ปปง.ยันตรวจสอบพยานหลักฐานกว่า 80 เปอร์เซ็นพบหลวงปู่เณรคำกับพวกเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
2 ก.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง.ฝ่ายปฏิบัติการ เพื่อให้ถ้อยคำ พร้อมนำเอกสารสำคัญประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมต่างๆมายื่นให้ทางปปง.
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อให้ข้อมูล และเอกสารเพิ่ม หลังจากที่เคยมายื่นแล้ว ได้ไปสอบถามผู้มีความรู้เกี่ยวกับการสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ของหลวงปู่เณรคำ ที่ระบุว่ามูลค่าประมาณ 2,500ล้านบาท ทั้งที่จริงสร้างด้วย ผงเรซินผสมหินสีเขียว มูลค่าจริงน่าจะไม่เกิน 30ล้านบาทเท่านั้น รวมทั้งตรวจสอบทองคำแท่งที่รับบริจาค น้ำหนัก 8,000 กก. มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท ว่าอยู่ที่ใด ส่วนกรณีการขอรับบริจาคเพื่อสร้าง โรงพยาบาลที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อสอบถามกับผู้อำนวยการ พบว่ายังไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ความจริงต้องมีการขออนุญาตก่อน มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน ยอดเงินรวมต้องชัดเจน นอกจากมายื่นที่ ปปง. แล้วยังได้ให้ บก.ป. ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆอีก รวมทั้งพี่น้องของหลวงปู่เณรคำ ที่มีทั้งหมด 5 คน หลวงปู่เณรคำเป็นบุตรคนที่ 4 และญาติพี่น้องมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ บางคนมีบ้านราคา 20ล้านบาท รถหรูหลายคัน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะเดินทางไปที่ บก.ป. วันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ค. ) เวลา 11.00 น. ซึ่งทาง บก.ป. จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญอีกด้วย
ด้านร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ เผยว่า ข้อมูลเอกสารที่มายื่นเพิ่มเติมวันนี้มีประโยชน์ ชัดเจนมากขึ้น โดยจะเก็บรวบรวมกับที่เคยมายื่นไปแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวน เบื้องต้นพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ 70 – 80 เปอร์เซ็น เข้าข่ายฉ้อโกง แต่ยังไม่ระบุชัดว่าผิดจริง ซึ่งต้องตรวจสอบข้อมูลที่น่าสงสัยว่าจะมีการหมุนเวียนเงิน ทั้งบัญชีของหลวงปู่เณรคำ วัด และผู้เกี่ยวข้อง มูลค่าเกือบ 200ล้านบาท ตามที่ยื่นมารวม 16 บัญชี ตรวจไปแล้ว 10 บัญชี และจะมีการตรวจสอบเพิ่มกับบัญชีอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนการอายัดทรัพย์สินต้องมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. วันที่ 19 ก.ค. นี้ และประสานข้อมูลกับ บก.ป. ซึ่งจะทราบผลหลังจากนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริงทาง ปปง. จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น