วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ในทางเลือกที่ 'ไม่มีทางรอด'เมื่อ 23 พ.ย.56



 เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ "นายศิลา วงศ์สิน" ประกาศตัวไม่ขึ้นต่ออำนาจปกครองบ้านเมือง ตั้งตนเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ชักชวนให้ชาวบ้านเข้ามาอยู่ในอำนาจปกครองของตน พร้อมตั้ง "เมืองอิสระ" ขึ้นทางภาคอีสาน เรียกกบฏครั้งนั้นว่า
    "กบฏผีบุญ"!
    มาถึงวันนี้ พ.ศ.๒๕๕๖ "ประธานรัฐสภา-รองฯ" "สมศักดิ์-นิคม" พร้อมด้วย ๓๑๒ ส.ส.-ส.ว.และพรรคเพื่อไทย ที่ขะมักเขม้นเปลี่ยนประเทศให้เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" ประกาศไม่ขึ้นต่ออำนาจปกครองบ้านเมือง โดยไม่ยอมรับอำนาจศาล  เรียกกบฏครั้งนี้ว่า
    "กบฏรัฐธรรมนูญ"!
    อืมมมมม....ห่างกัน ๕๔ ปี จากกบฏผีบุญ มาถึงกบฏรัฐธรรมนูญ ก็ไม่พ้นคำว่า..สิน..ษิณ
    แถมมีเจตนาและเป้าหมาย "แยกประชาชน-แยกประเทศ" สถาปนาตนเป็นเจ้าเหมือนๆ กัน!
    เมืองหลวง "รัฐไทยใหม่" ของทักษิณ ได้ยินเขาบอกว่าจะตั้งที่อุดรธานี แต่เมืองใหม่ที่ผีบุญตั้งครั้งนั้น อยู่ในป่าแถวๆ นครราชสีมา
    "บทจบ" ของกบฏผีบุญ "นายศิลา วงศ์สิน" จบด้วยถูก "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ใช้ ม.๑๗ ยิงเป้า!
    ส่วน "บทจบ" ของกบฏรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, ๓๑๒ ส.ส.-ส.ว., นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์-นายนิคม ไวยรัชพานิช
    รวมทั้ง "นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี
    จะจบแบบไหน-อย่างไร?
    คงไม่จบด้วย ม.๑๗ แต่จะจบด้วยอำนาจมหาประชาชน ๗๗ จังหวัด และการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.เป็นเบื้องต้น!
    เว้นแต่ตัวเองจะ "ชิงจบ" เสียก่อน ด้วย ๑.ยุบสภาฯ ๒.ลาออก และ ๓.ฆ่าตัวตาย!!
    ก็เห็นแล้วทั้งแปลกและทุเรศ บอกว่าเป็นกรรมการยุทธศาสตร์และแกนนำเพื่อไทย มีทั้งรัฐมนตรี ส.ส. นักกฎหมายฝรั่งเศส อดีตทหาร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัย
    แต่คิดและทำ "เถื่อน-ถ่อย" ยิ่งกว่าผีนรก และเหมือนเป็นสัญญาณบอกถึงความตกต่ำใกล้ตายของพรรค ก็ลองถึงขนาดต้องเอาคนอย่างจ่าหัวขี้เรื้อน ไอ้พระเอกยี่เกหน้าวอกขึ้นมาอยู่ในระดับแกนนำผู้กำหนดยุทธศาสตร์พรรค
    มันก็...จบแล้ว!
    สำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มาถึงป่านนี้ กลิ่นอาย "ตายทั้งเป็น" กรายอยู่บนหัวแล้ว ยังไม่รู้สึก-สำนึกแห่งผิด แห่งถูก
    ไม่ทำตัวให้ประชาชนรู้สึกสงสารในฐานะ "สตรีแหลที่น่ารัก" คนหนึ่ง ซึ่งตกเป็นเครื่องมือ "ตัณหา-พยาบาท" ของเจ้าพี่ชาย
    การรีบนำ พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายนั้น ทำตาใสอ้างได้ว่า ทำตามกรอบเวลากฎหมายระบุ
    แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาชัดแล้วว่า  พ.ร.บ.นั้น ทำกันด้วยพฤติกรรมและวิธีการที่ผิด รู้แล้วแทนที่จะสำนึกและประสาน "สำนักราชเลขาธิการ" ขอร่าง พ.ร.บ.นั้นคืน
    ก็...ไม่ทำ!
    กลับไปทำตามคำแนะนำของกรรมการยุทธศาสตร์และแกนนำพรรคที่ประกาศเป็นกบฏ โดยดื้อแพ่ง ไม่ยอมรับอำนาจศาล!
    เช่นนี้ เท่ากับลบล้างข้ออ้างที่ว่า "นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายตามกรอบเวลากฎหมาย" เปลือยตัวตนและเจตนาให้เห็นชัดแจ้งว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้น
    "จงใจ"!
    ไม่มีนักการเมืองอารยประเทศไหนในโลกจะหนังหนา-หน้าด้าน ไร้จิตสำนึก ไร้ธรรมาภิบาลเท่านายกฯ ยิ่งลักษณ์  เท่าประธานรัฐสภาสมศักดิ์ และรองฯ นิคมอีกแล้ว
    ผิดชัดแจ้งขนาดนี้ ยังดื้อด้านอยู่ ไม่อายใคร-ไม่อายโลก  แถมยังทำกำแหงโจร จะไปฟ้อง ไปร้องถอดถอนตุลาการที่วินิจฉัยซะอีก!
    ในเมื่อไม่ยอมรับอำนาจศาล ซึ่งเท่ากับไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้วจะไปฟ้องศาลอีกทำไม  เพราะนั่นเท่ากับยอมรับอำนาจศาลนะ?
    โธ่ ไอ้ทุเรศ....!
    อะไรที่ศาลตัดสินไม่ถูกใจกู กูไม่ยอมรับ แต่อะไรที่กูต้องยืมมือศาลไปจัดการคนอื่น ตรงนี้กูยอมรับ
    เอากันด้านๆ อย่างนี้น่ะนะ..ไอ้หัวขวด?
    มันหมดสภาพพรรคการเมือง สภาพนายกฯ สภาพ ส.ส.ไปแล้ว สำหรับเพื่อไทย ต้องระงับบัญชีเงินเดือน ไม่ยอมให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ต่อไป เพราะการประกาศ "ไม่ยอมรับอำนาจศาล" ทำเป็นทางการในนามพรรค
    การปฏิเสธอำนาจศาล เท่ากับปฏิเสธรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ในเมื่อสถานะ ส.ส.ก็ดี นายกฯ ก็ดี พรรคก็ดี ประธาน-รองประธานรัฐสภาก็ดี ล้วนมาจากรัฐธรรมนูญ
    เมื่อรัฐธรรมนูญไม่มีแล้วในการยอมรับของพวกเจ้า....
    หัวโขนที่พวกเจ้าสวมอันได้มาตามรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไม่มีแล้วเช่นกัน!
    สภาพยิ่งลักษณ์วันนี้ คือสภาพ "นายกฯ ปูง่อย" นี่ก็วันเสาร์ ๒๓ พฤศจิกา พรุ่งนี้อาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกา
    "สุเทพ ณ ราชดำเนิน" เขาเชิญชวนคนทั่วประเทศมารวมกันเป็น "มหาประชาชนชาวราชดำเนิน" นับล้าน
    มากันทำไมเป็นล้าน?
    มาจับ "ปูง่อย" ลอยแพไปดูไบน่ะซี!
    ในสภาพปิดบน-ล่างแพลม, ปิดล่าง-บนโผล่ มีคนสงสัยว่า ทำไมยิ่งลักษณ์จึงไม่ชิง "ยุบสภาฯ" กุมสถานภาพ "นายกฯ รักษาการ" ไว้ก่อน?
    เลือกตั้งใหม่ภายใน ๒-๓ เดือน พ.ร.บ.นิรโทษฉบับสุดซอยที่แช่แข็งไว้ ๑๘๐ วัน ก็ยังใช้ได้ เลือกตั้งใหม่ยังไงเพื่อไทยก็ชนะ ก็เอาเข้าสภาฯ ใหม่ประกาศใช้ได้เลย ตัวเองก็จะเป็น
    "นารีขี่ม้าขาว" คัมแบ็ก!
    แต่วันนี้ยุบไม่ได้แล้ว เพราะอยู่ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่หลังวันที่ ๒๙ พ.ย.เป็นต้นไป คืออภิปรายเสร็จแล้ว ไม่แน่นะ เธออาจยุบก็ได้!?
    เหตุที่ไม่ยุบก่อนหน้านี้ เพราะต้องการใช้ "รัฐสภาทาส" เป็นตรายาง ปั๊มกฎหมายกู้ ๓.๕ แสนล้าน, กู้ ๒ ล้านล้าน, กฎหมายนิรโทษกรรม และกฎหมายรัฐสภาผัว-เมีย
    ก็ดูเหมือนได้ แต่ไม่ได้เลยทุกฉบับ แท้งบ้าง คลอดแล้วตายบ้าง ดองไว้บ้าง แล้วมาเจอสถานการณ์ "นกหวีด-นกเขา" จากประชาชนชาวราชดำเนินเป่าไล่ เอา "นกแสก" มาสู้ก็ยังสู้ไม่ไหว
    ส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่ ก็ดูเหมือน "รู้หลบเป็นปีก-รู้หลีกเป็นหาง" ยิ่งลักษณ์นับวันจะอ้างว้าง-โดดเดี่ยว เหลือแต่จ่าประสิทธิ์เท่านั้นคอยให้แอ่นระแน้แลซบ
     ในเมื่อ "รัฐสภาทาส" หมดสภาพที่จะใช้เป็นเครื่องมือ
    ก็มี ๓ ทางสุดท้ายให้เลือก
    ๑.ใช้บริการ "กองกำลังผสม" กองทัพตำรวจ-กองทัพนปช. ด้วย พ.ร.บ.มั่นคง
    ๒.ใช้บริการ "กองทัพทหาร" ด้วยประกาศใช้กฎอัยการศึกจัดการผู้ชุมนุม และ
    ๓.รีบหนีออกนอกประเทศไปเสียแต่เดี๋ยวนี้!
    พิเคราะห์แล้ว เหลือสองทางที่เป็นได้ คือทางที่ ๑ และทางที่ ๓ ส่วนทางที่ ๒ หวังใช้กองทัพเป็นกองกำลังปราบประชาชนเพื่อรัฐบาลกบฏในราชอาณาจักรได้ยึดครองประเทศต่อไปนั้น
    The Impossible!
    ในทางย้อนศร ถ้ารัฐบาลใช้กองทัพตำรวจกับกองทัพนปช.เข้าปราบปรามมหาประชาชนชาวราชดำเนิน จนเกิดคำว่า "จลาจล"
    ตรงจุดนี้ รัฐบาลอาจถึงขั้นประกาศใช้ "กฎอัยการศึก" ควบคุมเพื่อสร้างและรักษาความสงบเรียบร้อยให้บ้านเมือง(และตัวเอง)
    "กฎอัยการศึก" เป็นมาตรการทางกฎหมายสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการรองรับอำนาจหน้าที่ของฝ่ายทหาร เพื่อให้บรรลุถึงภารกิจในการรักษาความมั่นคงของประเทศชาติ
    ครับ..นั่นคือ ถ้าไม่มีกฎหมายรองรับ ทหารจะออกมาทำงานในสิ่งอันมิใช่หน้าที่ไม่ได้ ถ้าออกถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษทั้งอาญาและวินัย
    และผมบอกได้เลยว่า เมื่อทหารออกมา จะไม่ออกมาด้วยเป้าหมาย "พิทักษ์รัฐบาล" ที่หมดความชอบธรรมแล้วนั้น
    แต่จะออกมาเพื่อพิทักษ์มหาประชาชน ที่ออกมาทำหน้าที่พิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้
    สรุปก็คือ แก๊ง "กบฏรัฐธรรมนูญ" บนการรวมหัวของรัฐบาล+รัฐสภา เดินหน้าก็ตาย อยู่เฉยๆ ก็ตาย ถอยหลังก็ตาย นั่นเพราะ
    "ตายซาก" แล้ว ขณะนี้!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น