ประชาชนหลายพันคนในสหรัฐ ที่เคยเป็นคนไข้ของคลินิกศัลยกรรมในเมืองทุลซา เข้ารับการตรวจร่างกาย หวั่นติดเชื้อไวรัสเอดส์และตับอักเสบ จากการให้บริการที่ไม่ถูกสุขอนามัย
สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองทุลซา รัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐ เริ่มส่งจดหมายตั้งแต่วันศุกร์ ถึงคนไข้ประมาณ 7,000 คน ที่เคยใช้บริการในคลินิกศัลยกรรมช่องปากและใบหน้า ของ นายแพทย์ ดับเบิลยู. สก๊อต แฮร์ริงตัน ในเมืองทุลซา รัฐโอกลาโฮมา ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ให้เข้าทำการตรวจสุขภาพ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ โรคเอดส์ และเชื้อไวรัสตับอักเสบ จากการให้บริการที่ไม่ถูกสุขอนามัยของคลินิกดังกล่าว โดยข้อมูลขนาดความยาว 1 หน้ากระดาษในจดหมาย ระบุวิธีการและสถานที่ ที่ผู้รับควรเข้ารับการตรวจเช็ค แต่ไม่ชี้แจงรายละเอียดว่าเหตุใดทางการจึงกล่าวหาว่าคลินิกของนายแพทย์แฮร์ริงตันไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
การตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี รวมทั้งไวรัสเอชไอวี สำหรับประชาชนที่ได้รับแจ้งชุดแรกหลายร้อยคน เริ่มต้นเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันเสาร์ แต่หลายคนไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลา ต้องยืนเข้าแถวรอด้านนอกท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขทุลซา เผยว่า ในวันเสาร์มีประชาชนเข้ารับการตรวจ 420 คน ที่ศูนย์สาธารณสุขเขตเหนือ และที่ศูนย์เวลล์เนส การตรวจรอบต่อไปจะเริ่มในตอนเช้าวันจันทร์
รายงานระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการทันตแพทย์รัฐโอกลาโฮมา สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของนายแพทย์แฮร์ริงตัน ซึ่งจะมีการไต่สวนประเด็นนี้ในศาล ในวันที่ 19 เม.ย. หลังจากได้รับการร้องเรียนจากคนไข้ 17 ราย เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในคลินิก รวมถึง การใช้เข็มฉีดยาซ้ำด้วยการเสียบในขวดยา หลังจากใช้เข็มนั้นแล้วกับคนไข้รายอื่นๆ หลายคน มีการตรวจพบยารักษาหมดอายุ ในตู้เก็บยาของคลินิก หรือผู้ช่วยทันตแพทย์เป็นผู้ฉีดยาชาให้คนไข้ แทนที่จะเป็นหน้าที่ของแพทย์ เป็นต้น.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น