"ชินวรณ์ " ซัด "ปู" เป็นแค่หุ่นเชิด อัด คนทั่วปท.ออกมาขับไล่ อยู่ต่อไปมีแต่จะสร้างความเดือดร้อน
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. พรรค ปชป. ซัด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นแค่หุ่นเชิด พูดอย่างทำอย่าง เอาแต่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง คนทั่วประเทศต่างออกมาขับไล่ ชี้อยู่ต่อไปประเทศจะมีแต่ความเดือดร้อน
วันนี้(26พ.ย.56) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่คนออกมาขับไล่มากที่สุดในประเทศไทย ออกมาตั้งแต่เด็กอนุบาล จนถึงมหาวิทยาลัย โดย ตลอด 2 ปี 4 เดือน ที่บริหารราชการแผ่นดินมา ไม่ได้ทำตามนโยบายที่แถลงประกาศไว้ พูดอย่างทำอย่าง ไม่ได้พูดหรือทำตามที่ตัวเองคิด เป็นนายกที่หนีการตรวจสอบ ไม่ให้ความสำคัญกับสภา และวางแผนครอบงำวุฒิสภา ที่สำคัญได้เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ต่างตอบแทน โดยแต่งตั้งบุคคลที่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจของครอบครัวมาเป็นรัฐมนตรี อาทิ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม รวมทั้งนางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ จึงเป็นมหกรรมเครือข่ายระบบทักษิณ หากปล่อยให้อยู่ต่อไปแก็งค์นี้จะทำมหาทุจริต นอกจากนี้นายกฯ เป็นแค่นายกฯ หุ่นเชิด เป็นตัวปลอม เพราะการบริหารเป็นเรื่องนายใหญ่ ขณะที่การโยกย้ายแต่งตั้งที่จะเป็นเรื่องบ้านใหญ่ ส่วนเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องเจ๊ใหญ่
ทั้งนี้ภายหลังนายชินวรณ์ อภิปรายเสร็จ ปรากฏว่า รัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงลุกขึ้นชี้แจงโดยปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องต่างตอบแทน โดยนางเบญจา ชี้แจงประเด็นการเข้าไปเป็นกรรมการในบริษัทปตท.และธนาคารกรุงไทย ว่า ไปในฐานะผู้แทนกระทรวงการคลัง ขณะนั้นมีรัฐมนตรีคลัง ชื่อว่านายกรณ์ จาติกวณิช ขณะที่นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ดุลพินิจแต่งตั้งรัฐมนตรี ตามคุณสมบัติและความสามารถ ตนผ่านประสบการณ์บริหารงานมากว่า 40 ปี นายกฯ เห็นผลงานจนนำมาสู่การร่วมเป็นรัฐมนตรีรัฐบาลชุดนี้ โดยการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่เหลืออีก 6 คนนายกฯ ก็ใช้มาตรฐานนี้เช่นกัน ด้านนายชัยเกษม กล่าวว่า การสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องคดีในฐานะอดีตอัยการสูงสุดเป็นไปตามกฎหมายสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งทั้งมีการสั่งฟ้องและไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และขอเรียกร้องให้เลิกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทุจริตคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดได้แล้ว เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยกฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด
ขณะที่ นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเคยผ่านงานกระทรวงสาธารณสุขในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักคอมพิวเตอร์และจบการศึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากต่างประเทศ โดยเข้ามาทำงานกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะศรัทธาการทำงานของนายกฯ ที่สำคัญปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องและได้ลาออกจากบริษัทของครอบครัวแล้วจึงถือว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น