วันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน 2556
ม็อบเคยชนะรัฐบาลมั๊ย ถ้าเราจำได้ ตั้งแต่ปี 49 ไม่เคยมี จะลองไล่เรียงให้ดู
1. รัฐบาลทักษิณ พันธมิตรขับไล่ ใกล้จะไปไม่ไปแหล่ 19 กันยา 49 รัฐประหาร โดย คมช. 2. รัฐบาลสม้คร พันธมิตรเข้าไปยึดทำเนียบ อยู่กันยาว สุดท้าย ศาลรัีฐธรรมนูญตัดสินว่านายกขาดคุณสมบัติ เพราะไปรับจ้างทำกับข้าว 3. รัฐบาลสมชาย เป็นรัฐบาลที่อาภัพ ไม่เคยเข้าไปทำงานที่ทำเนียบ เพราะัพันธมิตรยังชุมนุมต่อเนื่อง ใช้รัฐตำรวจเป็นเครื่องมือปราบประชาชนจนถึงขนาดบาดเจ็บ พิการ มีตาย เมื่อ 7 ตุลา 51 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน 4. รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 52 มากันใหญ่ม็อบเสื้อแดง แต่ไปไม่รอด เจอแผนกระสุนปลอม กระชับพื้นที่ จนต้องยอมแพ้ 5. รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 53 ม็อบเสื้อแดงมาอีกที คราวนี้จัดเต็ม ขนผู้เฒ่าผู้แก่ ชักชวนจิ๊กโก๋บ้านนอกมาป่วน ปิดราชประสงค์ สาดเลือด ฆ่าทหาร บุกโรงพยาบาล ยิงวัดพระแก้ว กากเกลื่อนเถื่อนถ่อยสถุล กะให้เกิดสงครามกลางเมือง แล้วก็โดนสลายการชุมนุม สูญเสีย จบลงด้วยการเผาบ้านเผาเมือง แม้จะเกือบชนะ สุดท้ายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด
ไปดูที่ความผิดที่ทำ ทักษิณอ้างว่าผัวเซ็นต์เมียซื้อ แต่ผัวติดคุก ที่จริงทักษิณกลับมากราบแผ่นดิน ประกันตัว สู้คดี แต่เมื่อรู้สู้ไม่ได้ ก็หนีออกจากประเทศ อ้างไปดูกีฬา โดยการเอื้ออาทรของหนูแก่ถั่งเช่าตัวนั้น ทั้งๆที่กฎหมายในส่วนวิธีพิจารณานั้น กำหนดไว้ให้อุทธรณ์ได้ ถ้ามีหลักฐานใหม่ แต่ทักษิณกับภรรยา เลือกที่จะหนี เพราะทำผิดจริงๆ เซ็นต์จริง ปฎิบัติตามข้อห้ามของกฎหมายที่ระบุไว้ทุกประการ สถานภาพทักษิณ ตอนนี้คืออดีตนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงอยู่ในฐานะนักโทษหนีคุก
ยุบพรรคไทยรักไทย ไปดูที่ความผิดของพลเอกธรรมรักษ์ ศาลอาญาได้ตัดสินแล้ว ยุบพรรคพลังประชาชน หลักฐานจะแจ้งที่ยุทธ ตู้เย็น ดิ้นไม่หลุด แล้วม็อบมาคราวนี้ จะไล่รัฐบาลนอมินีได้มั๊ย? เมื่อหลายเดือนก่อน ทักษิณเคยสไกป์มา ตามนี้
“...ตอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปพูดเวทีประชาธิปไตยที่มองโกเลีย หลายคนออกมาเต้นกันใหญ่ การไปพูดบนเวที ประชาธิปไตยต้องพูดความจริง จะโกหกได้อย่างไร ตอนปฏิวัติคนถูกปล้นคือตน ตอนนี้นายตำรวจแก่ๆ ที่กระเด็นมาจากวัง และอดีตรองอธิการฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ขายจิตวิญญาณ เกาะอำนาจเผด็จการ มาตั้งไทยสปริง จะเลียนแบบอาหรับสปริง แต่นี่ไทยปลิง จะเอาเผด็จการมาไล่ประชาธิปไตย มันไม่ใช่บัวบาน เป็นบัวใต้น้ำ เป็นปลิงดูดเลือดประเทศไทย...”
นั่นคือ ความหวาดกลัวของทักษิณครับ มี 2 คำ 2 คีย์เวิลด์ที่ชัดเจน และถ้าตีความแตก แล้วทำได้บรรลุผล ทักษิณก็เหมือนหมาตัวหนึ่งเท่านั้น คือ 1. ความจริง 2. ความชอบธรรม
ม็อบที่น่ากลัวที่สุดคือม็อบ คปท. ที่อยู่เชิงสะพานมัฆวาน ไม่ใช่กลัวที่ลุยสู้กัน แต่น่ากลัวตรงกึ๋นของนักกฎหมายที่เป็นแกนนำ ที่ค่อยๆคิด ค่อยๆ ทำ ไม่ชัวส์ ไม่เสี่ยง แต่ถ้าจะทำต้องเห็นผล ตรงนี้ จับทางยาก รัฐบาลไม่กล้าสลาย ถ้าสลาย เป็นเรื่อง
แต่ม็อบจำนวนมากที่สุด และเพิ่มจำนวนได้เรื่อยๆคือม็อบราชดำเนิน ตอนนี้ยังปักหลักอย่างเหนียวแน่น รอวันดีเดย์คือวันที่ 11 ม็อบที่นี่จะมีพวกคนดัง เหล่าเซเลป ดารามีชื่อเสียงเข้ามาร่วมทุกวัน ซึ่งธรรรมดา พวกนี้ จะนิ่งๆอยู่ในที่ตั้ง ถามว่า ทำไม พวกเขาต้องออกมา เงินจ้างเขาไม่ได้ แต่ใจสั่งมา และที่น่ายินดีที่สุด คือคนไทยตื่นรู้ เข้าใจ รู้เช่นเห็นชาติรัฐบาลนางยิ่งลักษณ์ ภายใต้การบงการของนักโทษชาย ที่ออกมาในกรุงเทพอย่างคับคั่ง มากมาย มหาศาล ที่สีลม อโศก ราชประสงค์ ความเห็นของนักวิชาการที่คัดค้าน คนชั้นนำต่างพากันออกมา ตามสถานการศึกษา หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งต่างจังหวัด ที่สำคัญแดนแดงแท้ๆก็ิออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเชื้อเร่งชั้นดีที่ทำให้รัฐบาลอยู่ยาก
ทางออกของรัฐบาลนี้ เป็นเช่นไร ยุบสภาเหรอ เดี๋ยวก็กลับมาใหม่ แม้จะไม่เท่าเดิม มาทำเรื่องสุดแสนบัดซบต่อไป ลาออกเหรอ อยากเห็นเจ๊แดงเป็นนายก ยังสะอิดสะเอียนไม่พอหรือ และอาจแย่กว่านั้นถ้าเฉลิมมาเป็นก่อนตาย เห็นรอส้มหล่นอยู่แล้ว มีทางเดียว ขุดรากต้องถอนถึงโคน ต้องล้มล้างระบอบทักษิณ ทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่นิรโทษยกเข่ง แต่ต้องเนรเทศยกโคตร
ก็ม็อบไม่เคยชนะได้ แล้วม็อบไล่ระบอบทักษิณจะชนะมั๊ย?
ทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาลครับ เคยทำดีบ้างมั๊ย หรือว่าทำชั่ว ทำเลว เป็นอาจินต์ จนสามัญสำนึกของคนไทยตกผลึกจนถึงจุดแยกแยะได้ ทำแล้ว ทำอีก ย้ำอยู่อย่างนั้น ประชาชนเห็นยิ่งรังเกียจ ยิ่งชิงชัง โดยเฉพาะการจัดม็อบมาชน ถือว่า ทักษิณแอนด์เดอะแ๊ก๊งค์ เดินเกมส์ผิดมหันต์ เพราะเลือดเข้าตา หรือโง่ ก็ไม่ทราบ ถ้าในวันพรุ่งนี้ 10 พฤศจิกา 56 ม็อบแดงปลุกไม่ขึ้น ระบอบทักษิณก็มีอาการปางตาย ใกล้อวสานแล้ว แล้วส่วนม็อบที่ขับไล่ ถ้านำความจริงเสนอ สร้างความชอบธรรมแก่ตนเอง จนเผยแพร่ไปทั่วโลกได้ ไม่มีแพ้ครับ
11/11/56 นี้ เวลา 18.000 น. ที่ราชดำเนิน ถ้าเกิดสปริงได้ มันก็ไป แล้วถ้ามันไม่ไป ก้ต้องไล่กันต่อ คนดีอยู่กับคนชั่ว จะได้หรือ ทุกวันนี้ บ้านเมืองเพราะใคร ตระกูลไหน ทำให้ไทยเป็นเช่นนี้ แตกแยกกัน เหมือนอยู่คนละเขตแดน ใครทำบ้านเมืองฉิบหายวางป่วง จากประชานิยมลวงโลก ใครเอ่ยบริหารประเทศ ด้วยคำโกหก โป้ปด ปากอย่าง ใจอย่าง อำมหิต ใจดำกับแผ่นดินที่อาศัยเกิด
เมื่อครั้งก่อนกรุงแตกครั้งที่สอง ขุนรองปลัดชู ได้เคยกล่าวไว้ ที่อ่างทอง เมืองหน้าด่าน ปลุกหัวใจคนไทยในรุ่นนั้น ในขณะทัพพม่ากำลังบุกประชิดติดดเมืองหลวงเต็มทีแล้ว
"แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ....อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง........"
ม็อบนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งแรก เริ่มเมื่อ 16 ตุลาคม 2516 ณ วันนี้ เริ่มสู่กึ่งศตวรรษแล้ว ถามใจคนไทยรุ่นนี้ จะอยู่เฉยกันอีกต่อไปหรือ ถ้าเช่นนั้น ระวัง เขาจะเอาโซ่ตรวนมาพันธนาการเรา แล้วสักกลางหน้าผากว่า"ขี้ข้าทักษิณ"อะไรจะเกิด ย่อมเป็นไป จะเหนี่ยว จะรั้ง อย่างไร ก็ไม่เป็นผล คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต สู้ๆครับ ชัยชนะต้องเป็นของประชาชน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น