วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กทม.ยัน25พย. ม็อบคืนพื้นที่ ชี้ล้านคน ต้องใช้ที่ ขนาดไหนวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 08:34 น. ข่าวสดออนไลน์



วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 08:34 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


กทม.ยัน25พย. ม็อบคืนพื้นที่ ชี้ล้านคน ต้องใช้ที่ ขนาดไหน

กทม.ยัน ม็อบคืนพื้นที่ 25 พ.ย. รัฐบาลอนุมัติเพิ่มสวัสดิการ ตร.คุมม็อบ "บิ๊กแจ๊ด" เช็กวงจรปิดปาระเบิดปิงปองใส่ตร. พบ 3 ชายผู้ต้องสงสัย ศอ.รส.ย้ำยังเฝ้าระวังมือที่ 3 ก่อเหตุรุนแรง แรมโบ้อ้าง "อส.ทพ." แฉแผนขนสไนเปอร์ ม็อบ ปชป.โต้ทันควันใส่ร้ายป้ายสี "วัชระ เพชรทอง" เป่านกหวีดป่วนสภา พ่อแตงโมแจ้ง สน.โคกคราม พร้อมนำภาพวงจรปิดมือสาดน้ำกรดใส่รถมาเป็นหลักฐาน ข้อมูลกรมการปกครองชัด ชุมนุมล้านคน เท่ากับคนทั้งจังหวัด



รบ.เพิ่มสวัสดิการให้ตร.คุมม็อบ



เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ ฐานะรองโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เปิดเผยว่า สรุปภาพรวมการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ว่า ยังชุมนุมอยู่ 3 จุด คือ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสะพานมัฆวานรังสรรค์ รวมถึงยังชุมนุมในพื้นที่ต่างจังหวัดควบคู่กันไป โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.ได้กำชับให้เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย. เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยเน้นตั้งจุดเข้มแข็ง จุดตรวจจุดสกัด ควบคุมการนำอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายไม่ให้เข้ามาในพื้นที่



พ.ต.อ.หญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร ฐานะรองโฆษกศอ.รส. กล่าวว่า เพื่อเป็นการดูแลสวัสดิการด้านอาหารและความเป็นอยู่ รวมถึงเป็นขวัญและกำลังใจให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ จึงขออนุมัติปรับค่าใช้จ่าย โดยรัฐบาลอนุมัติค่าอาหารเหมาจ่ายจากเดิมคนละ 200 บาทต่อวัน เป็น 300 บาทต่อวัน และค่าตอบแทนคนละ 300 บาท เป็น 400 บาทต่อวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.เป็นต้นไป



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 6 ร.พ.ตร. ซึ่งจ.ส.ต.กฤษณะ มังคลา ผบ.หมู่.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พักรักษาอาการบาดเจ็บจากระเบิดปิงปอง ที่ปาเข้ามาบริเวณแนวป้องกันสะพานมัฆวานฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อาทิ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ทยอยกันเข้าเยี่ยมอาการ



พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร. กล่าวถึงอาการของจ.ส.ต. กฤษณะว่า มีบาดแผลตามร่างกายเล็กน้อย ผลทดสอบการได้ยินเสียงสูงเสื่อมไปมาก ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการได้ยินเสียงระเบิด หลังจากนี้ต้องทดสอบการได้ยินเป็นระยะๆ และให้ยารักษา คาดว่าจะต้องพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน



ได้ภาพ 3 มือขว้างระเบิดปิงปอง



พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวถึงสถานการณ์ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินว่า ยังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยแนวทางการขอคืนพื้นที่จะเป็นไปในทางใดนั้น ล่าสุดยังไม่เรียบร้อย ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งตั้งแต่บริเวณแยกผ่านฟ้าไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นพื้นที่อยู่ในพื้นที่ประกาศแต่ไม่มีข้อบังคับ ส่วนตั้งแต่บริเวณแยกจปร.ถึงแยกมัฆวานฯ ยังมีการบังคับใช้ทางกฎหมายพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ส่วนมาตรการดำเนินการจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ขอประเมินสรุปสถานการณ์ต่างๆ สักระยะ ซึ่งแผนงานของรัฐบาลออกมาแล้วว่าจำเป็นต้องใช้พื้นที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ และสื่อมวลชนก็เห็นแล้วว่า การชุมนุมไม่จำเป็นจะต้องใช้บริเวณพื้นที่จนถึงสะพานมัฆวานฯ เพราะตั้งเวทีที่ตั้งอยู่บริเวณแยกจปร. และปกติมีผู้ชุมนุมอยู่ประมาณ 300-500 คน ส่วนการปาระเบิดปิงปองใส่ตำรวจ เชื่อว่าแกนนำ ผู้ชุมนุมไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ แต่เมื่อท่านเป็นแกนนำผู้ชุมนุมรับผิดชอบ จะควบคุมอย่างไร โชคดีที่เหตุร้ายเกิดขึ้นกับตำรวจ แต่ถ้าไปเกิดขึ้นกับประชาชนที่มาชุมนุมคงจะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้



ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ระเบิดที่ถูกขว้างมามีลักษณะคล้ายระเบิดปิงปองผูกติดกับก้อนหินโยนเข้ามา การตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าแนวแบริเออร์ของตำรวจ พบผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อ เหตุ ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์เรื่องมือที่สามที่จะเข้ามา สร้างสถานการณ์ก่อเหตุความวุ่นวาย โดยได้สั่งการกำชับให้ใช้ความระมัดระวัง ยืนยันว่าตำรวจทำตามหน้าที่เฝ้าระวังจุดที่ตั้ง และ จะไม่มีการเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเด็ดขาด ซึ่งโดยภาพรวบทั้งหมดนั้นตำรวจ มีขวัญกำลังใจดี



แรมโบ้อ้างอส.ทพ.แฉขนอาวุธ



ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ นำนายเต้ย จักราช อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) กองร้อยทหารพรานที่ 42 จ.สงขลา ที่อ้างข้อมูลว่า พบการขนอาวุธสไนเปอร์ให้กับแกนนำ ผู้ชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แถลงข่าวต่อสื่อ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินประกบเพื่อคอยดูแลความปลอดภัย



นายสุภรณ์กล่าวว่า หลังจากที่เปิดเผยเรื่องนี้ได้รายงานข้อมูลให้ฝ่ายความมั่นคง รับทราบและได้สอบปากคำและบันทึกปากคำอส.ทพ.เต้ย นอกจากนั้นได้ทำหนังสือลับที่สุดอย่างเป็นทางการไปถึงเลขาฯสมช.และผบ.ตร. เพื่อช่วยประสานไปกองทัพให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอย้ำว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มิเช่นนั้นคงไม่กล้าเปิดเผยพยานหลักฐาน หากเป็นการใส่ร้าย ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ในภายหลังหากกล่าวหาเลื่อนลอย แต่ตนเห็นว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ จึงต้องการเปิดเผยให้สังคมรับทราบ แต่ถ้าไม่เปิดเผยแล้วมีคนล้มตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาข้อเท็จจริง และสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือ ร.ต.จักรภพ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างประชุมเตรียมการขนอาวุธ และเห็นนายเต้ยถูกซ้อม อาจจะถูกเล่นงานจึงประสานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยดูแลความปลอดภัย เช่นเดียวกัน



ทหารพรานบอกมีสไนเปอร์



ด้านนายเต้ยเปิดเผยว่า บุคคลที่อยู่ในห้องประชุมในวันที่ 11-12 พ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยข้าราชการ 4 คนแต่งเครื่องแบบทหารยศพันตรี 2 คนและบุคคลภายนอก 3 คน ซึ่งตนไม่เคยเห็นหน้า แต่ทราบจากเพื่อนว่าเป็นนายทุนอยู่ที่จ.ตรัง รวม 7 คน และยืนยันว่า ได้ขนลังไฟเบอร์ 7 ลัง ภายในมีปืนสไนเปอร์ เคแท็ค เอ็ม 200 บรรจุลังละ 1 กระบอก ไปไว้ภายในห้องประชุมด้วยตัวเอง และน่าจะ ขนย้ายในช่วงดึก ส่วนสาเหตุที่ถูกซ้อมเพราะหลังจากขนลังได้พูดคุยโทรศัพท์กับแม่ จึงมีคนเรียกตนพร้อมกับหมวดเข้าไปในห้องประชุม และมีการซ้อมโดยเตะชายโครงของตน ซึ่งตนรู้สึกไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ที่เข้าไปเสิร์ฟน้ำในวันที่ 11 พ.ย. ที่มีการสนทนาว่า จะหาอาวุธไปให้ "นายหัวเทพ"



"ผมยืนยันว่า การมาเปิดเผยเรื่องนี้ เป็นความจริง ไม่มีใครจ้างอะไรเลย ผมทำเพื่อประเทศชาติ เพราะไม่อยากเห็นใครตายอีก อยากให้บ้านเมืองสงบสุข จึงเสี่ยงที่จะออกมาให้ข้อมูล และหลังจากนี้มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความปลอดภัยกับผมได้ และก่อนที่จะมาเป็นอส.ทพ. ผมไม่เคยเป็นการ์ดนปช. หรืออยู่ในกลุ่มเสื้อแดง และไม่เคยขึ้นมาในกรุงเทพฯ" นายเต้ยกล่าว



เลขาฯสมช.ชี้เป็นแค่พยานบุคคล



พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเต้ย ว่า การให้ปากคำทำให้ได้ข้อมูลในทางการข่าวพอสมควรว่าเกิดความไม่ปกติขึ้นในการ ชุมนุม แต่ขณะนี้คงไม่สามารถขยายผลถึงบุคคลอื่น หรือ "นายหัวเทพ" ซึ่งนายเต้ยกล่าวอ้างถึง และยังไม่สามารถออกหมายค้นหรือออกหมายจับใครได้ เพราะมีแต่พยานบุคคลยังไม่พบพยานหลักฐาน



เมื่อถามว่าจำเป็น ต้องประสานกองทัพเพื่อขอข้อมูลต้นสังกัดของอส.ทพ. หรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะไม่สามารถได้ข้อมูลอะไรไปมากกว่านี้ได้ สำหรับการประกาศชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ฝ่ายความมั่นคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกแซง



ด้านพล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงนายเต้ย จักราช อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ว่า จากที่พูดคุยและตรวจสอบต้นสังกัดกรมทหารพรานที่ 42 แล้วไม่พบว่า มีอาสาสมัครทหารพรานชื่อนายเต้ย หรือนายจักราช สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพูดกันไปเอง และทำให้เกิดความเสียหาย ขอยืนยันว่านายเต้ยไม่ได้เป็นทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 42 และไม่มีทหารจากกองทัพภาคที่ 4 คนใดนำอาวุธปืนเข้าไปในที่ชุมนุม เพื่อสนับสนุนฝ่ายใด



ส.ส.ปชป.เป่านกหวีดป่วนสภา



ที่ ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกฯ สั่งให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน มาดูแลการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า ตนยังทำหน้าที่ดูแลการชุมนุมเหมือนเดิม แต่ร.ต.อ.เฉลิมมาช่วยกัน เพราะมีชุมนุมอยู่หลายจุด



ที่ รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดถึงแนวนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการควบคุมการชุมนุมต่อต้าน รัฐบาล เพราะทราบมาว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น จนต้องตั้งร.ต.อ.เฉลิมเข้ามาดูแล ที่สำคัญถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกลอบทำร้ายขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ



ด้าน พล.ต.อ.ประชาชี้แจงว่า รัฐบาลเคารพสิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนอย่างสูงสุด รวมทั้งการเป่านกหวีดก็ไม่ได้ห้าม แต่การเป่านกหวีดถ้าไปรบกวนใครก็มีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีฐานก่อความรำคาญเดือด ร้อน มีความผิดลหุโทษเท่านั้นไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง



จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิมใช้สิทธิ์พาดพิงตอบ โต้นายวัชระว่า ไม่เคยได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลให้ไปดูแลการชุมนุม แต่มีการหารือกับพล.ต.อ.ประชา ที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปแทรกแซง ดังนั้น การกล่าวหาแบบนี้เรียกว่าปัญญาทึบ ทำให้นายวัชระประท้วงให้ถอนคำว่า "ปัญญาทึบ" แม้ร.ต.อ.เฉลิมยอมถอนแต่นายวัชระยังแสดงความไม่พอใจด้วยการเป่านกหวีดและ ตะโกนส่งเสียงในห้องประชุมสภา จนส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องอภิปรายเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควบคุมการ ทำหน้าที่ของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ด้วย



พ่อแตงโมแจ้งความแล้ว



เวลา 12.30 น. นายโสภณ พัชรวีระพงษ์ อายุ 65 ปี ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนภูมิภาค พ่อของนักแสดงสาวชื่อดัง "แตงโม ภัทรธิดา" เดินทางเข้าแจ้งความพร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้ ร.ต.ท.กิตติ ดวงนิมิตร พงส.สน.โคกคราม กรณีกระโปรงหน้ารถมีรอยคล้ายถูกน้ำกรดสาด โดยระบุว่า บุตรสาวเป็นผู้พบในเวลา 23.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ขณะรถจอดอยู่ตรงข้ามบ้านพัก ในหมู่บ้านกลางเมือง ซอยประเสริฐมนูกิจ 25 เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดพบผู้ต้องสงสัย 1 คน สวมหมวกกันน็อก ใส่เสื้อแขนยาว ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในหมู่บ้านตอนประมาณ 22.00 น. ก่อนสาดน้ำกรดใส่กระโปรงหน้ารถ แล้วขี่หลบหนีไป ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 2 นาที



"รถคันนี้ผม ซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับแตงโมเมื่อต้นปี แต่แตงโมใช้ได้แค่ 2 เดือนก็มาขอแลกรถกับผม เนื่องจากรถมีเพียง 2 ประตู และแตงโมมีเพื่อนเยอะทำให้เข้าออกลำบาก ทั้งนี้ เชื่อว่ามูลเหตุของการสาดน้ำกรดในครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาทาง การเมือง เพราะครอบครัวผมไม่มีความ ขัดแย้งกับใคร" นายสมชายกล่าว



กทม.ยันม็อบคืนพื้นที่ 25 พ.ย.



ที่ กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช โดยมีนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกทม. นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม



นาง นินนาทกล่าวว่า การจัดงานในกรุง เทพฯ ได้ประสานเบื้องต้นไปถึงแกนนำ ผู้ชุมนุม ได้รับคำตอบว่าจะสามารถให้พื้นที่กับ กทม.ได้ภายในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งน่าจะทันกับการเตรียมงานให้สมพระเกียรติ



พล.ต.ท.คำรณ วิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคืนพื้นที่ให้จัดงาน 5 ธันวาฯ ว่า ตนว่าไม่จำเป็นต้องประสานเพราะเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนชาวไทยต้องสำนึก อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดเตือนกันหรือขอพื้นที่ทุกคนน่าจะตระหนักกันดีอยู่แล้ว



ชี้ล้านคนต้องยกจังหวัดมาชุมนุม



วัน เดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. ตอบคำถามสื่อฯ กรณีที่วิทยุจุฬาฯ ออกอากาศเมื่อเช้านี้ ต่อข้อสงสัยการนับจำนวนผู้ร่วมชุมนุมฯ ในแต่ละครั้งว่า ตนได้เคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง การนับตัวเลขนับตามทางวิทยาศาสตร์ นับตามพื้นที่และดูภาพทั้งภาคพื้นดิน พื้นที่ทุกส่วน อย่างเช่นในห้องนี้จะคำนวณเป็นตารางเมตร คือ 10 คูณ 6 จะได้พื้นที่ทั้งสิ้น 60 ตารางเมตร ถ้าคนยืนกันแบบเต็มที่เลยน่าจะได้ไม่เกิน 180 คน แต่ถ้ายืนแบบหลวมๆ ก็อาจจะหายไปครึ่งหนึ่ง อยู่ที่ประมาณ 100 คน ถ้าเป็นการนั่งในห้องก็ตรรกะเป็นระยะความห่าง หลักวิทยาศาสตร์ ทั่วโลกใช้วิธีแบบนี้เหมือนกันหมด ดังนั้น การจะบอกตัวเลข 1 แสน สองหมื่น สามหมื่นคนนั้นก็มาจากตรงนี้ ส่วนใครจะเชื่อถือหรือไม่อย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละฝ่าย แต่วิธีการนับก็เป็นแบบที่อธิบายนี้ ในส่วนของตำรวจนครบาล สันติบาล บก.สืบสวน จะแยกกันนับ แล้วก็มาตรวจสอบข้อมูลกัน



ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า ส่วนการคำนวณพื้นที่ตามหลักของสถาปนิก พบว่าลานพระบรมรูปทรงม้ามีพื้นที่ 80 คูณ 300 เมตรเท่ากับ 24,000 ตารางเมตร จากลานพระบรมรูปฯ ถึงสะพานมัฆวานฯ มีเนื้อที่ 550 คูณ 45 เมตร เท่ากับ 24,750 ตร.ม. จากสะพานมัฆวานฯ ถึงสะพานผ่านฟ้ามีเนื้อที่ 875 คูณ 50 เมตร เท่ากับ 43,750 ตร.ม. จากสะพานผ่านพิภพฯ ถึงสะพานผ่านฟ้าฯ มีเนื้อที่ 1,300 คูณ 50 เมตร เท่ากับ 65,000 ตร.ม. รวมแล้วมีพื้นที่ทั้งหมด 157,500 ตร.ม. ซึ่งตามหลักสถาปนิกคนหนึ่งคนจะใช้พื้นที่ 1.5 ตร.ม. ดังนั้นรวมกันแล้วจะสามารถจุคนได้ประมาณ 105,000 คน แต่ถ้าใช้หลักการคำนวณพื้นที่ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คิดเป็น 1 ตร.ม.ต่อผู้ชุมนุม 3 คน พื้นที่ 157,500 ตร.ม. จะสามารถจุคนอย่างแออัดได้ 472,500 คน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจฐานข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาด ไทย ในปี 2555 พบว่าจังหวัดที่มีประชากรน้อยกว่า 1 ล้านคนมีหลายจังหวัด อาทิ กระบี่ 444,967 คน ตรัง 631,920 คน ประจวบคีรีขันธ์ 517,050 คน โดยระนองมีประชากรน้อยที่สุด 182,648 คน ส่วนจังหวัดที่มีประมาณ 1 ล้านคน มีอยู่หลายจังหวัด อาทิ สุราษฎร์ธานี 1,023,288 คน ปทุมธานี 1,033,837 คน นคร สวรรค์ 1,073,347 คน และ เพชรบูรณ์ 993,702 คน ฉะนั้นถ้าทางแกนนำม็อบราช ดำเนินต้องการระดมคนให้ครบล้านคนจะต้องยกคนทั้งจังหวัดดังกล่าวไปอยู่ที่ ถ.ราชดำเนิน



ม็อบปชป.โวยแรมโบ้ใส่ร้าย



ที่ เวทีชุมนุมคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ในช่วงเช้ามี ผู้ชุมนุมเหลืออยู่ประมาณ 250-300 คน ที่ยังคงพักค้างอยู่ในเต็นท์ โดยไม่มีแกนนำหลักอยู่บริเวณเวทีแต่อย่างใด แต่ยังปิดเส้นทาง การจราจรอยู่ ทำให้นักเรียนที่โรงเรียนตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ชุมนุมต้องลงจากรถโดยสารก่อน ป้ายหน้าโรงเรียน หรือลงจากรถที่ผู้ปกครองมาส่ง เป็นระยะทางกว่า 500-600 เมตร เพื่อเดินเข้าเรียนในเวลา 08.00 น. เพราะการจราจรติดขัดมาก



นาย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกของกลุ่มต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.นี้จะเป็นการแสดงพลังของประชาชน และถ้าหากมีมวลชนเกินล้านจะเริ่มกระบวนการขจัดระบอบทักษิณให้หมดไปภายใน 29 พ.ย.นี้ หรืออาจดำเนินการให้เสร็จภายใน 24 พ.ย.นี้ก็เป็นได้ ที่ผ่านมามีความพยายามในการสกัดกั้น และปล่อยข่าวให้ร้ายผู้ชุมนุมมาโดยตลอด โดยเฉพาะนายสุภรณ์ที่ระบุว่ามีการวางแผนขนอาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม นั้น ขอยืนยันว่าไม่มี และไม่อยากให้นำพฤติกรรมของคนคนนี้มาใช้ เพราะเป็นบุคคลที่ชอบมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น หากมีหลักฐานก็สามารถขอเข้าตรวจสอบได้ตลอด แต่ต้องแสดงตัวให้ถูกต้อง อย่ามาพูดใส่ร้ายเพียงอย่างเดียว



นายเอกนัฏยังให้สัมภาษณ์ อีกครั้งว่า ยืนยันว่าการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นั้นไม่ได้เป็นการชุมนุมวันสุดท้าย แต่เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อล้มระบอบทักษิณให้ได้ภายในวันที่ 30 พ.ย. โดยมั่นใจว่าการชุมนุมของประชาชนจะไม่กระทบต่อการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษาแต่ อย่างใด



เวลา 18.00 น. ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมากขึ้น โดยมีผู้ชุมนุมประมาณ 1,300 คน ขณะที่บนเวทีเป็นการแสดงดนตรีสลับการปราศรัยของบุคคลต่างๆ ที่มาร่วมชุมนุม



เทือกชวนคนออกมาชุมนุม



จาก นั้นเวลา 20.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุว่า กรณีที่นายสุภรณ์นำอส.ทพ.มาอ้างว่าพบแผนขนอาวุธมาทำร้ายผู้ชุมนุม ชี้เป็นแผนปล่อยข่าวทำลายกันซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมกันในวันที่ 24 พ.ย.ให้ได้ล้านคน



รายงาน ข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ที่เวทีชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีผู้ชุมนุม 3,500 คน ที่เวทีชุมนุมกลุ่มกปท. และกองทัพธรรม บริเวณแยกผ่านฟ้าฯ มีผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน เวทีชุมนุมของกลุ่มคปท. เเยกมัฆวานฯ มีผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น