วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

รวบสาวปินส์ขนโคเคน3.2กก.ค่ากว่า13ล้านคาสนามบิน เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10มี.ค.2556




รวบสาวปินส์ขนโคเคน3.2กก.ค่ากว่า13ล้านคาสนามบิน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10มี.ค.2556 ที่สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีด้านปราบปราม นายไพศาล ชื่นจิตร ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม นายจำเริญ โพธิยอด ผอ.สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 นายธาดา ชุมไชโย ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 3นายธนิต วัฒน์ธนนันท์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 และนายวุฒิพงศ์ ท้าวฬา รักษาการนายด่านศุลกากรเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส. ปาเกเอต แอน เมอเรย์ โอโลอัน (MS. PAGE-ET ANN MURRAY OLOAN) อายุ 28 ปี สัญชาติ ฟิลิปปินส์ พร้อมของกลางโคคาอีนน้ำหนัก 3.2 กก. มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีด้านปราบปราม กล่าวว่า ตามที่ นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากรและปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปราม ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษกับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติต่างๆที่อยู่ในประเทศ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีหญิงชาวต่างชาติลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศผ่านทาง ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย จึงเฝ้าระวังและพบ น.ส. ปาเกเอต แอน เมอเรย์ โอโลอัน ซึ่งเป็นผู้โดยสาร ของสายการบินสายการบินซิลค์แอร์ เที่ยวบินที่ MI772 ลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้ง จึงขอตรวจค้นกระเป๋า เดินทาง พบโคคาอีนห่อด้วยพลาสติกซุกซ่อนอยู่ในเสื้อหนังสตรีจำนวน2 ตัว และซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก จำนวน 8 ใบ น้ำหนักรวมพลาสติกห่อหุ้มประมาณ 3.2 กก. เจ้าหน้าที่จึงนำไปทำการทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด ผลการทดสอบปรากฏว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ราคาประมาณ 13 ล้านบาท

จากการสอบสวน น.ส.ปาเกเอต แอน เมอเรย์ โอโลอัน ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย ไปขนยาเสพติดเข้าประเทศ โดยตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขายของในร้านสะดวกซื้อ ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีเพื่อนที่เป็นคนสัญชาติเดียวกัน ติดต่อให้มาขนยาเสพติดมาจากเมืองโบโกลต้า ประเทศโคลัมเบีย ก่อนเดินทางด้วยเครื่องบินมายังเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ก่อนแวะเปลี่ยนที่สิงคโปร์ ก่อนจะมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย โดยหลีกเลี่ยงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพราะมีการตรวจจับของเจ้าหน้าที่เข้มข้น ซึ่งครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่2 แล้วโดยครั้งแรกได้ค่าจ้างประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 120,000 บาทไทย และจะได้ค่าจ้างเมื่อส่งของเรียบร้อย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท2(โคคาอีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ จากสถิติในปีงบประมาณ 2556 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555ถึงปัจจุบัน กรมศุลกากรสามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติภูมิภาค ได้ทั้งสิ้น จำนวน 9 คดี มูลค่าประมาณ 102,995,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น