“ตู่”เตือนรัฐบาลอยู่ในภาวะอันตราย ชี้สัญญาณ “วสันต์”ลงเก้าอี้ประธานศาล รธน. ภารกิจจบหรือรับงานใหม่ไม่ไหวต้องส่งไม้ต่อให้คนอื่นทำแทน
เชื่อ “สุภา”นั่งเก้าอี้ป.ป.ช.แทน “กล้านรงค์”เดินหน้าเรื่องข้าวโค่นรัฐบาล จี้สภาพิจารณากม.นิรโทษกรรมฉบับ “วรชัย”ปลดปล่อยประชาชน “ธิดา”ซัดเสื้อแดงเลิกดิสเครดิตกันเอง ชี้ประจบยังไงก็ไม่น่ารักในสายตาอำมาตย์
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า อยากให้มีบันทึกสิ่งที่ตนพูดในวันนี้เอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วัน ในการต่อสู้ทางการเมือง เราควรพูดในเรื่องที่เป็นความจริง แม้บางเรื่องคนจะไม่อยากฟัง ตนเห็นว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในภาวะไม่ปกติ คล้ายหลังเหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 คนเสื้อแดงในเวลานี้ถูกแบ่งแยกในรูปแบบที่แตกต่างกัน ตนในนาม นปช.พูดเสมอว่า เราสามัคคีกัน 100 เปอร์เซ็นต์เรายังไมรู้จะชนะหรือไม่
แต่เมื่อต่อสู้กันมา จนมีการเลือกตั้ง แล้วเราจะได้เปลี่ยนแปลงและสร้างความเข้มแข็งให้ฝ่ายประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันที่ฝ่ายอำมาตยธิปไตยคิดตรงกันข้าม ตนเตือนรัฐบาลหลายครั้งว่าจะต้องร่วมมือกันที่จะไม่เปิดช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะประเด็นทุจริตคอร์รัปชัน คนเสื้อแดงเรารักพรรคเพื่อไทย ตายกับพรรคได้ แต่จะไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งเป็นเรื่องที่เราต่อสู้กับพรรคอื่นมาและ เมื่อศัตรูโจมตีเรื่องนี้แล้วเราจะไม่สามารถต่อสู้ได้ ประเด็นต่อมาคือการลุแก่อำนาจ เพื่อไม่ให้ประชาชนผิดหวังได้บอกว่าอย่าได้ทรยศต่อประชาชน เวลานี้หลายคนที่อยู่ในอำนาจอาจจะคิดว่าไม่มีอะไร
ตนรู้ว่าถ้าเกิดเหตุกาณณ์ขึ้นคนที่ตายไม่ใช่คนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล แต่คนที่อยู่ในอิมพีเรียลและคนเสื้อแดงทั้งประเทศที่จะต้องตายก่อน ตนเชื่อว่าเขายึดอำนาจจะมาอิมพีเรียลก่อนทำเนียบเพราะที่ทำเนียบไม่มีใครอยู่แล้ว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราได้เห็นการขยับตัว การลาออกของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ หลายคนบอกสะใจไปเสียได้ก็ดี แต่ตนไม่ได้คิดเช่นนั้น ตนคิด 2 ข้อ คือ คำว่าภารกิจเสร็จแล้วหมายถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ก็รู้ และ 2.มีภารกิจอื่นใดที่เกินกว่านายวสันต์จะรับได้และจะมีคนเข้ามาดำเนินการต่อแทน ขอให้จับตาดู
ตนเชื่อว่าครั้งนี้จะอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนเป็นดาบแรก ก่อนจะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่าคำวินิจฉัยเรื่องการทำประชาพิจารณ์โครงการน้ำที่มีผู้ที่มีผู้นำไปร้องต่อ ป.ป.ช. เหตุใดเรื่องนี้ยังไม่ขยับ นั่นเป็นเพราะถ้าเขาขยับเป็นเรื่องแรก รัฐบาลก็จะบอกว่าต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วม ทำให้คนที่จะโค่นล้มเขารอได้ ถามว่ารอเรื่องไร เขารอเรื่องข้าว ตนเชื่อว่าหลังนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.พ้นจากวาระในวันที่ 18 ก.ย.นั้น คนที่จะมาแทนนายกล้านรงค์คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง
ซึ่งเขาจะใช้เรื่องข้าวเป็นเรื่องการระบาดทางอารมณ์ในเรื่องชาวนาที่ยากจน และถูกระทำ รวมทั้งกรณีที่ ส.ส. ส.ว. 312 คน ไม่ไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องมาตรา 68 ด้วยแกนนำนปช. ยังกล่าวอีกว่า
ทั้งนี้ในเรื่องการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล จะมีการขนคนระดมคนออกมาตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. เพื่อเคลื่อนมาจ่อวันที่ 1 ส.ค. ที่จะมีการเปิดประชุมสภา มีการตัดแขนตัดขาคนเสื้อแดง แบ่งแยกและทำลาย และที่มากกว่านั้น คือใ นรัฐสภาก็จะมีการขับเคลื่อน เรื่องที่เขารู้ว่าเป็นหัวใจของคนเสื้อแดง คือการนิรโทษกรรมเพื่อปลดปล่อยประชาชน วันนี้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ จ่อเป็นลำดับที่ 1 เปิดสภาต้องพิจารณา
จนกว่าจะมีมติเป็นอย่างอื่น แต่ท่าทีวิปฝ่ายค้านพูดชัดเจนว่าให้รัฐบาลต้องถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่เขาไม่พูดเรื่องการปลดปล่อยประชาชนยกเว้นแกนนำ แต่ไปพูดเรื่อง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมผ่านสภากลาโหมทั้งที่ไม่เกี่ยวกัน ถ้ารัฐบาลกลัวฝ่ายค้าน และฝ่ายตรงข้ามเลื่อนเอา พ.ร.บ.งบประมาณ 57 เข้ามาแทนที่ ก็เป็นการทำลายความรู้สึกของคนเสื้อแดง
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เขาจะปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามปกติหรือไม่ ถามว่าทำไมเขาต้องหยุดโครงการ 3.5แสนล้าน รวมทั้ง พ.ร.บ.เงินกู้อื่นๆ
ซึ่งรวมกันเป็นเงิน 5.5 ล้านล้านบาท ไม่มีที่ไหนจะให้รัฐบาลถือเงิน 5.5 ล้านบาท เขารู้ว่าล้มยาก คงไมมีวันปล่อยให้ใช้งบประมาณเหล่านี้ ฝ่ายที่นั่งประเมินสถานการณ์กันไม่เคยเอาประชาชนไปร่วมคิดว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น คนที่ยังอยู่ในเรือนจำที่บางเขนเขาก็ต้องนำไปขังในเรือนจำพิเศษตามปกติ แยกไปตามต่างจังหวัดเหมือนเดิม
เรื่องนี้ไม่ใช่ความวิตกจริตแต่เส้นทางมันใกล้เต็มที บางเรื่องเราไม่พูดก็ได้ เราต้องบอกความจริงว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เรามีภารกิจในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เราได้พูดว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ท้ายที่สุดไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งฉบับ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือใจของเราเองไม่แข็งเหมือนกับใจฝ่ายอำมาตย์และเครือข่ายที่เขาฆ่าเรา แค่โหวตร่างรัฐธรรมนูญเรายังทำไม่ได้ ต้องเตือนไปยังรัฐบาลว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
ความไม่ปลอดภัยของรัฐบาลเป็นความตายของประชาชน นักการเมืองอาจจะเอาตัวรอดได้ แต่ประชาชนอย่าว่าแต่เอาตัวรอดเอาชีวิตรอดยังไม่ได้ ตนรักรัฐบาลชุดนี้ ต้องพูดความจริงกับรัฐบาลชุดนี้ ตนไม่มีวันเห็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์หรือรัฐบาลใดดีกว่าพรรคเพื่อไทย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น