วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"สุริยะใส" ยันผ่านวาระ 3 ลุยแน่!! ลั่นต่อต้านกม.อัปยศของรัฐสภาไทยทะลุซอย-ยกระดับเร็วที่สุด( 1 พ.ย.56 )



"สุริยะใส" ยันผ่านวาระ 3 ลุยแน่!! ลั่นต่อต้านกม.อัปยศของรัฐสภาไทยทะลุซอย-ยกระดับเร็วที่สุด
"สุริยะใส" ยืนยันหากผ่านวาระ 3  เครือข่าย 77 จังหวัด จะเคลื่อนพลทันที ลั่นต่อต้านกฎหมายอัปยศของรัฐสภาไทยทะลุซอย ย้ำการยกระดับต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด

วันนี้  ( 1 ธ.ค. )  นายสุริยะใส  กตะศิลา   ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชน  77 จังหวัด  กล่าวกับสำนักข่าวทีนิวส์  เพื่อกำหนดท่าทีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวันนี้ ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ  และคาดว่าจะมีการแถลงท่าทีร่วมกัน ซึ่งการเป่านกหวีดความหมายมันอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม  ในความหมายมันอาจจะไม่ใช่แค่การชุมนุมใหญ่  แต่ว่าหมายถึงการออกแบบ  การขยับ  การเคลื่อนม็อบ  ผมคิดว่า  การออกแบบการยกระดับมันต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดสำหรับพรรคปชป.  แล้วก็จำเป็นต้องคุยกับแนวร่วมกลุ่มต่างๆ น่าจะยังมีจุดร่วมที่น่าจะคุยกันได้  ทำงานร่วมกันได้
สำราญ  :  วันนี้นัดประชุมอะไรกันครับ
สุริยะใส  :  ประชุมเครือข่ายภาคประชาชน  77  จังหวัด  ซึ่งเมื่อวันที่  27 ต.ค. ที่ผ่านมา  ตามเงื่อนไขในมติที่ประชุมเล็กม.ธรรมศาสตร์  ได้แถลงไปบอกว่า  ถ้ามีการผ่านในวาระ 3  เครือข่าย 77 จังหวัดก็จะเคลื่อนพลทันที  วันนี้ก็มีการประชุมกันเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว  ตอนนี้เข้าเงื่อนไขในหนึ่งข้อก็คือว่า  เข้าวาระ 3 แล้ว  วันถัดไปก็จะเคลื่อนไหวทันที  ซึ่งในมติของเราแถลงมี 2 เงื่อนไข  แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือ  เรื่องคดีประสาทพระวิหาร  พวกผมไม่ต้องไปรอแล้ว  เพราะได้เงื่อนไขมาก่อน  เราก็ว่าไปตามนั้น    
สำราญ  :  ทีนี้พอเข้าเงื่อนไขแล้ว  หมายถึงการชุมนุมใหญ่ใช่ไหม
สุริยะใส  :  แน่นอนว่า  เบื้องต้นเราต้องพูดถึงการชุมนุมที่จะรองรับคนจากต่างจังหวัดว่า  จะมากันยังไง  แล้วจะไปลงที่ไหน  วันนี้ก็คงจะมีการระบุสถานที่แน่นอน  แล้วก็นัดหมายเวลาที่แน่นอน  เพื่อที่จะรองรับพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัด  ที่มีการรวบรัดลงมติในวาระ 3  ตั้งแต่ตอนเช้ามืด  พี่น้องก็โทรมาอย่างเป็นจำนวนมากว่าจะเคลื่อนกันยังไง  ผมก็แนะนำว่า  ให้เข้ากทม.ให้หมดก่อน  ส่วนเวทีต่างจังหวัดถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปตั้งกัน  เพราะว่าอุปสรรคที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ  ทางตำรวจได้ทำการสกัด  เช่น  ไปเกลี้ยกล่อมแกนนำไม่ให้เคลื่อนไหว  หรือไปทำนองข่มขู่บ้างก็มี  บางคนก็โดนตำรวจไปหาที่บ้าน  เขาก็งงโทรมาหาผมกันบอกว่า  ขอถ่ายรูปหน่อย  เอารูปตำรวจไว้  ก็พูดทำนองว่า  กฎหมายฉบับนั้น  ฉบับนี้  มันดีอย่างนั้นอย่างนี้  อันนี้ก็เป็นอุปสรรคตัวหนึ่งที่เราประเมินว่า  เราจำเป็นต้องนัดหมายไปเลยนะครับ  ผมเองจริงๆ ต้องแถลงตอนบ่าย 3 โมงเย็น  คนที่โทรมาหาผม  ผมก็บอกว่า  ให้เขามาเลย  จะอยู่ที่กทม.  จะอยุ่ปริมณฑล  หรือว่าที่ไหนอย่างไร  ก็ให้เจอกันที่อุรุพงษ์เป็นหลักก่อน 
สำราญ  :  ตอนนี้ต้องใช้อุรุพงษ์เป็นที่รองรับไว้ก่อน
สุริยะใส  :  ใช่ครับ  ต้องรองรับไว้ก่อน  การเป่านกหวีดความหมายมันอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม  ในความหมายมันอาจจะไม่ใช่แค่การชุมนุมใหญ่  แต่ว่าหมายถึงการออกแบบ  การขยับ  การเคลื่อนม็อบ  ผมว่าน่าจะหมายถึงอย่างนั้นมากกว่าถ้าคนมาเยอะแล้ว  ซึ่งวันนี้ก็คงหารือกันนะครับ
สำราญ  :  เอาเป็นว่าที่ชัดเจนตอนนี้มาที่อุรุพงษ์ก่อน  ถ้าเขาจะไปสามเสนด้วยจะได้ไหม
สุริยะใส  :  ยินดีครับ  ไปที่ไหนก็ได้แม้กระทั่งที่สวนลุมพินี  เท่าที่คุยกันเบื้องต้น  แนวคิดของสวนลุมฯ ก็อาจจะขยับออกมาก็เป็นไปได้  เดี๋ยววันนี้คงหารือความเป็นไปได้กัน  ในการเกิดอีกเวทีหนึ่งก็จะหารือกัน  เพราะในขณะนี้เราต้องยอมรับว่า  ขีดจำกัดเรื่องสถานที่นัดหมายการชุมนุมมันทำได้ยาก  เพราะว่ามันอยู่ในพื้นที่การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง  ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เดิมที่เราเคยใช้กัน  ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าที่ปิดแล้ว  สนามหลวงที่อยู่ในเขตพระนคร  ที่อยู่ในเขตการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงเหมือนกัน  มันควบคุมไปหมด  คือถ้าเขาไปตั้งเวทีนี้ก็ไปปะทะกับตำรวจ  มีอีกที่หนึ่งก็ที่ราชประสงค์  ที่เราต้องมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า การสกัดคนเขาเข้มงวดมาก  ล่าสุดก็มีการออกคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทยให้กรมการปกครองทำหนังสือถึงทุกอำเภอ  ทำป้ายสนับสนุนเอาประชาชนมาแสดงพลังร่างกฎหมายฟอกผิดคุณทักษิณ  มันชัดเจนว่า  เขาเดินสุดซอย
สำราญ  :  การที่เมื่อคืนเขาหักดิบ  คุณสุริยะใสประเมินว่า  ฝ่ายประชาชน  ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์  ยังไม่มีกระแสสูงพอ  หรือเขากลัวว่า  ประชาชนจะจุดติดพรึ่บขึ้นมามากกว่าเป็นแสน  เป็นล้านขึ้นมา  เขาเลยต้องรีบจบเสียก่อน  มันอยู่ที่ประเด็นไหน
สุริยะใส  :  ผมคิดว่า  การประเมินถ้าทำได้ช้ากว่านี้  ถ้าขุดซอยให้ยาว  ให้ลากยาวไป  คนกลางซอยก็จะทยอยออกมา  ทำให้เกิดมหาชนคับคั่ง  และอาจจะบริหารจัดการลำบาก  ทางที่ 2. ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า  ปลายทางเขาต้องการกลับบ้านอย่างเท่ๆ ตามที่คุณทักษิณได้พูดไว้เมื่องานวันเกิดบอกว่า  อยากจะกลับบ้านในปีนี้  ก็เป็นไปได้สูง  ปลายทางหลังจากนี้ ส.ว.เขาก็ใช้เสียงข้างมากให้เร็วขึ้นอีก  เพราะผมคิดว่า  ส.ว.ก็คุมเสียงข้างมากได้อยู่  ส.ว.เสร็จก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ เลยครับ  มันก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ  ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ทำวันเดียว  ศาลยังไต่สวนยืดเยื้ออีก
สำราญ  :  ผมดูเกมแล้ว  ที่เราได้วิเคราะห์แลกเปลี่ยนกัน  ผมคิดว่า  เขาอยากจะให้จบภายในเดือนนี้
สุริยะใส  :  ผมคิดอย่างนั้น  เพราะว่าปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 29 พ.ย. แล้วก็ไปเปิดอีกทีนึงปลายเดือนธ.ค.  เขาคงเอาให้เสร็จปลายเดือนนี้  หรืออย่างช้าก็ไปวาระ 3  เมื่อคืนผมดู  การอภิปรายจนถึงตี 4  ชัดเจนว่า  เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชน  อย่าว่าแต่ฝ่ายค้านเลยเขาหักดิบกัน  คนที่อ่านคำแปรญัตติกรรมาธิการผลัดกันอ่าน  ปรบมือให้กำลังใจกัน  แล้วก็โหวตกัน  มันถือว่าเป็นความอัปยศของรัฐสภาไทยในประวัติศาสตร์  ผมเกิดมาไม่เคยเห็น  ผมเห็นครั้งที่สามารถเทียบเคียงได้คือ  สมัยที่ยึดอำนาจปี 2534  มันมีความคล้ายกัน  ตอนนั้นก็เป็นการโกหกเพื่อชาติ  บรรยากาศมันเป็นอย่างนั้น  มันเป็นการเหลิงอำนาจของคนที่มีจิตใจเป็นอำนาจนิยม  ฉะนั้นผมคิดว่า  นี่เป็นสายฟางเส้นสุดท้ายที่ขาด แล้วเมื่อคืนก็ขาดไปแล้ว  เขาไม่ติดใจเสื้อแดงว่าเมื่อคืนจะขาดกี่คน  เขาเห็นพลังจากฝ่ายของคนว่าของจริงมันอยู่ตรงไหน  ของจริงมันอยู่ที่คุณทักษิณ  แดงก้าวหน้ามันเป็นแค่ภาษาสวยหรู  มันเป็นแค่วาทกรรมทาง facebook  ทาง Social Media เท่านั้นเอง  บางคนก็บอกว่า  จะไปนัดชุมนุมเสื้อแดงวันที่  10  พ.ย.  แล้วมันจะมีความหมายอะไร  ในมื่อกฎหมายมันผ่านไปแล้วเมื่อคืน 
สำราญ  :  คุณสุริยะใสประเมินได้ไหมว่า  ตอนนี้อารมณ์คน  มันคล้ายๆ กับว่า  มันก้าวผ่านพ้นกฎหมายนี้ด้วยซ้ำไป  เขาอยากจะล้มรัฐบาลกัน    
สุริยะใส  :  ผมก็ไปแล้ว  เวทีพรรคปชป.ก็ไปแล้ว  แม้ว่าบนเวทีจะบอกว่า  เอาแค่กฎหมายสุดซอยก็ตาม  ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่อุรุพงษ์  ถ้าพูดกันตรงๆ  ถ้าแสดงความเห็นผ่านไปถึงพรรคปชป.  งานนี้คุณไม่มีทางหยุดแค่ต้นซอย  กลางซอย  แต่คุณต้องไปทะลุซอย  ผมคิดว่า  การออกแบบการยกระดับมันต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดสำหรับพรรคปชป.  แล้วก็จำเป็นต้องคุยกับแนวร่วมกลุ่มต่างๆ  เป้าหมายต้องถกกัน  ผมเรียนเลยว่า  วันนี้พรรคปชป.ก็ยังพูดกฎหมายนิรโทษกรรมอยู่  คุณจะยกระดับไปยังไงก็เป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ต้องเคารพกัน  แต่ผมเรียนว่า  พี่น้องที่ไปชุมนุมที่สามเสน  ความรู้สึกมันไปไกลแล้ว  มันถดถอยสุดๆ แล้ว
สำราญ  :  แต่โดยรวมแล้ว 2 วงใหญ่ๆ คิดว่า  น่าจะยังมีจุดร่วมที่น่าจะคุยกันได้  ทำงานร่วมกันได้
สุริยะใส  :  ไม่มีปัญหาหรอกครับ  เรามีการสื่อสารกันตลอด  เพียงแต่ว่า  สถานการณ์ถ้ามันเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้  การแถลงการพูดคุยกันมันต้องถี่ขึ้น  สถานการณ์ต้องมี black room  มี wall room  ในส่วนของเราจะมีการประชุมกันบ่าย 3 โมงที่ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ  สี่แยกคอกวัว  ก็จะมาดูในรายละเอียดกัน  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น