|
|
โฆษก ปชป.เอือมพฤติกรรม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” กลืนน้ำลายตัวเอง ไม่สั่งตรวจสอบคลิปเสียงฉาว “นช.แม้ว-ยุทธศักดิ์” จี้ทำตามสัจจะที่ให้ไว้กับสังคม อย่าโยน “บิ๊กอ๊อด” เป็นแพะรับบาป พร้อมเรียกร้องคงราคาจำนำข้าวที่ 1.5 หมื่นบาทตลอดอายุรัฐบาล อย่าผลักภาระให้ชาวนา ลดเหลือ 1.35 หมื่นบาท เหตุปัญหาคือการทุจริตที่ต้องจัดการ ซัด “ปลอดประสพ” ลักไก่ประชาพิจารณ์ เขื่อนยมบน-ยมล่าง หวังเลี่ยง รธน.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเอือมระอาต่อพฤติกรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของตนในเรื่องการเปิดเผยผลตรวจสอบคลิปสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม โดยเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ปฏิบัติตามคำพูดทั้งที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีและเคยระบุว่าจะให้หน่วยงานตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าว แต่กลับกลืนน้ำลายตัวเองโดยไม่ได้ทำอะไรเลย รวมถึงการตอบคำถามเพื่อให้ความกระจ่างกับสังคมด้วย จึงขอยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเดินหน้าทำในสิ่งที่ให้สัจจะต่อสังคมไว้
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยกดดันให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ออกจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม ยิ่งทำให้ตนแปลกใจว่าจะกดดันทำไมหากไม่ใช่เรื่องจริงและถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ คนเดียวเพราะเป็นบทสนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเกี่ยวพันถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย หากจะต้องมีคนรับผิดชอบต่อบทสนทนาดังกล่าว ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ดังนั้น นายกฯ จะต้องมีคำตอบให้กับสังคม ไม่ใช่การจับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นแพะเท่านั้น เพราะการปลด พล.อ.ยุทธศักดิ์ไม่ได้หมายถึงว่าการจะใช้สภากลาโหมช่วย พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยจะไม่ใช่เรื่องจริง และไม่ได้หมายถึงว่าแผนการที่จะใช้สถาบันมาเป็นเครื่องมือช่วย พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องทำความกระจ่างให้เกิดขึ้นก่อนที่คนไทยจะมีความอึดอัดต่อพฤติกรรมของรัฐบาลมากไปกว่านี้
นายชวนนท์ยังยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยต่อการลดราคาจำนำข้าวเป็น 13,500 บาท เพราะชาวนาเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาจากโครงการรับจำนำ 15,000 บาททุกเมล็ด เป็นสัจจะที่นักการเมืองให้ประชาชน ถ้าทำสองปีแล้วเลิกได้แต่ไปทุกพรรคการเมืองก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน เพราะถือว่าได้ทำแล้วและหาข้ออ้างไม่ทำตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในการทำงานการเมือง จึงขอเรียกร้องว่าต้องยืนที่ 15,000 บาทตลอดอายุของรัฐบาล แต้ต้องไปปิดช่องทางการทุจริตในทุกขั้นตอน
พร้อมกับยกตัวอย่างรายงานของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. มีการระบุข้าวเปลือกเข้าโครงการจำนำข้าว 21.68 ล้านตันในปี 54/55 ถ้า 22 ล้านตันนี้จำนำที่ 15,000 บาท และขายในราคาตลาด 11,000 บาท มีส่วนต่างที่ 4,000 บาท จะทำให้รัฐขาดทุน 88,000 ล้านบาท แต่ตามรายงานของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง และประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาล ที่ระบุชัดว่าขาดทุนถึง 1.3 แสนล้านบาท คำถามง่าย ๆ คือเงินห้าหมื่นล้านหายไปไหน เท่ากับมีเงินส่วนต่างหายไปจึงไม่ใช่ปัญหาที่การช่วยชาวนาแต่เกิดจากมีชาวนาตัวปลอมไปจำนำด้วย ชาวนาเขมรจำนำด้วย พ่อค้าคนกลางซื้อข้าวถูกทำให้รัฐบาลขาดทุนเพิ่มเติม นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไข ไม่ใช่ลดราคาจำนำหรือการตรวจสอบ น.ส.สุภา หรือเดินสายกินข้าวโชว์ แต่ปัญหาใหญ่คือเรื่องการทุจริต ไม่ใช่การโยนภาระให้ชาวนาด้วยการลดราคาจำนำข้าว
นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะมีการก่อสร้างเขื่อนยมบน-ยมล่าง โดยอ้างว่ามีการทำประชาพิจารณ์ไปแล้วตั้งแต่ 10 ม.ค. 2555 และเป็นการทำตามรัฐธรรมนูญแล้วนั้น เป็นวิธีที่นายปลอดประสพกำลังหลีกเลี่ยงกฎหมายของประเทศ ใช้ประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมาย เพราะมีการพูดถึงการทำประชาพิจารณ์ปี 2555 ต้องทำตามระเบียบสำนักนายกฯปี 2548 ซึ่งการทำประชาพิจารณ์ตามระเบียบนี้ต้องระบุรายละเอียดโครงการ สาระสำคัญ สถานที่ดำเนินการ ผลกระทบ ระยะเวลาดำเนินการ
แต่สิ่งที่นายปลอดประสพทำนั้นเชื่อว่าไม่สามารถระบุได้ เพราะถึงวันนี้ยังไม่มีใครทราบว่า เขื่อน อ่างเก็บน้ำ โครงสร้างต่างๆ อยู่บริเวณไหนอย่างไร จึงอยากถามว่านายปลอดประสพเอาอะไรไปถามประชาชน ตนเห็นว่าเป็นการลักไก่หวังให้ศาลปกครองเปิดไฟเขียวให้เดินหน้าต่อได้ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 57 วรรค 2, 66 และ 67 วรรค 2 ระบุชัดว่าบุคคลย่อมมีสิทธิ
“นายปลอดประสพยังระบุไม่ได้ว่าโครงการอยู่ที่ไหนจะไปถามประชาชนได้อย่างไรว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการ หากยังทำแบบนี้โครงการตามเงินกู้ 3 แสน 5 หมื่นล้านไม่เกิดแน่นอน เพราะนายปลอดประสพต้องระบุให้ชัดก่อนว่าโครงการจะอยู่พื้นที่ใด ครอบคลุมพื้นที่กี่จังหวัด ผู้ได้รับผลกระทบคือประชาชนที่ไหน ไม่ใช่ออกมาพูดเองข้างเดียวว่าถามประชาชนแล้ว และจะลักไก่ไปบอกศาลว่าประชาชนเห็นชอบ เชื่อว่าศาลจะไม่เชื่อ สุดท้ายนายปลอดประสพจะทำให้โครงการเป็นหมันเสียเอง ผมแปลกใจว่าการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์เพราะหากเดินหน้าด้วยวิธีแบบนี้นอกจากโครงการไม่เกิดแล้ว อาจต้องไปชดใช้กรรมติดคุกติดตะรางในอนาคตด้วย จึงอยากให้นายปลอดประสพฉุกคิดปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง”
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า เขื่อนยมบน และยมล่าง เป็นการปัดฝุ่นเอาโครงการเก่ามาโยนให้บริษัทต่างประเทศไปทำ เพราะอยู่ในแผนงานของกรมชลประทานอยู่แล้ว แต่รัฐบาลเอาไปยัดใส่มือคนต่างชาติว่าเป็นโครงการที่คนต่างชาติคิดมากดหัวคนไทยให้ยอมรับ ยืนยันว่าสามแสนห้าหมื่นล้านไม่มีอะไรใหม่ เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย สร้างเงื่อนไขให้คนต่างชาติมากดหัวคนไทยให้ยอมรับโครงการที่คนไทยไม่เคยยอมรับเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น