แม่น้ำชีแห้งขอดเดินข้ามได้ประชาชนแห่ลงเล่นน้ำคลายร้อนขณะที่ รพ.เตือนโรคตาแดงระบาด วันนี้ ( 31 มี.ค.) ที่แม่น้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม ระหว่างเขตอำเภอเมืองข้ามสะพานไปยังเขตอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม โดยปกติแม่น้ำชีมีน้ำ ลึกถึง 15 เมตรไม่สมารถลงไปเล่นได้ แต่ปัจจุบันแม่น้ำชีได้แห้งขอดจนเห็นสันทรายสามารถ เดินข้ามไปได้ ประกอบกับในช่วงนี้ได้มีอากาศที่ร้อน มากจึงทำให้ประชาชนออกมาเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน และมีชาวบ้านบางกลุ่มลงหาปลา หาหอย เพื่อนำไปขายเพื่อสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว
ขณะที่นายสุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยว่า มนช่วงเดือนมีนาคม 2556 มีผู้ป่วยมารักษาที่เกิดจาโรคตาแดงแล้ว 25 ราย เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีมีอากาศร้อนมาก ทำให้หลายคนได้ไปลงเล่นน้ำคลายร้อยตามที่ต่างๆ อาจเป็นน้ำที่ไม่สะอาด อาจจะเข้าตาทำให้ติดเชื้อ ยิ่งในช่วงนี้แม่น้ำชีที่แห้งขอดอาจจะเป็นน้ำที่ยังไม่สะอาดอาจมีเชื้อโรคปนเปิ้นอยู่ โรงพยาบาลมหาสารคามจึงฝากเตือนประชาชนให้ระวังเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ เสี่ยงที่จะป่วยด้วยอาการเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง โดยปกติผู้ที่ป่วยด้วยโรคตาแดงอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากยังมีอาการเคืองตาเหมือนมีทรายเข้าตา ตามัว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนคือตาดำอักเสบ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และให้การรักษาที่เหมาะสม ที่สำคัญอย่าซื้อยามาหยอดตาเอง โดยเฉพาะยาหยอดตาที่ไม่รู้แหล่งที่มาหรือแหล่งผลิต หรือที่วางขายตามตลาดนัด รวมทั้งไม่ควรทำตามความเชื่อผิดๆ เช่น ใช้น้ำนมหยอดตา เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อถึงขั้นตาบอดได้
สำหรับสาเหตุของโรคตาแดงส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อกันทางการสัมผัสน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย อาการสำคัญคือ ตาแดง อาจมีเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว ตาขาวบวม มีขี้ตาเป็นเมือกใสหรือเหลืองอ่อน น้ำตาไหล เคืองตา และอาจเจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่ข้างหู โดยอาการจะลุกลามจากตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน บางรายอาจมีตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราวได้โรงพยาบาลมหาสารคามจึงขอแนะนำการป้องกันที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงการใช้มือแคะ แกะ เกาหน้า ตา สำหรับผู้ที่กำลังป่วยแนะนำให้หยุดเรียนหรือหยุดงานอย่างน้อย 3 วัน ห้ามใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น