ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่งจำคุกอ่วม 37 ปี ปรับ 7.5 แสน อดีตสาวโรงงานริรวยทางลัด จับมือสาวประเภท 2 ลักลอบจำหน่ายยาบ้า 2 หมื่นเม็ดในนิคมฯบางปู
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา
คดีดำ 6653/51 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติดเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.สาวิตรี มีสวัสดิ์ อายุ 43 ปี อดีตช่างฝีมือแรงงานบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เป็นจำเลยในความผิดฐานมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย
โจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.47 จำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนีและนายสุวิทย์ หรือน้องแอน จิตรีเวช สาวประเภทสอง
ที่ถูกแยกฟ้องเป็นคดีดำที่ 537/2547 ของศาลอาญาร่วมกันจำหน่ายยาบ้าจำนวน 2 หมื่นเม็ด ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้พร้อมนำยาบ้าของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 444/32 ย่านสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ฝ่ายโจทก์มี พ.ต.ต.สุรศักดิ์ ศรีภัทรภา กับ ด.ต.นิคม ภูน้ำเย็น สังกัดกก.สืบสวน บก.ภ.จว.สมุทรปราการ
รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยกับนายสุวิทย์ ร่วมกันรับยาเสพติดจากภาคเหนือแล้วลักลอบจำหน่ายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จึงให้สายลับโทรศัพท์ไปล่อซื้อยาบ้า จำนวนดังกล่าวในราคา 2 แสนบาท โดยจำเลยได้ให้นายสุวิทย์ มาส่งยาบ้าของกลางและเข้าจับกุม
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ปรับ 1 ล้านบาท คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง จึงลดโทษเหลือจำคุก 37 ปี ปรับ 7.5 แสนบาท และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยยื่นฎีกา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่าพยานโจทก์
ซึ่งเป็นประจักษ์พยานเบิกความมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น