วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สีเขียวปรองดองนิรโทษ พท.ตี2หน้า เมื่อ 26 พ.ค.56



สีเขียวปรองดองนิรโทษ พท.ตี2หน้า



“พท.” ตีสองหน้านิรโทษฯ ออกมติพรรคหนุน กม.นิรโทษฉบับวรชัย โบ้ย กม.ปรองดองฉบับเหลิมไม่เกี่ยวพรรค ขณะที่เด็กเหลิมแบไต๋ผสมพันธุ์ปรองดอง-นิรโทษเป็นร่างเดียว ด้าน “ปชป.” ขู่ปรองดองเจอซอยตันแน่ จ่อยื่นศาล รธน.ตีความ ขัด ม.3 ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชน ลั่นขวาง กม.ช่วยคนโกง ปลุกสังคมร่วมต้านแก้ผิดเป็นถูก เตือนอย่านำชาติสู่หายนะ ขณะที่ “นิพิฏฐ์” ชี้แผนแยกเดิน-ร่วมตี จับรวมร่าง “เหลิม-วรชัย” พ่วงแก้ รธน. ปลดล็อก ม.309 ล้างผิด-คืนเงิน “ทักษิณ” แน่ ด้าน “มัลลิกา” เย้ยเหลิมประกาศพาแม้วกลับบ้าน แค่วาทกรรมหลอกเสื้อแดงไปวันๆ
พท.โต้สับขาหลอกนิรโทษฯ
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มากกว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ซึ่งเปรียบเหมือนการสับขาหลอกประชาชนนั้น พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า จนถึงขณะนี้พรรคมีมติเพียงข้อเดียว คือ สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ของวรชัย เท่านั้น ขณะที่ พ.ร.บ.ปรองดองฯ ของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ถือเป็นมติหรือการดำเนินการของพรรค แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็มีเอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.ในการเสนอกฎหมาย และถึงแม้ว่าจะมี ส.ส.เพื่อไทยไปเข้าชื่อ แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่มติพรรค จึงยืนยันว่าไม่มีการสับขาหลอก พรรคประชาธิปัตย์มีแต่เอาจินตนาการมาแถลงหลอกชาวบ้านให้มองในแง่ลบไม่มีมูลความจริง และความเป็นจริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายหน้าตาของกฎหมายดังกล่าวจะเป็นอย่างไร เพราะพิจารณา 2 สภา 6 วาระ เนื้อหาจริงๆ ไม่มีใครรู้แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร จึงขอให้หยุดบิดเบือนสังคมเกิดความสับสน หากฝ่ายค้านหรือวุฒิสมาชิกท่านใดไม่เห็นด้วยกับหลักการก็ขอให้ไปอภิปรายโต้แย้งในรัฐสภา โดยใช้เวทีสภาเดินหน้าค้านกฎหมายปรองดองอย่างสร้างสรรค์ ขอให้ยึดมั่นในระบบรัฐสภาอย่าไปยึดมั่นระบบวอล์กเอาท์หรือบอยคอต
ฉะ ปชป.ก้าวไม่ข้ามทักษิณ
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ดาหน้าออกมากล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าตีสองหน้าเรื่องการเสนอกฎหมายปรองดอง นิรโทษกรรมนั้น เป็นการคิดเองเออเอง ตั้งโจทย์แล้วตอบเองหมด นายกฯ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการ หรือห้ามปรามการนำเสนอกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องการตีสองหน้าต้องไปถามนายอภิสิทธิ์ กรณีหนีทหาร การสลายชุมนุมที่เป็นวิกฤติลามมาถึงวันนี้มากกว่า พรรคประชาธิปัตย์ดีแต่กล่าวหาสร้างเรื่อง พยายามโน้มน้าวให้คนเข้าใจว่ากฎหมายที่นำเสนอเกี่ยวข้องกับการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มุมมองคับแคบ ไม่เคยคิดเรื่องอื่น ไม่เคยคิดถึงความปรองดอง หรือประโยชน์ประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณ บอกกับตนว่าเรื่องเงินที่ถูกยึดไปเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไม่ติดใจอยากเอาคืน สิ่งที่ต้องการคืนคือศักดิ์ศรีที่ถูกกระทำด้วยความไม่เป็นธรรมต่างๆ นานา และต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้ประเทศ วันนี้พิสูจน์แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ก้าวไม่เคยข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ติดหล่มจนไม่มีเวลาคิดทำอย่างอื่น พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับบ้านเมื่อไหร่ ก็มีสิทธิ์คิดตลอดเวลา เพียงแต่ท่านไม่อยากกลับมาตอนนี้เพราะเป็นห่วงเรื่องความสงบเรียบร้อย ตนเห็นด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยต้นปีหน้า วันนี้ท่านถูกกระทำ ติดเงื่อนไขต่างๆ ที่ถูกตั้งขึ้นมา ต้องหาทางแก้ไขความไม่เป็นธรรมให้กลับสู่ความเป็นธรรม น่าเห็นใจพรรคประชาธิปัตย์ที่วันนี้ไม่มีปัญญาไปคิดทำอะไร นอกจากเอา พ.ต.ท.ทักษิณ มากล่าวหา เรียกแขก หวังจุดชนวนปลุกม็อบหาแนวร่วม ที่กำลังมีความพยายามก่อการของคนบางกลุ่มอยู่เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ใจเย็นๆ รออีก 2 ปี แล้วมาเลือกตั้งกันใหม่ดีกว่า
แย้มรวมร่างปรองดอง-นิรโทษ
นายสุรจิตร ยนต์ตระกูล ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เป็นวาระเร่งด่วนต่อจากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ต้องรอหารือกันก่อน โดยอยากให้ออกเป็นมติพรรคสนับสนุนให้เลื่อนมาเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อความเป็นเอกภาพ ซึ่งในการประชุมพรรควันที่ 28 พ.ค. ถ้ามีโอกาสจะให้ตัวแทน ส.ส.ยกเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ขึ้นมาหารือต่อที่ประชุมพรรค ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะมีความเห็นอย่างไร หากที่ประชุมเห็นชอบให้ขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วน ก็อาจนำเข้ามาพิจารณารวมกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในชั้นการแปรญัตติเพราะมีหลักการคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาว่า จะให้ยึดร่างของใครเป็นหลัก แม้ พ.ร.บ.ปรองดอง จะถูกแรงต้านอย่างหนักจากคนเสื้อแดง แต่เจตนากฎหมายฉบับนี้ต้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งจริงๆ ไม่ให้ทิ้งมรดกเลือดให้ลูกหลาน รู้ดีว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องมีคนลุกขึ้นมาทำ ถ้าจะทิ้งความขัดแย้งให้ลูกหลานทะเลาะกันไปไม่จบสิ้น มันไม่ถูกต้อง ยืนยันว่า พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่มีเจตนาล้างผิด หรือคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ติดใจอยากได้เงินคืน เพราะผ่านความลำบากมา 7 ปี แค่ได้กลับประเทศไทยก็มีความสุขแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแค่ส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่ได้อานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ แต่คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือ บ้านเมืองที่จะเกิดความปรองดอง ซึ่งเป็นเจตนาหลักของ พ.ร.บ.ปรองดอง
“ณัฐวุฒิ” แทงกั๊กหนุนกม.ปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสภาฯ ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ แต่ทั้งร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่มีแนวคิดเรื่องการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 1 ใน 4 ฉบับที่ค้างในสภา ที่ตนและคนเสื้อแดงเสนอ เป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชนทุกสีเสื้อ ยกเว้นคดีก่อการร้ายและการสั่งการสังหารประชาชน ส่วนกรณี พ.ร.บ.ปรองดอง แม้มีความแตกต่างในสาระกฎหมาย แต่ ร.ต.อ.เฉลิม มีเอกสิทธิจะยื่นเข้าสู่สภาฯ ได้ ไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งได้ ถ้ามีเจตนาตั้งต้นให้ประเทศพ้นความขัดแย้ง เรื่องความคิดเห็นสามารถเห็นต่างกันได้เป็นเรื่องปกติ ตนคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ตลอดเวลา ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ยังหวังว่าวันหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับมาประเทศไทย มาพิสูจน์ความยุติธรรม แต่จะกลับในสถานการณ์ใด หลายฝ่ายต้องมาคิดร่วมกัน และจะกลับมาในสถานะใดทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกัน ส่วนจะเลื่อนวาระ พ.ร.บ.ปรองดองมาต่อหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นว่า ประชาชนคิดอ่านอย่างไร ต้องพิจารณาเป็นตอนๆ อย่าไปคิดคาดการณ์ล่วงหน้าจนเลยเถิดเป็นความขัดแย้งกัน สำหรับสถานการณ์การเมือง ในเดือน ส.ค.นั้น มีคนบางกลุ่มต้องการให้สถานการณ์การเมืองดุเดือดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ารัฐบาลจะขยับทำอะไร ต้องยอมรับว่า บ้านเมืองมีปัญหาการเมืองที่ต้องแก้ไข ซึ่งนายกฯ ก็พยายามแก้ไข แต่อาจมีแรงกระเพื่อมและแรงเสียดทานอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ปรองดองไม่เป็นกฎหมายเรียกแขก เพราะต่อให้ไม่เรียก แขกก็มากันเต็มอยู่แล้ว รัฐบาลชุดนี้อยู่เฉยๆ แขกก็ปีนรั้วเข้ามาหาอยู่แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่า เราสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่จะให้ไปตอบเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ให้พรรคประชาธิปัตย์ขยายความเป็นประเด็นการเมือง ตนไม่เล่นด้วย ไม่มีหน้าที่คอยตอบทุกจินตนาการของพรรคประชาธิปัตย์
ปชป.ฟันธง พท.เอาปรองดองเหลิม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แม้ ร.ต.อ.เฉลิม จะขอตัดมาตรา 5 ออกไปแล้วแต่ก็ยังถือว่าเป็น พ.ร.บ.การเงินอยู่ดี เพราะมาตรา 4 ระบุถึง คตส.ซึ่งมีที่มา ยึดโยงกับมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ และจะเป็น พ.ร.บ.ที่มีปัญหาถึงความชอบของกฎหมาย เนื่องจากจะเอากฎหมายชั้น พ.ร.บ.ไปง้างหรือลบล้างมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะโดยศักดิ์ของกฎหมายทำไม่ได้ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมเองก็รู้ แต่ต้องทำไปเพื่อเอาใจนายใหญ่คือ ฉบับเดินสุดซอยก็ต้องเอากันให้สุดๆ จริงๆ ประเมินไว้ว่า เขามองเห็นช่องทางแล้วคือ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยแก้มาตรา 309 ทิ้งไปด้วย เพื่อให้สอดรับกับปรองดองสุดซอยของ ร.ต.อ.เฉลิม หากสังเกตพรรคเพื่อไทย จะเห็นว่า เขาแยกเดิน ร่วมตี คือ เดินแก้รัฐธรรมนูญควบคู่ไปกับนิรโทษกรรมหรือปรองดอง ทำเป็นคู่ขนานเพื่อให้สอดรับในการช่วยตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยไม่มีความผิดใดๆ ตนไม่เชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับสุดซอยอย่างที่ข่าวออกมา เพราะร่างของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นที่ถูกใจของบรรดา 24 แกนนำแดงที่ติดคดีก่อการร้ายทั้งสิ้นรวมถึงนายใหญ่ ทั้ง 24 คนต่างกลัวหมด เห็นชัดเจนคือ ตอนที่ศาลแพ่งตัดสินคดีเผาเมืองว่าเป็นการจรจล น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ถึงเนื้อเต้นวิ่งไปหา รมว.ยุติธรรมและดีเอสไอ ขอให้ถอดชื่อออกจากคดีก่อการร้ายทันที แต่ทำไม่ได้ ทั้งหมดจึงคาดหวังในฉบับสุดซอยนี้ ซึ่งนายใหญ่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เองก็ชอบใจ แต่เอ่ยปากชมฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยแทน เพื่อรักษามวลชนเสื้อแดงไว้ใช้งานต่อ เชื่อว่าที่สุดแล้วจะมีการรวมร่างของทั้งสองฉบับ โดยจะใช้หน้าปกฉบับวรชัยแต่เนื้อในยัดใส้ฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม คือ ช่วยล้างผิดในทุกคดีทั้งอาญาให้ทุกคน ทั้งเผาเมือง ก่อการร้าย ยิงวัดพระแก้ว ยิงทหาร ฆ่าชาวบ้าน หลังจากแก้ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำแดงได้แล้ว จึงมาแก้รัฐธรรมนูญตามมาเพื่อคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของนักการเมืองตามที่ ร.ต.อ.เฉลิมกำลังบั่นทอนกระบวนการศาลในเวลานี้ ซึ่งไม่มีคนชาติไหนเขาทำกัน
ปลุกสังคมร่วมต้านคนโกงแก้ผิดเป็นถูก
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่ายากที่จะขัดขวาง เพราะเราเดินตามระบบรัฐสภา เสียงฝ่ายค้านมีไม่มากพอที่จะขัดขวางได้ เพราะวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งเดินหน้าใส่เกียร์ 5 แล้ว จึงเหลือแต่สังคมไทยและสื่อมวลชนที่เป็นฝ่ายตรวจสอบภาคสังคมว่า เราจะยอมให้เขาล้มระบบกฎหมายของชาติเพื่อคนไม่กี่คนหรือ จะให้เขาทำสำเร็จหรือไม่ เพราะเขาประเมินแล้วว่าสังคมไทยเวลานี้ทุกฝ่ายอ่อนล้าไร้แรงต้าน ขณะที่เขามีทุกอย่างอำนาจรัฐ ทุน กองกำลังส่วนตัว ใครขวางเขาก็รุกหนัก ไม่เว้นแม้แต่ศาล คำตอบในเรื่องนี้คือ ขึ้นอยู่ที่ภาคประชาสังคมและคนไทยทั้งชาติว่า จะยอมรับมันให้เกิดขึ้นหรือไม่ หากรับได้กับการโกงแล้วถูกจับได้ ถูกตัดสินลงโทษว่าผิด แต่กลับมากุมอำนาจรัฐเพื่อแก้กฎหมาย บิดเบือนแก้ผิดเป็นถูก โดยมีผลประโยชน์ตอบแทน เล่นเล่ห์กันแบบศรีธนชัย ไม่ยึดหลักความถูกต้องใดๆ แล้ว ก็หมดสิ้นระบบนิติรัฐที่ยึดถือกันมา ต่อไปใครทำผิดโกงกิน ก็ไม่เป็นไรแก้กฎหมายได้ ประเทศชาติจะเหลืออะไรเป็นหลักให้ยึดถือ สังคมเวลานี้สื่อมวลชนที่มีความสำคัญมากว่าในการทำหน้าที่ชี้นำ ตรวจสอบการใช้อำนาจ หากอยากเห็นชาติบ้านเมืองเดินหน้าไปสู่ทิศทางใดก็ต้องเอาความจริงมาให้สังคมรับรู้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่เต็มที่แล้ว เราคัดค้านเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ ความถูกต้องแต่เสียงสู้เขาไม่ได้ เขาใช้เสียงมากลากไปโดยไม่ดูสาระของกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุโยนเก้าอี้ในสภาขัดขวางการแก้ไขกฎหมาย สังคมก็ต่อว่าเราว่า ป่วน ก็ผิดอีก ทั้งที่เขาแก้กฎหมาย เปลี่ยนผิดเป็นถูก แต่สังคมกลับเงียบ หรือสังคมไทยเวลานี้กลับตาลปัตรไปหมดแล้ว ยอมรับได้กับการโกงกิน การใช้อำนาจที่ผิด มีเจ้าหน้าบางส่วนยอมรับใช้อย่างนั้นหรือ คำตอบจึงอยู่ที่คนไทยทุกคนว่าจะเลือกทางไหน เพราะบ้านเมืองเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของใครหรือฝ่ายค้าน เพราะทำเต็มที่แล้ว
ขู่ยื่นศาล รธน.ตีความปรองดอง-นิรโทษ
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 3 สิทธิขั้นพื้นฐาน และมาตรา 309 และยังเป็นการขัดต่อหลักนิติรัฐและนิติธรรม ทั้งนี้หากจะนิโทษกรรมควรทำให้กับประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์แต่ไม่ควรเหมารวมถึงผู้สั่งการและอยู่เบื้องหลังทำให้ประชาชนเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงความผิดอาญาที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย ที่สำคัญจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ผิดว่า หากใครต้องการเป็นรัฐบาลก็สามารถสร้างความวุ่นวายด้วยวิธีการไม่ถูกต้องในบ้านเมืองได้ และเมื่อชนะการเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาลก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง ทั้งนี้พรรคไม่ได้หวังที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้รับอานิสงค์ไปกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม หากมีการนำเสนอกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาก็จะต่อสู้อย่างเต็มที่ ทั้งในสภา และการทำความเข้าใจกับประชาชนนอกสภา เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะร้อนแรง มีกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาชุมนุมคัดค้าน แต่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วมชุมนุม อย่างไรก็ตามพรรคเตรียมที่จะหารือร่วมกับทีมกฎหมายในวันจันทร์ที่ 27 พ.ค.เกี่ยวกับกฎหมายปรองดองและกฎหมายนิรโทษกรรมเกี่ยวกับรายละเอียด เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฎหมายทั้งสองฉบับว่าขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย
ตอกวาทะกรรมพาแม้วกลับบ้าน
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิม ปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี โดยอ้างว่า พ.ร.บ.ปรองดอง จะสามารถช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านได้นั้น เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองที่ใช้หลอกลวงแนวร่วมคนเสื้อแดงให้เข้าใจผิด ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับประเทศได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่มีใครห้าม เพียงแต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีถูกออกหมายจับทั้งหมด 6 คดี รวมคดีก่อการร้าย ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่น อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุตธรรมหมดแล้ว เหลือเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น หากรัฐบาลยังเดินผลักดันหน้า พ.ร.บ.ปรองดอง จะเป็นการนำประเทศไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ท้าทายประชาชนด้วยการนำกฎหมายที่มีวาระซ่อนเร้นเข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อช่วยพวกพ้อง ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ หวังดีต่อประเทศไทยจริง ก็ควรพิจารณาตัวเองด้วยการยุติการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย เนื่องจากอาจทำให้เกิดการเผชิญหน้าของประชาชนที่เห็นต่าง
จี้รัฐถอนหลักเขต อ.เสื้อแดง
น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนใน อ.จุน จ.พะเยา จำนวน 500 คน ที่แสดงความไม่พอใจ กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง นำหลักเขตสีแดง มีข้อความระบุ “อำเภอคนเสื้อแดง” มาตั้งในพื้นที่เพื่อประกาศเป็นเขตของคนเสื้อแดง แทนหลักเขตของทางราชการด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยประชาชนได้เรียกร้องให้นำหลักเขตของคนเสื้อแดงออกจากพื้นที่แล้วนำหลักเขตของทางราชการกลับมาตั้งเช่นเดิม ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายอำเภอ และกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อมูลดังกล่าวแจ้งต่อนายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้แก้ไขปัญหา โดยจะส่งหนังสือถึงกรรมาธิการของรัฐสภา พร้อมส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยละเลยการแก้ปัญหา ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
“ยะใส” ขู่ยื่นตีความนิรโทษฯ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ถ้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาในวาระ 1 จะยื่นตีความทันทีร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า ขัดต่อรัฐธรมนูญ หรือเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 309 หรือไม่ ซึ่งคงใช้ช่องทางตามกฎหมายก่อน ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะนัดประชุมประเมินสถานการณ์นั้น น่าจะคุยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และเรื่องปรองดอง เพราะขณะนี้แกนนำพันธมิตรฯ เกือบทั้งหมด โดนคำสั่งศาลหลายคำสั่งห้ามปลุกระดม เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเรียกร้อง หรือกดดันให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวโดยไม่เหมาะสม อาจจะโดนร้องศาลให้ถอนประกันได้ ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีการเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านของกลุ่มพันธมิตรแน่นอน นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม นปช.หลายกลุ่มไม่เห็นด้วยที่จะนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง เพราะจะไปทำลายความรู้สึกของญาติผู้เสียชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาฯ แล้วจะราบรื่น
ส.ว.อุทัยฯ ค้านปรองดองเข้าสภา
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า แม้โดยหลักการจะเห็นด้วยกับแนวทางปรองดอง แต่สถานการณ์ในขณะนี้มองว่ายังไม่เหมาะสมที่จะผลักดันเขาสภา ประเมินแล้วจะยิ่งกลายเป็นเหยื่อของฝ่ายต้านรัฐบาล และภายในปีนี้ยังไม่ควรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง รัฐบาลควรเดินหน้าทำงานต่อไป ทั้งตาม พ.ร.บ.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เพื่อวางโครงสร้างคมนาคมประเทศ ที่สำคัญคือ ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่ยังมีเหยื่อการเมืองเดือดร้อนอยู่จำนวนมาก ควรเยียวยาความรู้สึกพวกเขาเหล่านี้ก่อน หากยังดึงดันจะพิจารณาให้ได้ เชื่อว่าคนที่เดือดร้อนที่สุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตายแน่ เพราะฝ่ายจ้องที่จะทำลายล้าง ยิ่งทำงานง่ายขึ้น
กกต.พร้อมรับสมัคร ส.ส.ดอนเมือง
ส่วนการเตรียมความพร้อมการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตดอนเมือง แทนตำแหน่งที่ว่าง ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ นายสุพจน์ ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขตดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ของ กกต.กทม.ได้จัดเตรียมสถานที่การรับสมัครภายในบริเวณพื้นที่เขตดอนเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการจัดพื้นที่ไว้สำหรับกลุ่มกองเชียร์ผู้สนับสนุนผู้สมัครแต่ละท่าน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการรับสมัคร เนื่องจากห้องที่รับสมัครนั้น ตามกฎหมายแล้วกำหนดให้ผู้สมัครและผู้ติดตามเพียง 2 คนเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไปได้ สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ทาง กกต.กทม.ได้ประสานไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ สน.ดอนเมือง ในการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่น้อยกว่า 1 กองร้อย นอกจากนี้ทาง กกต.กทม.และสำนักงานเขตดอนเมือง ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้งในเขตดอนเมือง เขตบางเขต และเขตหลักสี่ เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยอีกด้วย ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตดอนเมืองนั้น จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่น่าจะมีปัญหาหรือเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นวันเปิดรับสมัครวันแรก ตนและเจ้าหน้าที่ของ กกต.กทม. ก็จะลงพื้นที่เพื่อตรวจความเรียบร้อยด้วยตนเองอีกด้วย
“พท.” อ้อนชาวดอนเมืองเลือก “แซม”
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอโอกาสให้นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 12 ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย มาทำหน้าที่เพื่อพัฒนาเขตดอนเมืองตามนโยบายของรัฐบาล และสานต่องานจาก ส.ส.คนที่แล้ว ซึ่งหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่ หลังจากนี้ไปทีมยุทธศาสตร์ของพรรคตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี แกนนำ และบุคลากรทางการเมืองของพรรคทุกระดับ จะช่วยกันลงพื้นที่ ขอโอกาสให้รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ และเชิญทุกภาคส่วนสร้างการเมืองสีขาว ทำการเมืองสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งซ่อมที่กำลังเกิดขึ้น
“โอ๊ค” โวลงขันเพิ่มรางวัลล่ามือเผาห้าง
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งรางวัลค่าหัวคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ 10 ล้านบาท ทำให้มีการเคลื่อนไหวกันคึกคัก อย่างแรกคือ ค่าหัวเพิ่มขึ้นแบบไม่จำกัดจำนวนคือ เพื่อนๆ และบุคคลต่างๆ ทั้งไทยและเทศที่รักและเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยกันลงขันเพิ่มเป็น “หัวละ 10 ล้าน” คือ ถ้าจับคนเผาได้ 5 คน เอาไปเลย 50 ล้าน 10 คนก็เอาไป 100 ล้าน ทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ มี “นายห้างตราดูไบ (ห่อ)” ที่ไม่เคยผิดคำพูดในทุกนโยบายที่ได้สัญญาประชาคมไว้ เป็นผู้รับประกัน อย่างที่ 2 คือ มีคนเปิดเพจชื่อกวนๆ ว่า “กูต้องได้ 10 ล้าน จากทักษิณ แน่ๆ” แป๊บเดียวมีคนกดไลค์ 5 พันกว่าคน ตอนแรกเข้าใจว่า เป็นเพจตลกๆ ไร้สาระ พอเข้าไปอ่านดูถึงรู้ว่า มีข้อมูลอีกเยอะที่สาธารณชนยังไม่รับทราบ ใครอยากอ่านข้อมูลดีๆ หรืออยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมเยี่ยมชมกันได้นายพานทองแท้ ระบุว่า ใครที่เห็นตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งมั่นทำประโยชน์ให้ประเทศ แต่ถูกกลั่นแกล้งจากกระบวนการ 2 มาตรฐานอย่างไม่เป็นธรรม เห็นว่าคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมเรียกร้องขอหีบเลือกตั้ง แต่กลับได้หีบศพอย่างไม่เป็นธรรม แถมโดนใส่ร้ายว่า เผาเซ็นทรัลเวิลด์ และถูกฆ่าภายในวัดปทุมฯ ต้องช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏ ขณะที่กำลังนั่งพิมพ์อยู่ คุณพ่อโทรเข้ามาพอดี พอเล่าให้ฟังว่า กำลังเตรียมโพสต์เรื่องค่าหัว 10 ล้าน คุณพ่อบอกให้เขียนไปด้วยว่า ผู้มีส่วนรู้เห็นกับการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ถ้ามาให้ปากคำในข้อเท็จจริง ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ทราบว่า ใครเป็นผู้จ้างวาน ก็จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกันคือ 1.ขอให้มี จนท.มาดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม. 2.ขอให้กันตัวเป็นพยานในคดี 3.ได้ 10 ล้านเหมือนกันทุกคน เอาไหมละครับแบบนี้!! เผื่อฟลุ้ก เราอาจได้หลักฐานชี้ชัดว่า ฆาตกรใจบาป 99 ศพ ฆ่า (คน) แล้วเผา (ห้าง) เพื่อสร้างสถานการณ์ก็เป็นไปได้ โพสต์หน้าวันพรุ่งนี้บ่าย 3 โมง พบกับท่าทีของพานทองแท้ต่อ พ.ร.บ.ปรองดอง..!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น