ปค.แถแค่ขอร้อง! เชียร์นิรโทษกรรม สั่งเข้มศาลากลาง
มท.เบรกเอี๊ยดระงับขึ้นป้ายเชลียร์หนุน พ.ร.บ.นิรโทษ หลังโดนกระแสสังคมสับเละ อธิบดี ปค.ยังแถไม่ได้บังคับแค่ขอความร่วมมือ คนใต้หลายจังหวัดฮือต้านนัดชุมนุมศาลากลาง นักธุรกิจโคราชค้านล้างผิดโกง ตั้งเวทีปราศรัยลานย่าโม ผู้ว่าฯ-ตร.ผวาม็อบบุกระดมกำลังคุมเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือลงวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา สั่งการให้จังหวัดและอำเภอขึ้นป้ายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 1 พ.ย.56 เรื่อง ระงับการดำเนินการตามหนังสือ ลงวันที่ 31 ต.ค.56 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยระบุว่า กรมการปกครองพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อความในหนังสือนำส่งและข้อความตัวอย่างมีความคลาดเคลื่อนจากแนวนโยบายของกรมการปกครอง ที่ประสงค์จะให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความปรองดองของคนในชาติ จึงให้ระงับการดำเนินการตามหนังสือดังกล่าวไว้ก่อน
สำหรับเนื้อหาที่ระบุในคำสั่งวันที่ 31 ต.ค. มีใจความว่า "ขอให้จังหวัดแจ้งขอความร่วมมือทุกอำเภอจัดทำคัตเอาต์หรือป้ายไวนิล ข้อความสนับสนุนการปรองดองของชาติโดยการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยติดตั้งให้ประชาชนทั่วไปรับทราบ ทั้งนี้ ให้จังหวัดรวบรวมการดำเนินการพร้อมภาพถ่ายของอำเภอส่งให้กรมการปกครองทราบภายในวันศุกร์ที่ 8 พ.ย.56 ด้วย"
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า หลังจากหนังสือคำสั่งฉบับวันที่ 31 ต.ค.ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีจึงได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ลพบุรี ทำให้มีคำสั่งด่วนไปยัง รมว.มหาดไทยให้ระงับคำสั่งดังกล่าว
นายศิริพงษ์กล่าวว่า ทำหนังสือขึ้นป้ายสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อหวังให้เกิดความปรองดองในชาติ ยืนยันไม่ได้บังคับให้อำเภอทำ จะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ เป็นการขอความร่วมมือกัน และไม่ได้เป็นการรับใช้รัฐบาล
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมการปกครอง อ้างเช่นเดียวกันว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็น ไม่ได้เป็นเรื่องของการสั่งการ ซึ่งวิธีการปฏิบัติอาจจะสื่อความหมายคลาดเคลื่อน จึงได้มีวิทยุด่วนสั่งการให้ในพื้นที่ระงับการดำเนินการดังกล่าวในทันที
วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมในต่างจังหวัดเริ่มมีการชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี, สงขลา และนครศรีธรรมราช จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยแล้ว
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกยึดว่า ขอให้ตำรวจสบายใจได้ เพราะผู้ชุมนุมจะไม่บุกเข้าไปในศาลากลางจังหวัด เพียงแต่เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเชื่อว่าผู้ชุมนุมไม่ต้องการที่จะให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกับตำรวจด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันที่ 2 พ.ย. ชาวสงขลาจะมีการรวมตัวกันและเริ่มชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิโทษกรรม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แกนนำผู้ชุมนุมที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า จะไม่มีการบุกเข้าไปในศาลากลางจังหวัด แต่ยืนยันจะปักหลักชุมนุมที่ด้านหน้าคู่ขนานไปกับการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในพื้นที่ กทม.
ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา มีการระดมกำลังทั้งจากกองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน ทั้งจาก อ.เมืองฯ, อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา ร่วมกับตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวันที่ 2 พ.ย. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำรั้วลวดหนามมาเตรียมพร้อมขึงในพื้นที่ที่เป็นจุดบอด รวมทั้งกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้จัดกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย จำนวน 155 นายเข้ามาเสริม และเตรียมอีก 1 กองร้อยเข้ามาสมทบ หากมีการดาวกระจายไปชุมนุมตามสถานที่สำคัญต่างๆ ขณะที่นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยปลดอาวุธประจำกายเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีประชาชนจากสุราษฎร์ธานีจะเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ จริง แต่จำนวนที่แจ้งมาไม่เกิน 70 คนจากทุกอำเภอ ซึ่งชาวบ้านไม่สนใจไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล เพราะจะมีการจ่ายค่าชดเชยในเรื่องราคายางในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นายอำเภอลงทำความเข้าใจกับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในส่วนการป้องกันศาลากลางจังหวัด มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) แล้ว
ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคน รวมตัวกันคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มลูกขวานลอยลม และแกนนำเรียกร้องราคายางพาราบริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ โดยยังไม่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัต์เข้าร่วม
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดจะไม่กีดกั้นการแสดงออกดังกล่าว แต่ได้เตรียมมาตรการดูแลและป้องกันความสูญเสียของทรัพย์สินทางราชการไว้แล้ว โดยประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชน จากกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง (หลังเก่า) เครือข่ายองค์กรคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม จังหวัดตรัง, เครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ตรัง, แกนนำจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มหน้ากากขาวเมืองตรัง ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์คัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม โดยระบุการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ยกเว้นเจ้าหน้าที่จะพยายามสร้างความรุนแรงก่อน
ที่สำนักงานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการประชุมเครือข่ายฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มีความผิดคดีทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้นจะแสดงจุดยืนโดยการนัดชุมนุมกันที่ลานไทร ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งจะมีกลุ่มนักศึกษาและคณาจารย์ส่วนหนึ่งนัดรวมตัวกันอยู่แล้วในเวลา 16.30 น. วันนี้ (1 พ.ย.) จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ซึ่งจะมีกลุ่มหน้ากากขาวรอสมทบการชุมนุมอยู่ จากนั้นจะมีการเปิดเวทีปราศรัยที่ลานย่าโม ตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
นอกจากนี้ จะยื่นหนังสือต่อนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้รับรู้ว่าคนโคราชไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งสุดซอยนี้ และกิจกรรมในแต่ละวันจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและยกระดับการชุมนุม ซึ่งอาจจะมีการชุมนุมแบบดาวกระจายไปตามสถานที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด, สภ.เมืองนครราชสีมา
ขณะที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น โดยผู้ว่าฯ นครราชสีมา ได้สั่งการให้จัดกองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ตั้งจุดตรวจรถทุกคันที่ผ่านเข้าออกตลอด 24 ชม. และปิดประตูทุกด้านที่อยู่รอบศาลากลางจังหวัดด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ชอบ ศิลาสัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจส่วนหน้าแล้ว เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งนัดชุมนุมกันตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. โดยได้เตรียมตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย ไว้คอยดูแลความสงบ ส่วนกองร้อย อส. รักษาความปลอดภัยบริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ได้จัดตำรวจสายตรวจมาดูแลด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น