วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประจานสันติภาพลวงโลก โจรใต้คาร์บอมบ์นราฯอีก2จุด ฉีกหน้ารบ. เมื่อ 2 มี.ค.56



ชื่อเรื่อง ประจานสันติภาพลวงโลก โจรใต้คาร์บอมบ์นราฯอีก2จุด ฉีกหน้ารบ.
 ผู้เขียน  -
 แหล่งข่าวหลัก แนวหน้า
 คอลัมน์ข่าว Breaking News
 URL http://www.naewna.com/politic/43398
 เนื้อหา
ประจานสันติภาพลวงโลก
โจรใต้คาร์บอมบ์นราฯอีก2จุด
ฉีกหน้ารบ.

‘ปู’อ้างให้หยุดป่วนทันทีไม่ได้
ปชป.โชว์รูป‘ตอยิบ’แกนนำBRN
เคยถูกจัดฉากออกทีวี.ปาหี่มาแล้ว
สมช.ฟุ้งเตรียมนัดคุยอีก7-8กลุ่ม
แม้ว่าพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพิ่งลงนามในเจตนารมณ์เริ่มต้นสู่สันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีคณะรัฐบาลไทยนำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเพื่อรับทราบการเจรจาแต่เหตุการณ์ความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยก็ยังคงเกิดขึ้นรายวันเช่นเดิม
โดยเมื่อเวลา 05.55 น. วันที่ 1 มีนาคม ร.ต.ท.ฐิติพงษ์ศรีสองเมือง ร้อยเวร สภ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้จักรยานยนต์บอมบ์ทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส ตั้งอยู่บนถนนภูผาภักดี เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงนำเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบพบว่า เพลิงกำลังโหมลุกไหม้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีเทา ทะเบียน ขจต304นราธิวาส ซึ่งเป็นรถคนร้ายใช้ประกอบระเบิด โดยมีรถจักรยานยนต์ที่มาจับจ่ายสินค้าเสียหาย 6คันและมีรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ190นราธิวาส ซึ่งเป็นรถตัดสัญญาณของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจอดอยู่หน้ารถจักรยานยนต์บอมบ์ ถูกสะเก็ดระเบิดเสียหายเล็กน้อย

ฉีกหน้ารบ.วางบึ้มจุดเซฟตี้โซน

จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์บอบม์พบว่า คนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5กก.จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอล แล้วนำไปซุกไว้ในช่องใส่หมวกกันน็อกใต้เบาะนั่ง จากนั้นมีชายวัยรุ่น 1คน ขี่รถไปจอดที่ท้ายรถกระบะเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส33 ซึ่งเป็นรถตัดสัญญาณ เมื่อคนร้ายเดินเข้าไปตลาด 5นาที จึงเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านบาดเจ็บ 6ราย คือ นายสมปอง วุ่นพ่วน บาดเจ็บสาหัส ถูกสะเก็ดระเบิดและไฟลวก นางหทัยชนก แซ่ง่ำ นางอำพร พลานุพัฒน์ นางจันทวี แซ่เล่า นางจิตรา อโณทัย และพลทหารเจษฎา เดชพละ ทั้ง 5รายถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวอาการไม่สาหัสและกล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นจุดพื้นที่เซฟตี้โซนและจุดเกิดเหตุเป็นท้ายรถยนต์กระบะที่นำมาจอดไว้เพื่อตัดสัญญาณไม่ให้กลุ่มคนร้ายนำระเบิดมาก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังอุดช่องโหว่ไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำในพื้นที่เซฟตี้โซนแล้ว
ลูกที่สองบอมบ์ใกล้โรงพักนราฯ
ต่อมา เวลา 12.05น.ร.ต.ท.ศักดิ์ดา ทองนุ่น ร้อยเวรสภ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดหน้าร้านจิบเฮง เลขที่48 ถนนสุริยะประดิษฐ์ ต.บางนาค อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านมินิมาร์ทขนาดเล็ก ตั้งอยู่ตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส(บก.ภ.จ.นราธิวาส) แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จึงนำกำลังตำรวจและทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีขียว ทะเบียน บฉ-9678ยะลา ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายและมีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้มหนัก 50ก.ก.จุดชนวนด้วย 2 ระบบ ทั้งโทรศัพท์มือถือและนาฬิกาปลุกตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ใกล้กันมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน มช-8519กทม.ของชาวบ้านถูกแรงระเบิดเสียหายอีกด้วย
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 1คน ขับรถกระบะคันดังกล่าวโดยภายในรถซุกระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม แฝงตัวมาจอดก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่มีผู้ใดสนใจ เนื่องจากร้านจิบเฮงหยุดกิจการในวันศุกร์ กระทั่งถึงเวลาเที่ยงเศษจึงเกิดระเบิดขึ้น โดยขณะนั้นไม่มีผู้ใดผ่านมา จึงไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดีชุดเดียวกับที่วางรถจักรยานยนต์บอมบ์หน้าตลาดเทศบาลนราธิวาส
วิจารณ์แซ่ดโจรตบหน้ารบ.
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุระจักรยานยนต์บอมบ์และคารืบอมบ์ นายดาโอ๊ะ ของสงวนนามสกุล กล่าวว่า ประชาชนที่ทราบข่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ เนื่องจากทราบว่า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.ได้ไปลงนามกับ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น เมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทั่งมาเกิดเหตุร้านขึ้น ส่วนใหญ่เชื่อว่า บีอาร์เอ็นวางมือ แต่กลุ่มอื่นๆ ยังปฏิเสธ ซึ่งทางตัวแทนไทยอาจไม่ให้ความสำคัญ จึงให้สมาชิกแนวร่วมลอบก่อเหตุเพื่อส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ ด้านเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อแสดงศักยภาพและดิสเครดิตรัฐบาลไทยที่ไปทำสัญญากับกลุ่มบีอาร์เอ็น
ยิงผู้ใหญ่บ้านปัตตานีสาหัส
จากนั้น เวลา 13.30น.พ.ต.ท.โกวิทย์ รัตนโชติ ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิง นายรามัน บือซา อายุ 40ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านตาโล๊ะแมะนา บาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง หลังไปสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายรามัน ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากละหมาดที่มัสยิดภายในหมู่บ้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุห่างจากมัสยิด 100เมตร ได้ถูกคนร้ายใช้รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ โดยคนร้ายที่นั่งท้ายกระบะใช้ปืนอาก้ากราดยิง ก่อนเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ปู”กรรเชียงไม่เกี่ยวการเจรจา
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ออกมาคัดค้านการลงนามเจรจาสันติภาพกับกลุ่มของบีอาร์เอ็น ว่า ต้องขอทำความเข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ ไม่ได้เรียกว่าเป็นการเจรจาใดๆทั้งสิ้น เป็นเริ่มขั้นตอนแรกของการพูดคุยและการที่ได้แถลงเจตนารมณ์ร่วมกันนั้น ยังไม่มีผลผูกพันใดๆ สมมุติว่าเกิดการเจรจาแล้วยังไม่ไปถึงตรงนั้น เราอาจหยุดเท่านี้ก็ได้ แต่ถ้าพูดคุยแล้วดีขึ้น เข้าสู่กระบวนการในการทำงานต่างๆ ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย
แถไม่ใช่โจรจะหยุดป่วนทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเจรจาไปวันที่ 28กุมภาพันธ์ แต่ช่วงเช้าวันที่ 1มีนาคม ยังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ จ.นราธิวาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องของความกรุณาว่า จริงๆแล้วการเริ่มพูดคุยไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการหยุดเหตุได้ทันทีและเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแล เมื่อถามว่า เป็นการตอบโต้หลังลงนามสันติภาพหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ใช่ เท่าที่เช็คเป็นปัญหาในพื้นที่ปกติ เมื่อถามว่า เป็นการรองรับสถานะของบีอาร์เอ็นหรือไม่ นายกฯกล่าวปฎิเสธว่าไม่ใช่ อย่างที่เรียนภาครัฐต้องทำการพูดคุยทุกกลุ่ม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งและการพูดคุยนี้เพื่อที่จะเข้าใจปัญหาที่แท้จริงและหาทางออก ไม่ได้เลือกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
วอนปชป.หยุดโยงเรื่องการเมือง
ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า เป็นการเล่นการเมือง เพราะมาเลเซียกำลังจะมีการเลือกตั้ง จึงนำมาเป็นประเด็นหาเสียง นายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศ ต้องขอความกรุณา ไม่อยากเห็นการตอบโต้ในประเด็นที่มองเป็นเจตนารมณ์อย่างอื่น เจริงๆแล้วเจตนารมณ์นี้ อยากเห็นการแก้ปัญหา เพราะสุดท้ายแล้วรัฐบาลต้องดูแลแก้ปัญหาไม่สงบ
สมช.ยันตัวจริง-รอถกอีก8กลุ่ม
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยถึงการลงนามเพื่อสันติภาพกับกลุ่ม บีอาร์เอ็น ว่า เป็นการลงนามเพื่อแสดงเจนารมณ์ว่า จะมีการพูดคุยเพื่อนำไปสู่ข้อเสนอในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ร่วมกัน ภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย โดยมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก การพบปะพูดคุยครั้งต่อไป จะเกิดขึ้นอีก 2สัปดาห์ เพื่อกำหนดตัวแบบรายละเอียดต่างๆว่า จะเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่และต้องพูดคุยกันกี่ครั้ง แต่มั่นใจว่าการเริ่มต้นเจรจาจะทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นและเชื่อว่ากลุ่มต่างๆที่มีอยู่ 6-8กลุ่ม จะร่วมเจรจาด้วย เพราะแต่ละกลุ่มมีความเชื่อมโยงกัน
เมื่อถามว่า ตัวแทนบีอาร์เอ็นที่ลงนามคือของจริงและมีศักยภาพจริงหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ตรงนี้เป็นกระบวนการของหน่วยข่าวกรองทั้งจากไทยและมาเลเซีย ซึ่ง นายฮาซัน ตอยิบ นั้น ในหน่วยงานข่าวกรองรู้ว่า เขาเป็นใครและเขาเป็นตัวจริงหรือไม่ ฉะนั้นยืนยันว่า เขาเป็นตัวจริง
รอบหน้าไร้“สะแปอิง”เหตุป่วย
ต่อข้อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าภายใน 2สัปดาห์ที่จะหารือจะมี นายสะแปอิง บาซอ และมะแซ อุเซ็ง สองแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เข้าร่วมด้วย พล.ท.ภราดร กล่าวว่า อย่างไรทั้งสองคนก็อยู่ข้างหลังอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ นายสะแปอิง ยังป่วยอยู่
เผย“แม้ว”เจรจาลับก่อนลงนาม
เลขาฯสมช.ยังกล่าวว่าถึงกรณี นายนาจิบ ราซัค นายกฯมาเลเซียระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามาเกี่ยวข้องในการลงนาม ว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะ นายนาจิบและพ.ต.ท.ทักษิณมีความสนิทกันและเป็นการดำเนินการต่อเนื่องมาจากสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯซึ่งรู้สถานการณ์ตรงนี้ดี จึงอยากให้รัฐบาลทำงานได้ จึงเป็นสะพานเชื่อมให้พูดคุยแก้ปัญหาตรงนี้
เชื่อดีขึ้นแน่เพราะBRNใหญ่สุด
เมื่อถามว่า จะป้องกันการก่อเหตุจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับลงนามครั้งนี้อย่างไร เลขาฯสมช.กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เหมือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ชัดเจนว่า เกิดขึ้นจากขบวนการแน่นอน แต่อีกอย่างอาจเป็นเรื่องภัยแทรกซ้อน เช่น ค้าของเถื่อนและยาเสพติด ที่พร้อมผสมเหตุอยู่แล้ว เพราะต้องการไม่ให้พื้นที่เกิดความเรียบร้อย นอกจากนี้ยังอีกหลายกลุ่ม แต่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นคือกลุ่มใหญ่ที่สุด มีครบเครื่อง ทั้งองค์กรนำทางความคิด กองกำลังและแนวร่วม ขณะที่กลุ่มพูโล มีแค่องค์การนำทางความคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบีอาร์เอ็น
บึ้มนราธิวาสอาจโยงปัจจัยอื่น
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจกับการดำเนินการครั้งนี้มากแค่ไหน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า มีความมั่นใจ เพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นมีความกล้าที่ออกมาประกาศเจนารมย์ร่วมกัน รวมทั้งประเทศมาเลเซีย ก็ให้ความร่วมมือและจริงใจช่วยเหลือ จึงเชื่อว่าจะจำกัดการเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดนใต้ได้ ส่วนเหตุระเบิดที่ จ.นราธิวาสที่ นั้นถือเป็นเหตุรายวันที่อาจมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง
“เหลิม”ชูผลงานแม้วรักประเทศ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงนามกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า คงจะรายงานที่ประชุมศปก.กปต.ทราบ มีการเปลี่ยนแนวทางบ้างก็ดี การพูดคุยจะทำให้รู้ความต้องการของแต่ละฝ่าย หากอะไรไม่ดีก็เปลี่ยน อะไรดีก็ทำต่อ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ส่วนที่ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยอมรับว่า ความสำเร็จในการลงนามส่วนหนึ่งเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านช่วย ท่านก็รักประเทศชาติ อยากให้บ้านเมืองสงบและการลงนามครั้งนี้น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี ในส่วนของตนเองก็จะเปิดเจรจา โดยทำร่วมกับแม่ทัพภาคที่4 แต่ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่สำเร็จ ต้องใช้เวลาและคาดว่าน่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้
มาร์คยันเป้าหมายมุ่งการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สมช.ไปลงนามกับบีอาร์เอ็นว่า ตนเป็นห่วง เพราะตอนนี้ทุกอย่างมีลักษณะมุ่งไปทางการเมืองค่อนข้างมาก ทั้งของรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย โดยรัฐบาลไทยแสดงให้เห็นว่า พยายามเดินไปอีกด้านหนึ่ง ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียก็กำลังมีการเลือกตั้ง จึงอยากแสดงบทบาทที่เคยทำให้กับประเทศฟิลิปปินส์มาแล้ว แต่ถ้ามาเลเซียสามารถทำให้ฝ่ายก่อเหตุไม่สงบทั้งหมดมาร่วมพูดในกรอบรัฐธรรมนูญไทยได้จริงก็จะเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเราสนับสนุนเรื่องการพูดคุย แต่ต้องระวังรูปแบบ วิธีการและจังหวะเวลาการเจรจา เพราะถ้าหวังผลการเมืองจะทำให้ไม่สำเร็จและจะสะท้อนกลับได้
ปชป.โชว์รูป“ฮาซัน”เคยต้มคนดู
วันเดียวกัน นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความและภาพบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวข้อความระบุว่า ช่วยกันดูว่า เป็นคนเดียวกันหรือเปล่าครับ เพราะคราวที่แล้วถ้าจำได้ช่วงปี51 เคยออกมาต้ม พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร มาครั้งหนึ่งแล้ว คราวนี้มาต้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือไม่ ฝากช่วยวิเคราะห์กันหน่อย เพราะชื่อก็เหมือนกันและหน้าตาก็คล้ายๆกัน
สำหรับภาพที่ นายศิริโชค โพสต์ไว้บนหน้าเฟซบุ๊กนั้น เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนที่อ้างเป็นแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนออกแถลงการณ์ผ่านทีวีช่อง5 โดยการผลักดันของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เมื่อปี2551 กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28กุมภาพันธ์2556 ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำคณะไปร่วมลงนามกับกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นแกนนำขบวนการบ่งแยกดินแดนอีกเช่นกัน โดยมุ่งเน้นให้เปรียบเทียบภาพใบหน้าของ นายฮาซัน ตอยิบ
ผบ.ทบ.ชี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงการลงนามกับบีอาร์เอ็น ว่า สมช.และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.)และหลายหน่วยงาน ได้ตรวจสอบแล้วตามที่รัฐบาลมอบหมาย โดยมีคณะทำงาน 7-8คณะ ซึ่งฝ่ายนโยบายมองว่า ทำแล้วไม่ผิดฎหมาย ไม่ยกระดับ เพราะคนที่ตัดสินใจต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าดีก็จะยุติในเร็ววันนี้ แต่หลายคนคิดว่า ไม่สามารถแก้ได้ภายใน 1ปี อาจต้องใช้เวลาหลายปี แต่ทุกคนอยากให้จบและมาเลเซียอยากให้จบเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับผู้ก่อเหตุว่า เขาคาดหวังอย่างไร สิ่งไหนที่เรารับไม่ได้ เราก็ไม่รับอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมาเลเซียระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมีส่วนช่วยนำแกนนำบีอาร์เอ็นมาพูดคุยกับไทย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ช่วยๆกันหมด งานแบบนี้ประเทศชาติต้องมาก่อน อะไรที่ทำให้ประชาชนปลอดภัย สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นก็ต้องช่วยกัน ส่วนเรื่องอื่นค่อยไปว่ากัน อย่าเอามาพันกัน
“วันนอร์”ชี้ฝันร้ายจะกลายเป็นดี
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.40น.นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์ นำสมาชิกกลุ่มวาดะห์ทั้ง 9 คน ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา เพื่อช่วยแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้เข้าร่วมประชุมกับร.ต.อ.เฉลิม โดย นายวันนอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าช่วยงานของกลุ่มวาดะห์ ว่า ปัญหาภาคใต้เกิดขึ้นมาหลายสิบปี ก็อยากให้เกิดความสงบขึ้น ซึ่งคงต้องฟัง ร.ต.อ.เฉลิม จะปรึกษาเรื่องอะไร อะไรที่เราพอทราบ อะไรที่เป็นประโยชน์กับการพัฒนาหรือแก้ปัญหาภาคใต้ ก็พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและอยากเรียกร้องทุกฝ่ายมาร่วมมือให้ความคิดเห็นกัน อยากบอกว่าเราทุกข์ยากมานาน และคาดหวังว่าต่อไปปัญหาชายแดนภาคใต้น่าจะดีขึ้น ความจริง ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้ใช้กลุ่มวาดะห์แค่กลุ่มเดียว เพราะมีคณะทำงานภาคใต้ถึง 7-8คณะ เพียงแต่จะเปิดเผย หรือไม่เปิดเผยเท่านั้น
ยันวาดะห์ไม่เกี่ยวเซ็นบีอาร์เอ็น
เมื่อถามว่า หลัง สมช.ลงนามกับกลุ่มบีอาร์เอ็นแล้ว จะลงนามกับกลุ่มอื่นๆอีกหรือไม่ แกนนำกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ สมช.ที่จะเดินหน้าต่อไป กลุ่มวาดะห์ ไม่มีหน้าที่เรื่องนี้ ความจริงการที่ สมช.และรัฐบาลทำนี้ก็เป็นการทำตามนโยบายและกฎหมายการบริหารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้และตามนโยบายของการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ปี2555-2557และความจริงก็ถือเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันเพื่อให้ความสงบเกิดขึ้น
“อารีเพ็ญ”เชื่อบีอาร์เอ็นตัวจริง
ด้าน นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ สมาชิกกลุ่มวาดะห์ กล่าวถึงการลงนามกับบีอาร์เอ็นว่า ความจริงเป็นไปตามนโยบายของทางสภาความมั่นคง ซึ่งเป็นการตกลงกันเบื้องต้นว่า จะพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอัสซัน ตอยิบ ใช่ตัวจริงในกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า ตนว่าขนาดมาเลเซียที่มีคนสำคัญมาร่วมเป็นสักขีพยานและสมช.เรา ก็เป็นหน่วยงานใหญ่ ดังนั้นการที่จะไปเจรจา หรือลงนามกันโดยไม่รู้เรื่องเลย คงเป็นไปไม่ได้และคนที่มาเป็นสักขีพยานในมาเลเซียก็เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอยู่ด้วย
หนุนใช้พรบ.มั่นคง6อำเภอ3จว.
ต่อมา พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา สมาชิกกลุ่มวาดะห์ กล่าวหลังประชุม ว่า ทางกลุ่มสนับสนุนให้ใช้ พรบ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แทน พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นสิ่งที่ต้องเร่งทำอย่างยิ่ง โดยใช้ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยเกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ค่อยมีปัญหา 6อำเภอ แบ่งเป็น จ.ยะลา ได้แก่ อ.เบตง กาบังและอ.ธารโต ส่วน จ.ปัตตานี คือ อ.ไม้แก่น ขณะที่ จ.นราธิวาส คือ อ.สุคิรินทร์และอ.แว้ง ซึ่งทางกลุ่มฯคิดว่าวันที่ 19มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน น่าจะเป็นวันที่เริ่มนำ พรบ.ความมั่นคงฯมาใช้ในพื้นที่เหล่านี้แทน โดยเลขาธิการ สมช.และบุคคลอื่นที่ร่วมประชุมก็แสดงความเห็นด้วย
สมช.เตรียมคุยอีก4กลุ่ม
ด้านนายนัจมุดดีน อูมา หนึ่งในแกนนำกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า หลังจากนี้น่าจะมีอีก 3-4 กลุ่มมาพูดคุยกับรัฐต่อไป เช่น กลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต กลุ่มบีอาร์เอ็น คองเกรส กลุ่มพลูโลใหม่ และเก่า มีทั้งที่อยู่ในพื้นที่ และต่างพื้นที่ ทางกองทัพภาคที่ 4 มีข้อมูลดีอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ สมช.ที่จะไปพูดคุยด้วย
กต.เชิญทูตานุทูต50ปท.ชี้แจง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันเดียวนี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญคณะทูตานุทูต และตัวแทนองค์การระหว่างประเทศ ประมาณ 50 ประเทศมาเข้ารับฟังชี้แจงถึงประเด็นการประกาศความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้เกิดความสงบสุข โดยให้ลงนามความร่วมมือใน กระบวนการพูดคุย เพื่อสันติภาพ ระหว่างสมช.ไทย-มาเลเซีย และหัวหน้าฝ่ายกระบวนการกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยมีมาเลเซีย เป็นฝ่ายอำนวยความสะดวก จึงต้องเชิญคณะทูตมารับฟังชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง รวมทั้งเหตุการณ์ชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สังคมโลก ได้เข้าใจ
 ภาพประกอบ [1]
 วันที่เผยแพร่ 2 มี.ค. 2556
 วันที่บันทึกข้อมูล 2 มี.ค. 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น