วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลาวลากคอ 20 จนท.ขึ้นศาลโกง 83 ล้านบาท ไล่ออกจากพรรคอีกระนาว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤศจิกายน 2556 23:48 น.

ลาวลากคอ 20 จนท.ขึ้นศาลโกง 83 ล้านบาท ไล่ออกจากพรรคอีกระนาว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์22 พฤศจิกายน 2556 23:48 น.

ลาวลากคอ 20 จนท.ขึ้นศาลโกง 83 ล้านบาท ไล่ออกจากพรรคอีกระนาว

ดร.เวียงทอง สีพันดอน (ซ้าย) ประธานคณะกรรมการตรวจตรารัฐบาล กับ ดร.บุนทอง จิตมะนี กรมการเมือง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบพรรครัฐซึ่งเป็น 2 หน่วยงานในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐและภายในพรรค ได้เซ็นเอกสารความร่วมมือเมื่อต้นเดือน พ.ย.นี้ ดร.เวียงทอง เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเงิน ได้รับแต่งตั้งจากสภาแห่งชาติในเดือน ก.ค.2555 ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าวและสร้างผลงานในกรณีทุจริตแขวงหัวพันขณะนี้ ลาวอยู่อันดับที่ 160 จากทั้งหมด 174 ประเทศใน "ดัชนีคอร์รัปชั่น" ที่จัดโดยองค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว. -- ภาพ: กองทัพประชาชนชนลาว.
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- อัยการประชาชนลาวสอบพบเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาและการเงินในแขวงหัวพันจำนวน 20 คน มีความผิดฐานร่วมกันยักยอกเงิน 21,000 ล้านกีบ (อัตราแลกเปลี่ยน 252.22 กีบ/บาท) และทั้งหมดจะถูกนำขึ้นไต่สวนในศาลเร็วๆ นี้ สื่อของทางการรายงาน 
      
       เหตุเกิดเมื่อปีที่แล้วซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจตราประจำแขวง (จังหวัด) ภาคเหนือได้เปิดเผยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการสอบสวนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจำนวน 58 รายฐานต้องสงสัยสมคบคิดกินฉ้อโกงผันเงินงบประมาณของรัฐไปใช้ประโยชน์ส่วนตนกับหมู่คณะ สำนักข่าวสารปะเทดลาวกล่าว
      
       ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทม์สรายงานอ้างการเปิดเผยของนายคำผิว วงสะหวัน รองเลขาธิการพรรคสาขาแขวงหัวพันว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 58 คนจะถูกลงโทษทางวินัยในความผิดต่างๆ กัน
      
       "มี 25 คนจาก 58 คนถูกไล่ออกจาก (การเป็นสมาชิก) พรรคและไม่มีการเลื่อนขั้นตำแหน่งใดๆ จำนวนที่เหลือถูกไล่ออกจากตำแหน่งหน้าที่ปัจจุบันและให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ต่ำลง" นายคำผิวกล่าวโดยไม่ได้อธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับระดับชั้นและตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ถูกลงโทษ
      
       อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่ 2 รายเสียชีวิตลงก่อนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประจำจังหวัดจะตรวจพบการฉ้อโกง อีกคนหนึ่งถูกจับก่อนหน้านี้ฐานค้ายาเสพติด นายคำผิวกล่าว
      
       การฉ้อโกงเกิดขึ้นในแขนงที่เกี่ยวกับการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเงินเดือนและเงินช่วยเหลือค่าครองชีพสำหรับเจ้าหน้าที่ในระดับเมือง (อำเภอ) และแผนกการศึกษาแขวง รวมทั้งครูที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลด้วย
      
       เจ้าหน้าที่ตรวจตราได้ตรวจพบความแตกต่างกันระหว่างเงินที่สำนักงานการศึกษาของแขวงรายงานกับเงินงบประมาณในส่วนนี้และจำนวนเงินที่ใช้จ่ายจริง นอกจากนั้นก็ยังตรวจพบความผิดปรกติเกี่ยวกับชั่วโมงสอนที่บันทึกกับจำนวนครูผู้สอนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรับเงินเดือนกับเงินค่าตอบแทนต่างๆ
      
       “นี่เป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงครั้งใหญ่ในแขวงของเราที่ตรวจพบเมื่อปีที่แล้วและเราจะทำงานให้หนักยิ่งขึ้นเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมมิชอบแบบนี้” นายคำผิวกล่าวกับเวียงจันทน์ไทมส์
      
       ในจำนวนเงิน 21,000 ล้านกีบที่ถูกฉ้อโกงไปนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบสามารถติดตามคืนได้แล้วจำนวน 9,000 ล้านจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และได้นำกลับเข้าสู่ระบบงบประมาณ ขณะนี้ยังคงติดตามเงินจำนวนที่เหลือต่อไป
      
       กรณีในแขวงหัวพันนี้นับเป็นการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศคอมมิวนิสต์ลาว อย่างน้อยก็เท่าที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อของรัฐ
      
       ในการประชุมใหญ่ครั้งมี่ 98 ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวต้นปี 2554 พรรคการเมืองพรรคเดียวนี้ได้ออกข้อมติที่จะป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในหมู่เจ้าหน้าท่าของรัฐอย่างเด็ดขาด
      
       ในระบบของลาวในปัจจุบันมี 2 หน่วยงานสำคัญที่เป็นหัวหอกในการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งได้แก่องค์การตรวจตรารัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยงานเทียบเท่ากระทรวง กับคณะกรรมการตรวจสอบพรรครัฐ หน่วยงานในสังกัดคณะกรรมการกลางพรรคที่มีกรมการเมืองพรรคผู้หนึ่งเป็นประธาน
      
       ลาวอยู่ในอันดับที่ 160 จากทั้งหมด 174 ประเทศในบัญชี "ดัชนีคอร์รัปชั่น" ประจำปี 2555 ที่จัดโดยองค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International) ตกลงไป 6 อันดับจากปี 2554 ซึ่งมีความหมายว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวงในลาวย่ำแย่ลงอีกเมื่อปีที่แล้ว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น