร่งรีบดำเนินการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
"ผมงงมาก ข่าวแรงงานต่างด้าวออกมาแนวทางใด จึงทำให้หลั่งไหลอย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้ ซึ่งตลอดระยะ 3-4 วัน มีการเดินทางกลับจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจประมง แต่ยังไม่สามารถคำนวณความเสียหายได้” นายกสมาคมประมงกล่าว
วันเดียวกัน 9 เครือข่ายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง คสช.ทบทวนมาตรการจัดการระเบียบแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องยุติการกวาดล้างจับกุมแรงงานข้ามชาติ และออกมาตรการด่วนที่จะสร้างความมั่นใจต่อแรงงาน รวมทั้งปรับโครงสร้างคณะกรรมการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ให้มีตัวแทนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงานข้ามชาติเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.26 น. วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา คสช.มีประกาศ ฉบับที่ 67/2557 เรื่อง มาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว โดยเนื้อหาคร่าวๆ ระบุ คสช.ยืนยันยังไม่มีนโยบายที่จะเร่งรัดจับกุมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวตามที่ปรากฏเป็นข่าว การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในขณะนี้กำหนดให้มีมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าว โดยให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง ที่ประกอบกิจการบนบกและทางทะเล จัดเตรียมรายชื่อลูกจ้างในสังกัดให้ครบถ้วน เพื่อให้พร้อมรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม การจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
"ให้ระมัดระวังกรณีที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มาปล่อยข่าวให้แรงงานเกิดความหวาดกลัว กลุ่มที่กระทำการดังกล่าวอาจเป็นกลุ่มที่มุ่งหวังผลประโยชน์ในการจัดระเบียบแรงงานผิดกฎหมายกลุ่มใหม่ หรือไม่ต้องการจ่ายค่าจ้างให้ครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา หากตรวจพบการกระทำดังกล่าว ให้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบและลงโทษตามกฎหมาย" ประกาศ คสช.ตอนหนึ่งระบุ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น