วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ใจเย็ลล์ล์ล์ๆ...หายใจยาวว์ว์ว์ๆ เมื่อ 28 พ.ย.56

ใจเย็ลล์ล์ล์ๆ...หายใจยาวว์ว์ว์ๆ


ตามประสา มือใหม่หัดม็อบ...ย่อมอาจต้องมี หลุด มี  ล้น อยู่มั่งเป็นธรรมดา การเลี้ยวโค้งหักศอกของคุณพี่ เทพเทือก และพวก เข้าไปยึดกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ ช่วงวันสองวันที่ผ่านมา แม้จะหวุดหวิดเฉียดปากขอบเหวไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด แต่หลังจากกลับมาตั้งสติ ตั้งลำ กันอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะพอเดินหน้าไปตามเจตนารมณ์และจุดมุ่งหมายของมวลมหาประชาชนได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...
                                                        ----------------------------------------------
    ถ้าหากการประกาศไม่ยอมรับอำนาจ คำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยประธาน รองประธานรัฐสภา ตลอดไปจนบรรดา ส.ส. ส.ว. กว่า 300 พระหน่อแห่งพรรคเผาไทย ถือเป็น การแสดงออกทางสัญลักษณ์ อย่างที่ ด๊อกเตอร์เหลิม ณ ก๊าบๆๆ ว่าเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ การบุกเข้ายึดกระทรวงโน้น กระทรวงนี้ ของบรรดามวลชนแต่ละกลุ่ม แต่ละเหล่า ก็คงไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายซักเท่าไหร่นัก คือถือเป็น การแสดงออกทางสัญลักษณ์ ในอันที่จะปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ในอำนาจของรัฐบาล หรือรัฐสภา ที่ได้แสดงตัวเป็น กบฏ ต่อกฎหมายสูงสุดของประเทศ มาแล้วก่อนหน้านี้...
                                                          -----------------------------------------------
    และโดยเฉพาะการบุกเข้าไปยังอาคาร สถานที่ ต่างๆ ก็เป็นไปโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ไม่ได้แสดงอาการข่มขู่ คุกคาม ไม่ได้เผา ไม่ได้ทำลาย ไม่ได้ออกไล่ล่าหาใครมาทุบ มากระทืบ เหมือนครั้งการบุกกระทรวงมหาดไทย บุกโรงพยาบาล บุกที่ประชุมอาเซียน ฯลฯ แบบมวลชนของรัฐบาลในยุคก่อนๆ การหวนกลับมาตั้งลำ ตั้งสติ กันใหม่ ค่อยๆ ขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปประชาธิปไตย ให้เป็นไปตามลำดับขั้น ไม่ช้าไป เร็วไป จึงน่าที่จะดำเนินไปได้อย่างมั่นคง มีน้ำหนัก มีพลังอยู่เช่นเดิม...
                                                         -------------------------------------------------
    เพราะโดยสถานะความเป็นรัฐบาล รัฐสภา ณ ช่วงวินาทีนี้...คงเหลืออยู่เพียงแค่จะถอดท่อหายใจออกจากจมูก ออกจากปาก กันซักเมื่อไหร่เท่านั้นเอง อวัยวะต่างๆ โดยส่วนใหญ่ ต่างค่อยๆ หยุดทำงานกันไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว มีสภาพไม่ต่างอะไรไปจาก ผัก หรือคนไข้ขั้น โคม่า แม้จะพยายามลุกขึ้นมาใช้อำนาจรัฐ ประกาศขยายเขต พ.ร.บ.ความมั่นคงครอบคลุมไปทั่วทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแบบเอาจริง เอาจัง เพียงใดก็ตามที แต่เมื่อเจอเข้ากับคำถามที่ว่า รัฐบาลที่ปฏิเสธกฎหมาย ไม่ยอมรับอำนาจตามกฎหมาย จะมีสิทธิ์บังคับใช้อำนาจตามกฎหมายได้หรือไม่ อย่างไร เท่านั้นเอง แค่นี้ก็ เดี้ยง แล้ว!!!
                                                       ---------------------------------------------------
    ส่วนรัฐสภาที่ยังคงเพียรพยายามเปิดฉาก เปิดเวที เพื่อให้ท่านประธานขี้ข้าผู้น่าเกลียด ตลอดไปจนบรรดาสมาชิกทั้งบนเพดานรัฐสภาและใต้ถุนรัฐสภา ซึ่งเคยรวมหัว รวมหาง ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอย่างตรงไป-ตรงมา ได้ออกโรง ออกฉาก ทั้งๆ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างมัน หมดสภาพ ไปนานแล้ว เวทีที่ว่าย่อมไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเวทีปาหี่ธรรมดาๆ เราดีๆ นี่เอง หรือโดย ข้อเท็จจริงทางการเมือง เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ หรือกำลังจะเป็นไปในอีกไม่ใกล้ ไม่ไกล นับจากนี้ มันนำไปสู่ภาวะ สุญญากาศทางการเมือง อย่างเห็นได้โดยชัดเจนไม่ต้องเสียเวลาตั้งคำถาม ไม่ต้องดิ้นรน ทุรนทุราย ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว...
                                                      ---------------------------------------------------
    เหลือแต่รอจังหวะ เวลา เพื่อให้องค์กรต่างๆ ซึ่งย่อมต้องมีความผูกพันอยู่กับคำวินิจฉัย ชี้ขาด ของศาลรัฐธรรมนูญอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น ออกมาสนองตอบคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างเป็นทางการ เท่านั้นเอง ข้อเท็จจริงทางการเมืองและสภาพแวดล้อมทางการเมืองในลักษณะเช่นนี้ ย่อมต้องนำไปสู่กระบวนการปฏิรูปทางการเมือง หรือกระทั่งกระบวนการปฏิรูปประเทศ ได้โดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นจะต้องใจร้อน ใจเร็ว จนอาจส่งผลให้เกิดการหลุดกรอบ เลยกรอบ โดยใช่เหตุ...
                                                   ------------------------------------------------------
    อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าจะเกิดการเข้าโค้งหักศอกแรงไปนิด แต่โดย เจตนารมณ์ของมวลชน และ จุดมุ่งหมายของมวลชน ซึ่งได้แสดงออกให้เห็นระดับถือเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเอาเลยก็ว่าได้ จำนวนผู้คนนับเป็นล้านๆ ที่พร้อมใจกันมาแออัด ยัดเยียด อยู่ที่ถนนราชดำเนินยันไปถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีน้ำหนักซะยิ่งกว่ารายละเอียดทางเทคนิคในแง่กฎหมายไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า หรือได้ทำให้ ความชอบธรรม ของรัฐบาลและรัฐสภาในทางพฤตินัย หมดสภาพ ลงไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ส่วนในแง่นิตินัย ก็เหลืออยู่เพียงแค่จะถอดท่อหายใจออกจากปาก ออกจากจมูก กันเมื่อไหร่ ตอนไหน เท่านั้นเอง...
                                                    ------------------------------------------------------
    และในระหว่างที่ท่อหายใจมันยังไม่ได้ถูกกระชากออกจากจมูก จากปาก นี่เอง การหาทางดำรง รักษา เจตนารมณ์ของมวลชนและจุดมุ่งหมายของมวลชนให้เข้มข้นเข้าไว้ ให้มีน้ำหนักเข้าไว้ จึงถือเป็นความจำเป็นเอามากๆ ที่บรรดาแกนนำหรือแกนตามในหมู่มวลชน แต่ละกลุ่ม แต่ละคณะ จะต้องร่วมแรง ร่วมใจ ทุ่มเท กันจนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ต่างไปจากมวลชนหรือปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ที่จะต้องยืนหยัด พิทักษ์ ปกป้อง ความเป็น เสรีชน จนกว่า ระบบทาส หรือ ระบอบทักษิณ จะถูกขจัดกวาดล้างออกไปจากประเทศนี้ สังคมนี้ ได้โดยสิ้นเชิง ด้วยความอดทน อดกลั้น ด้วยการนำเอาสติ ปัญญา คุณธรรม มาใช้กำกับอารมณ์ ความรู้สึก ของตัวเองไปโดยตลอด ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงจะสามารถดำรง คงอยู่ ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และถาวร ต่อไปอีกนานเท่านาน...
                                                         --------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก 108 มงคล-พระบรมราโชวาท ... “ความพากเพียรที่ถูกต้อง เป็นธรรม และพึงประสงค์นั้น คือความเพียรที่จะขจัดความเสื่อมให้หมดไป และระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นใหม่...อย่างหนึ่ง กับความเพียรที่จะสร้างสรรค์ความดี ความเจริญ ให้บังเกิดขึ้น และระวังรักษามิให้เสื่อมสิ้นไป...อีกอย่างหนึ่ง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น