วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

'สะแปอิง-มะแซ'หลังม่านเจรจา ป่วนหนักกดดันรับเงื่อนไข5ข้อ เมื่อ 3 ก.ค.56



'สะแปอิง-มะแซ'หลังม่านเจรจา ป่วนหนักกดดันรับเงื่อนไข5ข้อ
 
  ในการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นกับตัวแทนรัฐบาลไทยตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา

 ยังมีคำถามกันอยู่ว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำการเจรจาของกลุ่มบีอาร์เอ็น มีอำนาจสั่งการกลุ่มขบวนการได้หรือไม่ เพียงใด
ที่สำคัญ คือ สองแกนนำตัวจริงที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง คือ นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อุเซ็ง รับรองการเจรจาครั้งนี้หรือไม่ และแกนนำทั้งสองคนมีบทบาทแค่ไหน อย่างไร ในการเจรจา เพราะหากการเจรจาครั้งนี้ไม่ได้รับรองจากแกนนำที่มีอำนาจสั่งการ และความน่าเชื่อถือจากแกนนำในพื้นที่จริง ปลายทางแห่งสันติภาพคงยากที่จะปรากฏให้เห็นในเร็ววัน

 แหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้การันตีว่า การเจรจาครั้งนี้ ทั้งนายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้ที่อยู่ "เบื้องหลัง" การเจรจาจริง รวมทั้งยังอยู่เบื้องหลังการสั่งการให้ก่อเหตุรุนแรงรายวันในพื้นที่ด้วย

 อย่างไรก็ตาม ทั้งสองได้เก็บงำความลับเกี่ยวกับสถานที่กบดานอยู่ในชั้นลับสุดยอด โดยมีข่าวมา 2 ทาง ทางหนึ่ง คือ หลบหนีอยู่ภายในประเทศมาเลเซีย และอีกทางหนึ่ง มีข่าวว่าทั้งสองพำนักอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย

 สำหรับการสั่งการของแกนนำทั้งสองคนจะกระทำผ่านมายังผู้นำกองกำลังทหารที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่ ปัจจุบันมีแกนนำคนสำคัญ 2 คน คือ นายรุสดี ยี่งอ และนายอิสมาแอ ระยะหลง ซึ่งเป็นแกนนำหลักทางการทหาร โดยมีหน้าที่สั่งการต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายปฏิบัติการ และเตรียมกำลังเพื่อก่อเหตุรุนแรง

  ภารกิจหลักในปัจจุบันของกองกำลังในพื้นที่จะเน้นหนักไปที่การโจมตีฐาน ปฏิบัติการของทหาร และตำรวจ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม และเป็นจุดอ่อน

 ส่วนสาเหตุที่แกนนำทั้งสองรายยังคงสั่งการให้กองกำลังในพื้นที่พุ่งเป้าโจม ตีเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ แม้จะมีการเผยแพร่ข้อตกลงเรื่องการลดการก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือน "รอมฎอน" ทางหน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่า เป็นปฏิบัติการตอบโต้ และกดดันรัฐบาลไทยที่ไม่ยอมรับ 5 ข้อเสนอหลักที่นำเสนอโดย นายฮัสซัน ตอยิบ ลงในเว็บไซต์ยูทูบ

 โดยเฉพาะข้อเสนอหลักเรื่องการถอนกำลังทหาร-ตำรวจ ข้อเสนอเรื่องการปลดหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มขบวนการ และข้อเสนอเรื่องการขอ "ปกครองตนเอง"

 เมื่อรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ ทั้งยังไม่ยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐสภา ลงนามรับรองข้อเสนออย่างเป็นทางการ ดังนั้น การก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้ และกดดันท่าทีของฝ่ายรัฐบาลไทยจึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และเชื่อว่า ในเดือนรอมฎอนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป สถานการณ์ความรุนแรงก็จะไม่ลดลงอย่างที่รัฐบาลไทยคาดหวังอย่างแน่นอน

การข่าวของฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนว่า ในช่วงนี้แกนนำหลักทั้งสองคนได้สั่งการให้กองกำลังในพื้นที่เตรียมก่อเหตุ รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้า หมายใน จ.นราธิวาส ที่ อ.บาเจาะ และอ.ศรีสาคร ใน จ.ยะลา ที่ อ.ยะหา และอ.บันนังสตา และใน จ.ปัตตานี ที่ อ.หนองจิก และอ.ยะรัง

 ทั้งนี้ สำหรับบทบาทการสั่งการอยู่เบื้องหลังการเจรจาครั้งที่ผ่านๆ มา ทั้งนายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้สั่งการ และกำหนดเกมผ่านตัวเปิด คือ นายฮัสซัน ซึ่งประเด็นในการเจรจาทั้งหมดจะถูกกำหนดโดยแกนนำทั้งสองคนมาแล้วทั้งหมด รวมทั้งการออกมาชิงการนำ และกดดันรัฐบาลผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หลังตัวแทนรัฐบาลไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ 5 ข้อที่นำเสนอบนโต๊ะเจรจา

 นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ยอมรับว่า การพูดคุยระหว่างสมช.กับบีอาร์เอ็น ทางนายสะแปอิง และนายมะแซ เป็นผู้คัดเลือกบุคคลเข้ามาเจรจาทั้งหมด รวมทั้งเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ส่งสัญญาณมาให้รัฐบาลไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดคำแปล เพื่อชี้แจงมายังรัฐบาลอีกครั้ง

ขณะที่เป้าหมายของบีอาร์เอ็นยังวางไว้สูง และไม่ลดระดับลงจากการสถาปนา "รัฐปัตตานี" และ หากสามารถเดินไปสู่บันไดขั้นที่ 7 คือ แบ่งแยกดินแดน หรือปกครองตนเองได้สำเร็จ ทางกลุ่มบีอาร์เอ็นก็เตรียมที่จะแบ่งเค้ก ฟอร์มทีม "คณะผู้ปกครอง" ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความกระอักกระอ่วนใจของฝ่ายไทยที่เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ลำบากเช่นทุกวันนี้
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


เปิดปูม "สะแปอิง บาซอ"

"นายสะแปอิง บาซอ" มีฐานะตำแหน่งเป็นถึง "ครูใหญ่" แห่ง "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ"  ซึ่งเปิดสอนถึงขั้นอนุปริญญา ภายใต้การบริหารของ "นายสะแปอิง บาซอ" ชาวตำบลเมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี อดีตกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา

 สำหรับ "นายสะแปอิง บาซอ" จบการศึกษาด้านศาสนาจากเมืองมาดีนะห์ แห่งซาอุดีอาระเบีย ในยุคก่อนที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย จะปรับปรุงระบบการเรียนการสอนทางด้านศาสนา ด้วยการหันไปยึดแนวทางของวาฮาบี

 "นายสะแปอิง บาซอ" เป็นแกนนำสำคัญของ "ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น โคออดิเนต" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้หลายครั้ง

 นี่คือภาพลักษณ์ของ "โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ" และบทบาทของ "นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นำพาโรงเรียนนี้สู่ความรุ่งเรือง เป็นบทบาทของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่วันนี้ถูกยกระดับให้แกนนำคนสำคัญของขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดน ภาคใต้

 เป็นแกนนำสำคัญระดับที่หน่วยงานของรัฐไทยเชื่อว่า ชายชื่อ "นายสะแปอิง บาซอ" ผู้นี้ คือ ว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปัตตานี

มะแซ อุเซ็ง

  นายมะแซ อุเซ็ง มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 33/1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทั้งนี้ นายมะแซเคยรับราชการเป็นทหารเกณฑ์ ในค่ายเสนาณรงค์ สังกัด ร้อย.5 พัน.1 ระหว่างรับราชการทหารมีส่วนร่วมในการปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) ในระหว่างปี 2522-2525 โดยนายมะแซมีประวัติการฝึกการก่อวินาศกรรม และการรบแบบกองโจรจากโรงเรียนนายร้อยประเทศลิเบีย

จากนั้นในปี 2547 เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นปืนค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายมะแซ ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง พบแผนการปฏิบัติการ 7 ขั้นตอนเพื่อการสถาปนารัฐปัตตานี และเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบีอาร์เอ็น

อย่างไรก็ตาม นายมะแซสามารถหลบหนีไปได้ โดยหลบหนีข้ามแดนไปยังมาเลเซีย โดยการช่วยเหลือของ นายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ประธานขบวนการมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี และเชื่อว่า เป็นผู้สั่งการกองกำลังกลุ่มบีอาร์เอ็น เพื่อก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จนกระทั่งปัจจุบัน
ทีมข่าวความมั่นคง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น