วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

'เล่นไม่เป็น' : คอลัมน์ล้วงตับสุดสัปดาห์ : โดย...สิงห์สนามข่าว เมื่อ 10 มี.ค.56




'เล่นไม่เป็น' : ล้วงตับสุดสัปดาห์

'เล่นไม่เป็น' : คอลัมน์ล้วงตับสุดสัปดาห์ : โดย...สิงห์สนามข่าว

                ยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ Line (ไลน์) วอทส์แอพ นักข่าว นักการเมือง ไม่ว่า ส.ส. รัฐมนตรี หรือแม้แต่นายกฯ ก็ไม่เว้น ต้องเล่นกันทั้งนั้น
                โดยเฉพาะ Line กำลังเป็นแอพพลิเคชั่นยอดฮิตในหมู่วัยรุ่น เพราะใช้ได้ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ในการส่งข้อความ ใครไม่เล่น จะโดนเพื่อนล้อว่า "ตกยุค"
                แต่...ต้องมีข้อยกเว้น กับคนนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “สุชน ชาลีเครือ" แม้จะมีอุปกรณ์ไอทีเพียบ ทั้งไอโฟน ไอแพด สารพัดจะมีเจ้าตัวยอมรับหน้าจ๋อยๆๆ “ผมมีเหมือนกัน แต่ผมเล่นไม่เป็น"
                เจ้าตัวแอบกระซิบว่า "หลังบ้านผมซิ สุดยอด เรียกว่า เซียนไลน์ตัวแม่ กันเลยทีเดียว ไม่รู้อะไร เล่นทั้งวันมีข้อความส่งมากว่า 700 ข้อความ แบบว่า ฮอตสุดๆ ยิ่งตอน 5 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาไพร์ไทม์ของภรรยาสุดที่รักเลย เพราะเสียงข้อความจากไลน์ที่ส่งมาอย่างพึ่บพั่บๆ ขึ้นแบบ วินาทีต่อวินาทีเลยทีเดียว ครั้นจะบอก “ศรีภรรยา” ว่า ให้หยุดเล่นก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกไล่ให้ไปนอนกับเจ้า “ถุงเงิน ถุงทอง" ละแย่แน่ๆ"
                "เสี่ยสุชน" บอกว่า แม้จะเล่น ไลน์ ไม่เป็น ส่งกลับไม่เป็น แต่อย่างน้อยก็เปิดอ่านได้ 5555 เรื่องพวกนี้ “ผมขอบายครับ จะบอกว่า ไม่อินเทรนด์ก็ยอมรับ แต่เรื่องอื่นบ่ยั่น" พร้อมโฆษณาตัวเองเลย อย่างน้อยที่ผมทำได้คือ "มหาวิทยาลัยอิสเทิร์น ได้มอบปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ในฐานะนักบริหารรัฐกิจ และทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติให้แก่ผม"
                แหมๆๆๆ.."เสี่ยสุชน" โยงกันมาได้นะเนี่ย...55555
                            
“อาย”
                ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา หลายคนหลายฝ่ายต่างหน้าแตกไปตามๆ กัน ตั้งแต่สำนักโพลล์ต่างๆ ที่ฟันธงตั้งแต่ปิดหีบลงคะแนนว่า "พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ" จะเข้าวิน
                มาจนถึง "พรรคเพื่อไทย" ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อของการทำโพลล์เหมือนกัน ก็ยังถึงกับอึ้งกิมกี่ เมื่อโพลล์ที่ทำมาล่วงหน้าหลายต่อหลายครั้ง ต่างฟันธงตรงกันว่า คะแนนของ "พล.ต.อ.พงศพัศ" ทิ้งห่างคู่แข่งขึ้นเรื่อยๆ
                แต่เอาเข้าจริงกลับเป็น "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ที่คว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ไปครองได้เป็นสมัยที่ 2 แถมยังทำลายสถิติเดิมที่ "สมัคร สุนทรเวช" เคยทำเอาไว้อีกด้วย งานนี้เซียนการเมืองถึงกับมึนกันเป็นทิวแถว
                ไม่เว้นแม้แต่ขุนศึกฝั่งธนฯ อย่าง “อาเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เดิมพันด้วยการไม่ให้สัมภาษณ์ถึง 7 วันหาก "พล.ต.อ.พงศพัศ" พ่ายแพ้เลยทีเดียว
                ในที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่จะถกเถียงกันยกใหญ่ถึงความพลิกล็อกที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนเสียงส่วนใหญ่จะยังคงยืนยันว่า "ทำเต็มที่แล้ว"
                แต่ไฮไลท์ดูจะอยู่ที่ “อาเหลิม” เพราะขนาดขุนศึกฝั่งธนฯ ยังถึงกับออกปากกลางที่ประชุมพรรคว่า “อยากย้ายบ้านหนี แต่มันติดตรงที่เสาบ้านมันสั้น” เรียกเสียงฮาจากที่ประชุมที่กำลังเคร่งเครียดได้ไม่น้อย
                ก็แหม! ขนาด “อาเหลิม” ยังเอ่ยปากว่าอายนี่นะ แล้วบรรดาผู้รับผิดชอบ การันตีเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า งานนี้เข้าวินแน่นอน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันมั่งแล้ว
              
"เหนื่อยนะ...เป็นคนกลางปรองดอง"
                ใครที่คิดว่า เป็นคนกลาง.. เชิญคู่ขัดแย้งมาคุย เพื่อสงบศึก เป็นของง่าย ขอบอกว่า คิดผิด!!
                เพราะกว่าจะฝ่าด่าน.. ได้ข้อสรุปลงตัว คงปาดเหงื่อ - เสียเครดิตไปมากโข
                ไม่เชื่อก็ลองถาม “รองตี๋น้อย" เจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาคนที่ 1 ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลาง เชิญฝ่ายขัดแย้งมาเจรจา เพื่อเป้าหมายความปรองดองของคนในชาติ
                ภารกิจที่ตั้งเป้าว่ายากยิ่งแล้ว... แต่กระบวนการ ขั้นตอน ยิ่งยากกว่า
                โดยเฉพาะ..การพาคู่เจรจามาป๊ะหน้าสื่อมวลชน เพื่อแถลงไข ยืนยันไม่มีอะไรแอบแฝงใต้โต๊ะ
                แหล่งข่าว..กับนักข่าว เป็นของคู่กัน... โดยเฉพาะ “ทีวี” ที่มีเวลาให้เท่าไร จะพูดจ้อไม่หยุด
                บางครั้งทำเอา.. “รองเจริญ” ถึงขั้นแอบปาดเหงื่อ เนื่องจากคู่เจรจาเล่นยื่นเงื่อนไขผ่านสื่อ แทนที่จะเปิดเผยแค่หลักการ
                วันก่อนกระจิบข่าวถูก “รองเจริญ” บ่น ว่า ให้สัมภาษณ์น้อยๆ หน่อย ถนนปรองดอง จะกลายเป็นทางลูกรังแล้ว แล้วเช็ดเหงื่อไปพราง
                คิดจะทำการใหญ่...ก็เหนื่อยแบบนี้แหละค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น