วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทุกภาคส่วนพรึ่บ!!! ต้านเหมาเข่งอย่างพร้อมเพรียง เมื่อ 1 พ.ย.56



ทุกภาคส่วนพรึ่บ!!! ต้านเหมาเข่งอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นจุดศูนย์กลางในการเคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ก็ยังมีแนวร่วมอีกเป็นจำนวนมากที่มีจุดยืนไปในทิศทางเดียวกัน

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อสถานเอกอักคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ได้ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบร้ายแรงต่อคนไทยทั้งประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
คุณหญิงชฎา กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ต้องการให้สังคมนานาชาติทราบถึงเคลื่อนไหวเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันขององค์กรฯ ที่ต้องการผลักดันการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไทยกำลังดำเนินการขัดต่ออนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการทุจริตค.ศ. 2003 (UNCAC 2003) ที่มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2548และรัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบันเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554

ทั้งนี้ องค์กรฯ เน้นย้ำจุดยืนที่จะคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในประเด็นเรื่องการคอร์รัปชันเท่านั้น เพราะจะยิ่งส่งเสริมการกระทำทุจริต ล้างผิดคนโกง ส่งผลให้เกิดความล้มเหลวของกระบวนการต่อสู้คอร์รัปชันของทุกภาคส่วนในสังคมไทย รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อนานาชาติในเรื่องความโปร่งใสที่จะส่งผลต่อการเข้ามาลงทุนจะยิ่งตกต่ำลง และจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึงคนไทยทั้งประเทศในเรื่องเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ รวมถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมและความเชื่อมั่นของประชาคมโลกในอนาคต

ขณะที่อีกด้าน ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกแถลงการณ์ ประกาศจุดยืนไม่ยอมรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พร้อมเชิญชวนชาวสาธารณสุขร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการหยุดการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อสร้างนิติรัฐให้กับสังคมไทย

ชมรมแพทย์ชนบท นำโดย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 "ขอให้รัฐบาลยุติการผลักดันร่าง พรบ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยในทันที" พร้อมทั้งเรียกร้องต่อสมาชิกและรัฐบาล ดังนี้

1.ขอให้สมาชิกชมรมแพทย์ชนบท พี่น้องชาวโรงพยาบาลชุมชน พี่น้องชาวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พี่น้องชาวกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งชาวไทยผู้รักประเทศชาติทุกท่าน ขอให้มีวิจารณญาณของตนเองต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ ใครใคร่ทำอะไรก็รีบทำ เพราะเราก็คือประชาชนเจ้าของประเทศคนหนึ่ง ประเทศชาติก็เป็นของเราด้วย อย่างน้อยก็ให้ความเห็น แชร์ความคิด เขียนป้ายบอกทรรศนะและจุดยืนติดหน้าบ้านหน้าโรงพยาบาล แม้แต่ถ่ายรูปพร้อมป้ายจุดยืนส่วนบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ตามแต่ การกดดัน ส.ส.ในพื้นที่ การสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติที่มารับบริการ หรือแม้แต่ร่วมการชุมนุม ด้วยความหวังว่า พลังมติมหาชนไม่เอานิรโทษกรรมเหมาเข่งจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลยอมถอย

2.ขอให้รัฐบาลยกเลิกการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ในทันที แล้วกลับไปตั้งต้นที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนทั่วไปที่กระทำความผิดจากการเข้าร่วมการชุมนุมเท่านั้น โดยไม่นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งแก่ระดับแกนนำ ดังที่เสียงของประชาชนทุกกลุ่มเรียกร้อง ด้วยความเป็นแพทย์ ชมรมแพทย์ชนบทไม่อยากให้ต้องมีการสูญเสียใดๆ อีกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ขอให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างมีสติ เดินหน้าสู่เป้าหมายด้วยสันติวิธี
ส่วนอีกหนึ่งกลุ่มผู้ชุมนุม กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทยหรือ คปท. ล่าสุด ได้ออกแถลงการณ์ยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาล
นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.ได้แถลงการณ์คปท.ฉบับที่ 2
  
โดยนายอุทัย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันปรากฏชัดแจ้งว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประธานรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลมีความตั้งใจในการตรากฎหมายไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยเฉพาะการที่สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 3 โดยไม่ฟังเสียงประชาชนที่ออกมาคัดค้านจำนวนมาก จึงเป็นการแสดงออกของเจตนาที่ไม่ยึดมั่นศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ฝักใฝ่การปกครองรูปแบบเผด็จการ หากเพิกเฉยปล่อยให้รัฐบาล สภาผู้แทนราษฎรบริหารบ้านเมือง และตรากฎหมายต่อไปจะเป็นภัยร้ายแรง คปท.จึงขอใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และต่อต้านโดยสันติวิธี ทั้งนี้คปท.ไม่ได้มีเจตนาจะล้มล้างการปกครอง หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ หากแต่กระทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยปกครองในรูปแบบเผด็จการ
ด้านนายนิติธร กล่าวว่า เมื่อพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะมีการเคลื่อนไหวยกระดับเป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะ ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด ได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าที เกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ซึ่งที่ประชุมก็มีมติยกระดับการชุมนุม พร้อมระดมมวลชนไปสมทบกับกลุ่มคปท. ที่แยกอุรุพงษ์โดยด่วน
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด ได้แถลงจุดยืนต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ภายหลังจากการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันกับเครือข่าย
ทั้งนี้ จุดยืนในการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของเครือข่ายภาคประชาชน 77จังหวัด มีด้วยกัน 4 ข้อ ดังนี้
1.การแถลงการณ์ครั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนได้ที่เคยตกลงกันไว้
2.ให้ประชาชนทั่วประเทศเดินทางมารวมตัวกันที่แยกอุรุพงษ์และสวนลุมพินี
3.เนื่องจากที่แยกอุรุพงษ์ ทาง สน.พญาไท ได้ขอคืนพื้นที่ หวั่นว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุม จึงเชิญชวนประชาชนให้รีบไปรวมตัวกันที่แยกอุรุพงษ์โดยด่วน
และ4.เมื่อเครือข่ายภาคประชาชนรวมตัวพร้อมจะยกระดับทันที
ส่วนการจะไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่จะส่งตัวแทนไปพูดคุย หากมีแนวคิดเหมือนกันก็พร้อมที่จะเข้าร่วมด้าน พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยรวบรัดการลงมติร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เนื่องจาก ส.ส.เพื่อไทยมีสภาพไม่ต่างจากทาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการได้ทุกอย่าง เพราะคนเหล่านี้กลัวจะไม่มีตำแหน่ง โดยไม่คิดถึงศักดิ์ศรีตัวเอง ซึ่งสถานการณ์หลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ประชาชนต้องออกมาร่วมสู้ หากไม่อยากให้ประเทศและตัวเองตกเป็นทาสของระบอบทักษิณ      

 
นอกจากนี้ พล.ร.อ.ชัย ยังกล่าวถึงการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสนด้วยว่า เริ่มเห็นถึงความจริงใจ และเอาจริงในการต่อสู้ร่วมกับภาคประชาชน หลังจากที่ผ่านมาอาจมีคำถามอยู่บ้าง แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่สามารถต่อสู้ภายในระบบรัฐสภา ก็เชื่อว่าครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเคลื่อนไหวเต็มที่ อีกทั้งมีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมจำนวนมาก หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาจริง ก็ถือว่าเสียโอกาส

อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เวทีพรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นเวทีของนักการเมือง ซึ่งทางกลุ่มถือว่านักการเมืองไทยเลวทั้งหมด เพียงแต่หากเทียบกันแล้วพรรคเพื่อไทยเป็นนักการเมืองที่ใช้ไม่ได้มากกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น