วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ม.ค.56 เวลา 06.00-18.00.-1




สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ม.ค.56 เวลา 06.00-18.00

การเมือง 

09.47 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ห่มผ้าแดงภูเขาทอง เอาฤกษ์ก่อนหาเสียง ชูนโยบายรถราง 12 สถานี ในกรุงเทพฯ ชั้นใน ยืนยันทำได้ทันที

10.55 น. "เอแบคโพลล์" เผยคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อปมเขาพระวิหารจะจบด้วยดี และคิดว่าเป็นเกมการเมือง ชี้ทางออกควรปล่อยไปตามกระบวนยุติธรรม มอง "ป๋าเปรม-นายกฯ ปู-บิ๊กตู่" ได้พบปะหารือ เป็นสัญญาณความปรองดอง

12.48 น. นายประสาน มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว เย้ย แกนนำเสื้อแดงกลัวติดคุก เหตุเร่งดันกฎหมาย      นิรโทษกรรม ลั่น หากข้อเสนอ
คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) มุ่งช่วยคนผิด พร้อมต้าน

13.33 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จี้ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. เร่งล่ามือปืนยิงรถ ASTV ระบุเป็นการคุกคามสื่อ

14.06 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. วอน อย่างนำทหารไปเชื่อมโยงกรณีคนร้ายก่อเหตุยิงรถข่าว ASTV จนได้รับความเสียหาย 4 คันรวด

14.10 น. พรรคเพื่อไทย สั่งระดม ทีม รมต.-ส.ส.ช่วย ''พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ'' หาเสียง ให้เน้นเคาะประตูบ้าน-คอนโด ยันไม่หาเสียงเกินจริง.

14.16 น.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จวก นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สร้างสรรค์ กล่าวหา รมว.กต เป็นโฆษกกัมพูชา หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท้า ปชป. ตั้งกรรมการสอบสร้างโรงพักแทน

เศรษฐกิจ

17.35 น.
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมออกธนบัตรชนิดราคา 20 บาทรูปแบบใหม่ใช้ทดแทนธนบัตรรุ่นเก่าที่ใช้ในปัจจุบัน เดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ ส่วนอีก 3 รุ่น 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท จะทยอยเปลี่ยนในปีต่อๆ ไป ยอมรับธนบัตร 50 บาทที่ออกมากระดาษยุ่ย แต่ได้สั่งให้เปลี่ยนกระดาษที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว









พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ห่มผ้าแดงภูเขาทอง เอาฤกษ์ก่อนหาเสียง ชูนโยบายรถราง 12 สถานี ในกรุงเทพฯ ชั้นใน ยืนยันทำได้ทันที...
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 ใช้เวลาในช่วงเช้า ก่อนเดินสายหาเสียงเดินทางมาที่พระบรมบรรตพต หรือภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยได้ทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับห่มผ้าแดงรอบเจดีย์ภูเขาทอง
โดย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า บริเวณพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ พรรคเพื่อไทยและตนเอง มีนโยบายฟื้นรถราง เพื่อให้บริการรองรับนักท่องเที่ยว 25 ล้านคนต่อปี ในการเยี่ยมชมศิลปะความงามของสถาปัตยกรรมและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยรถรางดังกล่าวจะส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับคนกรุงเทพฯ ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยลดมลพิษและแก้ปัญหาการจราจรที่มีการนำรถบัสขนาดใหญ่เข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ทั้งนี้ ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ทันที โดยจะมีระยะทาง 12-15 กิโลเมตร และจะมี 12 สถานีรับส่งผู้โดยสาร
ดุสิตโพล เผย ปชช.ส่วนใหญ่เห็นว่า "ผลโพล" ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก "ผู้ว่าฯ กทม." เพราะผลที่ออกมาไม่น่าเชื่อถือ ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเลือกใคร...
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน กทม. กรณี คนกรุงเทพฯ คิดอย่างไร? กับ "โพล" เมื่อถามว่า คนกรุงเทพฯ คิดอย่างไร? กรณีที่โพลสำนักต่างๆ เผยแพร่ผลการสำรวจ "การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม." ณ ตอนนี้ พบว่า อันดับ 1 เฉยๆ /เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีการเลือกตั้งก็จะมีผลโพลของสำนักต่างๆ ออกมาเสมอ 39.51% อันดับ 2 ควรมีวิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลต่างๆ อย่าให้โพลมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ 22.23% อันดับ 3 รู้สึกสงสัย แปลกใจกับผลโพลที่ออกมาไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน /ไม่เหมือนกัน 13.88% อันดับ 4 เป็นการชี้นำ สร้างกระแสให้กับสังคม ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม 12.60% และ อันดับ 5 โพลสามารถทำได้ แต่ควรเป็นไปตามหลักวิชาการ เป็นกลาง มีจรรยาบรรณ 11.78%

เมื่อถามว่า ท่านเชื่อ "ผลโพล" หรือไม่? พบว่า อันดับ 1 พอเชื่อบ้าง 47.86% เพราะดูจากความน่าเชื่อถือของแต่ละสถาบัน โพลเป็นที่รู้จักในสังคมมากขึ้น นำมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้บ้าง ฯลฯ อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อ 20.40% เพราะบ่อยครั้งผลที่ออกมาไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ค้านกับความรู้สึก เป็นเพียงกระแสช่วงหนึ่งซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่เชื่อ 18.52% เพราะผลที่ออกมาไม่แม่นยำ ผิดพลาดบ่อย เป็นการชี้นำ เป็นโพลรับจ้าง ฯลฯ และอันดับ 4 เชื่อมาก 13.22% เพราะเป็นการสอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย เป็นไปตามระเบียบวิธีวิจัยและมีหลักวิชาการรองรับ ฯลฯ

เมื่อถามว่า "ผลโพล" มีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. มากน้อยเพียงใด? พบว่า อันดับ 1
ไม่มีผล 35.89% เพราะผลที่ออกมาไม่น่าเชื่อถือ ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเลือกใคร เชื่อความรู้สึกของตัวเองมากกว่าผลโพล ฯลฯ อันดับ 2 ค่อนข้างมีผล 29.60% เพราะบ่อยครั้งที่ผลโพลถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่ค่อยมีผล 24.69% เพราะไม่ค่อยได้ติดตามผลโพล การตัดสินใจเลือกผู้สมัครจะดูที่นโยบาย คุณสมบัติ และผลงานมากกว่า ฯลฯ และ อันดับ 4 มีผลมาก 9.82% เพราะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ  สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมออกมาให้รับรู้ ฯลฯ
นายประสาน มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว เย้ย แกนนำเสื้อแดงกลัวติดคุก เหตุเร่งดันกฎหมายนิรโทษกรรม ลั่น หากข้อเสนอ คอ.นธ. มุ่งช่วยคนผิด พร้อมต้าน...

นายประสาน มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ตามที่แกนนำกลุ่ม นปช. พยายามกดดันรัฐบาลให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมนั้น เชื่อว่าทำไม่สำเร็จแน่นอน เป็นการใช้วิธีรวบหัวรวบหาง ผิดกฎ กติกา มารยาท ขนาดพวกเดียวกันอย่าง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ ยังมองว่าไม่ถูกหลักการ จึงเชื่อว่าไปไม่รอด เพราะขวากหนามเต็มไปหมด ที่สำคัญเป็นความปรารถนาของคนกลุ่มเดียว คือ นปช. และตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

ขณะที่คนอื่นทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดชัดเจนว่าพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แกนนำ นปช.มักอ้างว่า การชุมนุมไม่มีอาวุธ ชุมนุมโดยสงบสันติอหิงสา แล้วทำไมต้องดึงดันจะออก พ.ร.ก.ฯ นี้ให้ได้ เป็นเพราะหนทางอื่นตีบตันหมดแล้วใช่หรือไม่ จึงเป็นอีกความพยายามหนึ่งที่จะให้ตัวเองและพรรคพวกรอดคุก 

นายประสาน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการสับขาหลอกทั้งจะตราพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี หรือการให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคมาติภูมิ เสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ควบคู่กับการแก้รัฐธรรมนูญก็ยังทำไม่ได้ 

เมื่อถามว่านายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่ผู้ซึ่งกระทําความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.2549 ถึงวันที่ 10 พ.ค.2554 ให้รัฐสภาพิจารณาร่วมกัน นายประสานตอบว่า ก็ต้องดูหน้าตาว่าจะนิรโทษถึงใครบ้าง หากเนื้อหาไปสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ปรองดองฯ ที่ให้รวมไปถึงคดีที่ยังอยู่ในศาล หรือพวกที่เผาบ้านเผาเมือง สังคมคงไม่ยอมรับ เพราะวันนี้สังคมตกผลึกแล้วว่าหากออกกฎหมายเพื่อคนกลุ่มเดียว แต่สังคมโดยรวมไม่ได้ประโยชน์ก็จะมีแรงต้านขึ้นมาอีก
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จี้ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. เร่งล่ามือปืนยิงรถ ASTV ระบุเป็นการคุกคามสื่อ 

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายยิงปืนใส่รถข่าวเอเอสทีวี 4 คัน เมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นการคุกคามสื่อมวลชนครั้งแล้วครั้งเล่าในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่มีพิธีกรคนเสื้อแดงบุกไปข่มขู่นายกนกรัตน์วงศ์สกุล การแบนละครเหนือเมฆเซ็นเซอร์ซิทคอมที่มีเนื้อหาก่อให้เกิดความไม่สบายใจต่อ ผู้มีอำนาจทางการเมือง และการที่คนร้ายเดินไปยิงรถของสำนักข่าวเอเอสทีวี สิ่งเหล่านี้รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้สื่อมวลชนในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับไม่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ จึงขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงมากำกับดูแล หาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพราะเรื่องนี้กำลังจะทำให้ กทม.ใกล้เคียงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีคนถือปืนกลางถนน พฤติกรรมอุกอาจใช้อาวุธสงครามยิงใส่รถสื่อมวลชน ทั้งนี้ หากกรณีนี้ยังจับกุมตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ ก็ต้องตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. วอน อย่างนำทหารไปเชื่อมโยงกรณีคนร้ายก่อเหตุยิงรถข่าว ASTV จนได้รับความเสียหาย 4 คันรวด...

วันนี้ (27 ม.ค.56) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้าย ลอบยิงรถข่าวของสถานี ASTV และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่จอดอยู่หน้าบ้านพระอาทิตย์ จนได้รับความเสียหาย 4 คัน เมื่อกลางดึกวานนี้ว่า 

จากการที่ตนเอง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ผลปรากฏว่าคนร้ายได้ยิงปืนมาจากฝั่งตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้สอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของสถานีที่มีอยู่ 2 คน รวมทั้งผู้บริหาร ว่ามีความขัดแย้งหรือสงสัยใครเป็นพิเศษหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการคุกคามสื่อหรือพุ่งเป้าว่าเป็นการกระทำของคนมีสี ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ทหารตบเท้า ไปที่หน้าบ้านพระอาทิตย์ เพื่อแสดงความไม่พอใจการให้ข่าวโจมตี ผบ.ทบ.เพราะเชื่อว่าผู้บังคับบัญชา ไม่สั่งการให้ทำเช่นนั้นแน่นอน อย่างไรก็ดี จะต้องดูความเป็นไปได้ในทุกประเด็น เพื่อไม่ให้คดีหลงทิศทาง
พรรคเพื่อไทย สั่งระดม ทีม รมต.-ส.ส.ช่วย ''พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ'' หาเสียง ให้เน้นเคาะประตูบ้าน-คอนโด ยันไม่หาเสียงเกินจริง... 

วันนี้ (27 ม.ค.56) เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะประชุมพรรค เพื่อหารือเรื่องการจัดทีมปราศรัยย่อย 6 ทีมในพื้นที่ 3 โซน ได้แก่ พื้นที่ธนบุรี กทม.ชั้นในและฝั่งตะวันออกของ กทม.เน้นการปราศรัยย่อย เพื่อให้เข้าถึงประชาชน 50 เขต 

โดยมีหัวหน้าทีม ที่ประกอบด้วยรัฐมนตรี ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. ร่วมปราศรัยในพื้นที่ ซึ่งเน้นให้ ส.ส.มีส่วนร่วมนำนโยบายของพรรคมาแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ โดยใช้รถกระบะ และรถหกล้อติดเครื่องเสียง โดยมี นายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และตน แบ่งกันรับผิดชอบคนละ 2 ทีม ระดม ส.ส. และแกนนำพรรคประมาณ 300 คน 

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทั้งนี้จะมีการปราศรัยทุกวัน วันละ 2 จุด ในพื้นที่ 3 โซน ซึ่งเน้นช่วงเย็น อีกทั้งจะแบ่งทีมให้ ส.ส. ส.ก.และ ส.ข. พร้อมทั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ไปร่วมเคาะประตูบ้าน คอนโดมิเนียม และอพาร์ตเมนต์ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อพบปะให้นโยบายของพรรคกระจายไปทั่วทุกเขต เนื่องจากเหลือเวลาอีก 40 วัน ดังนั้น จึงต้องระดมสมาชิกไปช่วยเหลือการหาเสียงครั้งนี้ 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐมนตรีที่มาร่วมหาเสียงนั้น จะใช้เวลานอกราชการ แต่ถ้าเป็นในเวลาราชการจะมีการลาก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีการร้องเรียนจากฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึง และคิดว่ายังเร็วเกินไป เพราะมองว่ายังเป็นช่วงโค้งแรก ที่เน้นชี้แจงนโยบายของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทยก่อน และทางศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรคได้เตรียมการไว้ เนื่องจากจะต้องปราศรัยใหญ่อีก 3 เวที 

เมื่อถามว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า นโยบายของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.สังกัดพรรคเพื่อไทย ในเรื่องเรือฟรี และรถเมล์ฟรี เป็นการหาเสียงเกินอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. นายพร้อมพงศ์ ตอบว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ชูนโยบายไร้รอยต่อในการหาเสียง ไม่คิดว่าจะเป็นนโยบายเกินจริง เพราะเรื่องรถเมล์ฟรีที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลพลังประชาชน ต่อมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ดำเนินการลอกนโยบายต่อ จนมาถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หากถามว่าเกินอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่นั้น ตนมองว่าการประสานงานร่วมกันกับผู้ว่าฯ กทม.กับรัฐบาลมากกว่า ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ ไม่น่าจะมีปัญหา
"พร้อมพงศ์" โฆษก พท.จวก "ถาวร" ไม่สร้างสรรค์ กล่าวหา รมว.กต เป็นโฆษกกัมพูชา หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท้า ปชป. ตั้งกรรมการสอบสร้างโรงพักแทน...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณี นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่มีการกล่าวหารัฐบาล จากที่ได้มีการประชุมทีมทนายความและหน่วยความมั่นคง ในเรื่องการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารว่ารัฐบาล โกหกประชาชน รวมถึงกล่าวหานายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ว่าเป็นโฆษกรัฐบาลกัมพูชานั้น ว่าพรรคเพื่อไทยปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แกนนำพรรคเพื่อไทยบริหารบ้านเมืองในลักษณะเป็นมิตร ซึ่งต่างจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามการรบ โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่ารักษาดินแดนและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกกระทรวงร่วมกันประชุมเพื่อสู้คดีให้ถึงที่สุด การกล่าวหาของนายถาวรว่ารัฐบาลจวนตัวดิ้นโกหกประชาชนนั้น มองว่าเป็นการออกมาให้ข่าวแบบไม่สร้างสรรค์และมุ่งเน้นใช้วาทกรรมทางการเมืองมากกว่า และทีมกฎหมายต่อสู้คดีที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาก็เป็นทีมเดิมตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก อีกทั้ง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ จะไปประชุมที่ประเทศอังกกฤษร่วมกับทีมที่ปรึกษากฎหมายในเดือน ก.พ.นี้นั้น ก็จะสู้ทุกประเด็นทุกเรื่อง 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ควรหันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากกว่าการให้สัมภาษณ์ บินเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร วันนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลพรรคไหนๆ ทุกคนมีเลือดความเป็นไทย ต้องรักษาผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นการบิดเบือนข้อมูล ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม พรรคประชาธิปัตย์ควรนำเสนอข้อมูลที่สร้างสรรค์ มีประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม นายอภิสิทธิ์ก็เคยเป็นนายกฯ น่าจะรู้ปัญหาข้อพิพาทดี ไม่ควรนำมาโจมตี เพราะจะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและการดำเนินคดีได้

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจสอบโรงพักทดแทน โดยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคู่ขนานกับดีเอสไอว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร บริษัทที่ได้รับการประมูลเชื่อมโยงนักการเมืองจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่น่าจะไม่ชอบในโครงการไทยเข้มแข็ง นายอภิสิทธิ์ควรสำนึกบาป อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง.
 ธปท.เตรียมออกธนบัตรชนิดราคา 20 บาทรูปแบบใหม่ใช้ทดแทนธนบัตรรุ่นเก่าที่ใช้ในปัจจุบัน เดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ ส่วนอีก 3 รุ่น 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท จะทยอยเปลี่ยนในปีต่อๆ ไป ยอมรับธนบัตร 50 บาทที่ออกมากระดาษยุ่ย แต่ได้สั่งให้เปลี่ยนกระดาษที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว...

นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายออกบัตรธนาคาร กล่าวว่า ในช่วงเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ ธปท.เตรียมจะออกธนบัตรชนิดราคา 20 บาท ในรูปแบบใหม่เพื่อทดแทนธนบัตรชนิดราคา 20 บาทรุ่นเดิมที่ใช้ในปัจจุบัน โดยจะมีกระดาษที่ดีกว่า มีอายุการใช้งานนานกว่า และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการปลอมแปลงมากกว่าในปัจจุบัน โดยในขณะนี้ธนบัตรชนิดราคา 20 บาทรุ่นใหม่ได้รับพระบรมราชานุญาตในการจัดพิมพ์ และลงในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ เพื่อนำออกใช้ โดยเนื้อหาในธนบัตรชนิดราคา 20 บาทใหม่ดังกล่าวจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ที่ได้ทำคุณปการให้กับประเทศชาติ จนได้รับการเทิดเกียรติ มหาราช” “ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท เป็นชนิดราคาที่มีปริมารการใช้มากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกชนิดราคา ทำให้ต้องมีการเตรียมการในการพิมพ์ และสำรองธนบัตรที่มีการออกใช้หมุนเวียนให้เพียงพอ ซึ่ง ธปท.จะมีการประกาศให้เริ่มนำมาใช้จริงในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้

โดยการปรับเปลี่ยนธนบัตรดังกล่าว เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนรุ่นธนบัตรของ ธปท. ที่จะมีการเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรในทุกชนิดราคาในช่วง 4-5 ปีที่จะถึงนี้เป็นธนบัตรรุ่นใหม่ โดยในปี 2555 ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนรูปแบบธนบัตรชนิดราคา 50 บาทเป็นรุ่นใหม่ไปแล้ว และในปีนี้จะเปลี่ยนชนิดราคา 20 บาท ส่วนธนบัตรชนิดราคา 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาทนั้น จะมีการเปลี่ยนรูปแบบธนบัตร และทยอยนำออกใช้ทดแทนธนบัตรชนิดราคาเดียวกันในช่วง 3 ปีถัดจากนี้

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้รับร้องเรียนถึงคุณภาพของกระดาษที่นำมาจัดพิมพ์ธนบัตรชนิดราคา 50 บาท ซึ่งพบว่ากระดาษยุ่ยเร็วกว่าปกติ ซึ่งกรณีได้มีการสั่งการให้มีการดำเนินการหาเหตุผล และปรับเปลี่ยนเพิ่มคุณภาพของกระดาษที่ใช้จัดพิมพ์แล้วให้มีอายุการใช้งานตามกำหนด ทั้งนี้ ธปท.ได้เตรียมการที่จะปรับปรุงเครื่องจักร และเทคโนโลยีในการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้น

โดยภายในปีนี้ จะมีการสั่งเครื่องในการตรวจสอบหมายเลขในการพิมพ์ธนบัตร เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า ธนบัตรใบดังกล่าวมีการจัดพิมพ์เมื่อไร และได้รับคืนเพื่อทำลายเวลาใด ซึ่งจะทำให้ทราบถึงอายุเฉลี่ยของการใช้งานของธนบัตรแต่ละประเภทอย่างละเอียด และปรับปรุงคุณภาพและอายุการใช้งานของธนบัตรให้เหมาะสม ภายใต้ต้นทุนที่คุ้มราคามากที่สุด นอกจากนั้น ธปท.เตรียมที่จะสั่งเครื่องพิมพ์ธนบัตรใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่ดีกว่ามาใช้ในการพิมพ์ธนบัตรเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่ต้องการใช้ธนบัตรหมุนเวียนเพิ่มขึ้นตามการเติบโต นอกจากนั้น ยังเตรียมพร้อมความต้องการใช้ธนบัตรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเพื่อรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี) โดยเครื่องพิมพ์ธนบัตรใหม่ที่จะสั่งนำเข้ามานั้น จะมีกำลังการผลิตสูงถึง 3,000 ล้านฉบับต่อปี.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น