'๗ ปี ร้อยโครงการ' ชาติไหนเสร็จ?
28 March 2556
วันนี้-๒๘ มี.ค.๕๖ สงสัยองศาดาวจะเข้าองศา "โจโรฤกษ์" เพราะที่มาเลย์ ตัวแทนรัฐบาลยิ่งลักษณ์เปิดเจรจาสันติภาพกับคณะโจรปล้น ๓ จังหวัดใต้ ที่กรุงเทพฯ ก็เปิดประชุมสภาฯ ถกเรื่องคณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะปล้นประเทศด้วยกู้เงิน ๒ ล้านล้าน
ดูตามรูปดาวแล้ว การปล้นทั้ง ๒ รายนี้ มีมหาโจรที่มองไม่เห็นหัว-เห็นหาง ตั้งวอร์รูมบัญชาการอยู่นอกประเทศ โดยมี "คนใน" ตำแหน่งใหญ่ ประสานเป็นไส้ศึก ในสภาฯ จะราบ แต่นอกสภาฯ จะสะดุดคนไม่มีตำแหน่งที่เรียกว่า "ประชาชนเต็มขั้น"
๒ ล้านล้าน อาจจะหวาน แต่...หมูหกแน่!
หกยังไง?
หก-เพราะคนในระบบโกงเอามาแบ่งกัน ยกคำว่า "ประเทศต้องพัฒนาด้วยการลงทุนขนาดใหญ่" ขึ้นมาค้ำคอคนทั้งประเทศ ในขณะที่คนในระบบธรรมาภิบาล บอก...ไม่ขัดข้อง เห็นด้วยประเทศต้องพัฒนา
แต่ไม่ควรกู้นอกระบบงบประมาณ ปัจจุบัน...เนื้องานยังไม่ทันเริ่ม แต่กู้เอาเงินอนาคตไปใช้ก่อนจนเกลี้ยง แบบนี้...ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน และมัน...ส่อเจตนาโกง!
๗ ปี กับเงิน ๒ ล้านล้าน มีแต่น้ำลายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผสมน้ำลายนางสาวยิ่งลักษณ์บ้าง นายชัชชาติบ้าง พวกแซมข้างแคมบ้าง ค้ำประกันว่า รับรอง...โปร่งใส ไม่โกง (ถ้าจับไม่ได้!?)
แต่คนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะนายกิตติรัตน์ คนทั้งโลกรู้จักในฐานะ รัฐมนตรีคลังจอมปั้นตัวเลขเศรษฐกิจลวงโลก พอถูกจับได้ก็อ้าง ไม่ได้ลวงโลก...แค่ ไวต์ลาย เท่านั้นเอง!
ดังนั้น การรับประกันว่าโปร่งใส-ไม่โกง รัฐบาลนี้จึงไม่มีทั้งเครดิต ไม่มีทั้งหลักประกันให้ประชาชนซึ่งต้องแบกรับหนี้ยาวนาน ๕๐ ปีเป็นอย่างต่ำได้เชื่อถือ มันเป็นคำพูดที่ไม่มีน้ำหนัก-ไม่มีคุณภาพให้ไว้วางใจในธรรมาภิบาลได้เลย
ยิ่งเปิดหน้าปล้นให้เห็น "กู้ใต้อาณัติทักษิณ" จึงเป็นที่เข้าใจตรงกันว่า ตรรกะธรรมาภิบาลของรัฐบาลทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำก็คือ "โกงเอามาแบ่งปันกัน" นั่น O.K. ยอมรับได้!
ธรรมาภิบาลคืออะไร เห็นพูดกันจัง ก็คือประมาณว่า การบริหาร การจัดการ การควบคุมดูแล ต้องมีความโปร่งใส มีคุณธรรม เสียสละ-อดทน-ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ ต้องตรวจสอบได้ ต้องเคารพในกฎหมาย ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ต้องควบคุม-ดูแลการใช้ทั้งเงิน ทั้งทรัพยากร ทั้งสิ่งของให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และ...ต้องทำได้จริง-เกิดได้จริง-สำเร็จจริง ตามสัญญา!
ผมมีตัวอย่างพิสูจน์ "รัฐบาลพูดได้-แต่ทำไม่ได้" ให้เห็น ก่อนจะเอา สารพัดพูดให้คนหลงเชื่อในเรื่องทำได้ เรื่องไม่โกง แต่พอได้เงินแล้ว ที่สัญญาไว้ ก็ทำไม่ได้ และที่ว่าโปร่งใส นั่นหมายถึง เงินฉิบหายใสๆ โดยไม่มีเนื้องานใดๆ สำเร็จ
โครงการบริหารจัดการน้ำ กู้เร่งด่วน ๓.๕ แสนล้าน เมื่อปี ๒๕๕๕ คือตัวอย่างคาตา และกับเงินกู้ ๒ ล้านล้านปี ๒๕๕๖ นี้ รัฐบาลใช้อยู่ประโยคเดียวกับคนที่ไม่เห็นด้วย
"คนคัดค้าน คือคนขัดขวางความเจริญประเทศชาติ"!
มันก็แนวเดียวกับตอนกู้ ๓.๕ แสนล้านเป๊ะ คือตอนนั้น มีคนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พ.ร.ก.กู้เงินนั้นน่าจะขัดกฎหมาย ก็สร้างวาทกรรมทันที
"ถ้าน้ำท่วมอีก ศาลรัฐธรรมนูญต้องรับผิดชอบ จะมาโทษรัฐบาลไม่ได้"!?
ก็ได้ไปทั้งก้อน ๓.๕ แสนล้าน โดยไม่มีรายละเอียดโครงการอะไรเลย จากวันนั้น ถึงวันนี้ ๑ ปีไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่ามีโครงการไหนคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะ "ทุกโครงการ" ที่พ่นน้ำลายไว้ ยังไม่มีโครงการไหน "เป็นตัว" เลย
TOR คือรายละเอียด ข้อกำหนด สำหรับจัดซื้อ-จัดจ้างโครงการบริหารจัดการน้ำ ๙ โมดูล เพิ่งออก ให้ ๖ กลุ่มบริษัทที่ผ่านเข้ารอบการออกแบบและเสนอแนวคิดในการจัดทำโครงการได้รับรู้-รับทราบว่า มีสเปกแบบไหน-อะไร-อย่างไหนบ้าง ที่ต้องคิด-ต้องออกแบบ
แค่คิด-แค่จินตนาการแบบเท่านั้นนะครับ ยังอีกห่างไกลจะไปถึงขั้นได้เห็นว่า รูปร่าง-หน้าตา สิ่งที่ลงมือทำมันเป็นแบบไหน-อย่างไร?
มันแท้งตั้งแต่เริ่มทับแล้วครับ ไม่เชื่อก็ดู TOR ก็ได้ ถ้า ๖ บริษัทนี้ บริษัทไหนรับเงื่อนไขตาม TOR ครบถ้วน ผมท้าเดิมพันให้เอาสากสวนทวารทักษิณได้เลยว่า การทิ้งงานเหมือนประมูลสร้างโรงพัก เกิดขึ้นล้านเปอร์เซ็นต์!
ดูเฉพาะเงื่อนไขเรื่อง "ที่ดิน" ตามโครงการก็พอ รัฐบาลโยนภาระให้บริษัทผู้รับสัญญาทั้งหมด คือไม่ว่าโครงการไหนผ่านเข้าไปในที่ดินไม่ว่าของรัฐ ของชาวบ้าน หรือผ่านเข้าไปในชุมชนที่อยู่อาศัย บริษัทนั้นๆ ต้องจัดการเองทั้งหมด
รัฐบาลไม่ยุ่ง-ไม่เกี่ยว-ไม่รับผิดชอบ!
ต้องเจรจาเอง ต้องขับไล่เอง ต้องจ่ายค่าชดเชยเอง ต้องเคลื่อนย้าย หาที่อยู่-ที่ทำกินให้เขาใหม่เอง แต่ถ้าตกลงจะซื้อ-จะขายที่ดินเอกชน ซื้อในนามบริษัทไม่ได้ ต้องซื้อในนามรัฐ แต่บริษัทจ่าย ถ้าตกลงซื้อขายกันไม่ได้ รัฐบาลจะออกกฎหมายเวนคืนให้ แต่บริษัทต้องจ่ายค่าเวนคืน
ทั้งหมด "ไม่มีจ่ายเพิ่ม" รวมอยู่ในวงเงินที่ประมูลได้แต่ต้น!?
ดูเหมือนดี เพราะรัฐลอยตัวเหนือปัญหา แต่การ "ได้เปรียบ-เสียเปรียบ" บนทางปฏิบัติที่เสี่ยงต่อความเป็นไปได้ มัน "เสียประโยชน์" ต่อทุกฝ่ายมากกว่า และลงท้าย จะเป็นช่องให้เอา "ประโยชน์ส่วนรวม" ไปเจรจาต่อรองเพื่อ "ประโยชน์เฉพาะบุคคล" ทั้งด้านขยายอายุสัญญา ด้านเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข
พูดชัดๆ ก็คือ เขียนให้ตึงขึงขังตอนแรก แต่เจาะรูเล็กๆ เอาไว้ใน TOR แล้ววันข้างหน้า ก็ใช้รูเล็กนั้นเป็นช่อง...แบบชิน..ชิน!
จากตัวอย่างใน TOR ที่ยกมา ส่อแววปัญหาสู่การทิ้งงาน หรือไม่มีบริษัทไหนกล้ารับงาน รัฐบาลก็รู้ ทุกบริษัทก็รู้ ใครๆ ก็รู้ว่า งานยากสุด...ไม่ใช่งานก่อสร้าง แต่มันคืองานไล่ที่ งานในจุดเสี่ยงถูกต่อต้านจากชาวบ้านในแต่ละพื้นที่!
"ทางด่วน" ในกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ เดิม-จากยมราชผ่าน "บ้านครัว" ลงราชดำริ-ราชประสงค์ จนถึงวันนี้ ร่วม ๓๐ ปีแล้วมั้ง ก็ยังเป็น "ทางด้วน" สร้างไม่ได้ เพราะชุมชนไม่ยอมให้ผ่าน ซื้อก็ไม่ขาย ไล่ก็ไม่ไป เวนคืนก็ไม่ได้
แล้วจะทำอย่างไร...การก่อสร้างโครงการบริหารน้ำ ต้องเจอปัญหาแบบนี้แน่นอน!
ขนาดรัฐบาลยังไม่มีปัญญาเคลียร์ "เอาตัวรอด" โยนเขาพระสุเมรุทั้งลูกให้บริษัทรับเหมา เขาจะเอาน้ำยาอะไรไปเคลียร์ เพื่อเอาพื้นที่มาทำโครงการให้เสร็จได้ตามเวลา-ตามเงื่อนไข?
และที่สำคัญ ขนาดออก TOR แล้ว รัฐบาลเองก็ไม่รู้ว่า โครงการนี้จะต้องใช้พื้นที่ไหนบ้าง พูดตรงๆ คือ ยังไม่รู้ว่าไอ้แผนป้องกันน้ำท่วมนั้นน่ะ มันต้องสร้าง-ต้องทำอะไร ตรงไหนบ้าง?
แล้วแบบนี้ ท่านนายกฯ หญิงที่รัก จำนรรจาให้ชื่นใจหน่อยซิว่า กับอภิมหาโคตรโครงการพัฒนาประเทศด้านขนส่งด้วยวงเงินกู้ก่อนขั้นต้น ๒ ล้านล้านบาทนี้ เมื่อได้เงินไปแล้ว มันจะไม่เป็นแบบเดียวกับโครงการน้ำ ๓.๕ แสนล้าน?
เนี่ย...ไม่กลางปีนี้ หรือไม่ก็ปีหน้า ๕๗ น้ำมาแน่ แต่ไหนล่ะ...ฟลัดเวย์ ไหนล่ะแก้มลิง ไหนล่ะประตูน้ำ ไหนล่ะเขื่อน ไหนล่ะฝาย ไหนล่ะการขุดลอกแม่น้ำลำคลอง
แต่ ๓.๕ แสนล้าน เสร็จไปแล้ว!
เรื่องขนส่ง ไม่ว่ารถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง เรื่องท่าเรือ มันเหนือ-จรดใต้-จรดอีสาน พูดถึงการใช้ที่ดิน การตกลงกับชุมชน การกำหนดเส้นทาง ปัญหามันมาก-มันยุ่งยาก ยิ่งกว่าโครงการน้ำท่วม แล้วบอก ๗ ปีเสร็จ นั่นมันคำนวณเอาจากตัวเองเป็นรัฐบาลพุงกาง ๒ เทอม แล้วถลกตูด
แต่ไม่มีเส้นทางไหนเสร็จ มีแต่ ๒ ล้านล้านที่....เสร็จ (มัน)!
แล้วโครงการจาก พ.ร.บ.ที่ไม่มีรายละเอียดให้รัฐสภาตรวจสอบ วันนี้เขียนสเปกไว้อย่าง ถึงตอนทำก็แก้ไปอีกอย่าง
มันเป็นอย่างนี้แน่ ก็ดูตัวอย่างโครงการ ๓.๕ แสนล้านนี่แหละ กลุ่มบริษัทเขาโวยเห็นไหม
เขาโวยว่า...อะไรกัน เนื้อหา TOR ที่แจกให้ศึกษาตอนแรกก็เป็นอย่างหนึ่ง พอคลอดออกมา กลับเป็นอีกอย่าง เช่น ก่อสร้างแก้มลิงเคยบอกไว้ ๖ หมื่นล้าน ก็ลดเหลือ ๑ หมื่นล้าน และเงื่อนไขบางอย่างไม่เหมาะสม ยากปฏิบัติ ทั้งเรื่องประเด็นระยะเวลา ปัญหาการเวนคืน ค่าปรับถ้าไม่เสร็จตามสัญญา ฯลฯ
แล้วอนาคต โครงการพัฒนาระบบขนส่ง ๒ ล้านล้าน ที่เสนอให้สภาฯ ดูวันนี้ มันก็จะเป็นแบบนี้!
เพราะทักษิณคิด "คนไทยหลอกง่ายฉิบหะ..." แค่เอาสีแดงล่อๆ มันก็ยอมเผาบ้าน-เผาเมือง นี่เหมือนกัน แค่ชูฮับอาเซียน ชูรถไฟความเร็วสูง ก็กระสันเป็นไทยพัฒนากันตัวซี้-ตัวสั่น โดยไม่รู้ว่า "จุดแข็งไทย" ที่ต้องพัฒนาจริงๆ มันอยู่ตรงไหน?
ตื่นกันได้แล้วและตั้งสติ อย่าปล่อยให้มันปล้นเอา "เงินอนาคต" ลูกหลานของเราไปกินต่อหน้า-ต่อตา ๗ ปี กับร้อยโครงการในกระดาษ ๒-๓ แผ่นแลกเงิน ๒ ล้านล้าน เชื่อมันได้อย่างไร
ยิ่งลักษณ์...อย่ามาตายเพราะเรื่องนี้เลย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น