เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้นำคลิปเกี่ยวกับ การฝึกจิตในลักษณะแหวกแนว ไม่เป็นไปตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา
ซึ่งเป็นแนวทางของวัดแห่งหนึ่งใน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร มาโพสต์เผยแพร่ในสื่อสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างโดย แนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ได้อารมณ์กรรมฐาน ของวัดดังกล่าวจะผิดแปลกไปจากสถานที่ฝึกปฏิบัติธรรมแห่งอื่น ด้วยการใช้วิธีคุมจิตหรือจูงจิตให้หลุดพ้นจากกรรม จนผู้ที่ฝึกปฏิบัติเกิดอาการหลอน ขาดสติ ดิ้นทุรนทุราย และควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งในรายงานมีการระบุว่า ที่ผ่านมา มีประชาชน รวมถึงเด็กนักเรียน-นักศึกษาทั้งใน จ.พิจิตร และจังหวัดใกล้เคียง ต่างถูกชักจูงให้ไปฝึกปฎิบัติดังกล่าวกันเป็นจำนวนมากอีกทั้ง ยังมีการตั้งข้อสังเกตุด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า ผู้ที่ร้องเรียนไม่ขอเอ่ยนามได้โพสข้อความร้องเรียนลงบน Facebook ของชมรมกู้ภัยแห่งหนึ่ง พร้อมแนบลิงค์เว็บไซด์ “ใต้ร่มธรรม”
เพื่อให้เข้าไปดูข้อมูลจากการตรวจสอบ พบว่า เว็บไซด์ดังกล่าว มีการระบุชื่อวัด วิธีการปฏิบัติเพื่อให้ได้พระกรรมฐาน รวมถึงมีคลิปวิดีโอในเหตุการณ์ทำพิธีกรรมฐาน 7 ตอน นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่เรื่องฉาวโฉ่ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 52 ด้วยว่า วัดดังกล่าว เคยให้กลุ่มนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนชื่อดังใน จ.พิจิตร ที่เดินทางมาเข้าค่ายฝึกปฏิบัติธรรมไปนั่งสมาธิภายในกรงงูเหลือม แล้วปรากฏว่า มีเด็กนักเรียนหญิง 1 ราย ถูกงูเหลือมรัดคอจนเส้นเลือดฝอยในดวงตาแตก แต่เคราะห์ดีที่ไม่เสียชีวิต เพราะช่วยเหลือไว้ทัน ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้วัดดังกล่าวซึ่งขณะนั้นยังมีฐานะเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ถูกยุบสำนักทันที แต่กลับมีการเปิดสำนักใหม่ เป็นวัดแทนมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า วัดแห่งนี้จดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบไม่พบรายชื่อวัด ในเว็บไซด์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอทั้งหมด 7 ตอน ปรากฏภาพนักเรียน-นักศึกษากลุ่มใหญ่ กำลังนั่งสมาธิกันอยู่ภายในศาลา
โดยมีพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ของวัด คอยยืนคุมเชิงอย่างใกล้ชิด ซึ่งภาพในคลิป จะมีคนส่งเสียงปลุกเร้าอารมณ์อยู่ตลอดเวลา จนผู้ปฏิบัติ เกิดอาการสติแตกดิ้นทุรนทุราย พร้อมส่งเสียงหวีดร้องเหมือนถูกผีเข้าสิงห์ ขณะที่บางราย ออกอาการแสดงท่าทางเหมือนกับสัตว์กำลังคลาน
ส่วนข้อมูลที่ทางเว็บให้ไว้สำหรับบรรยายคลิป อ้างว่า
ก่อนจะเริ่มทำพิธีปฏิบัติเพื่อให้ได้พระกัมมัฏฐาน ผู้ปฎิบัติต้องถอดสร้อยพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังออกให้หมด และต้องกรอกเอกสารจำนวน 2 แผ่น ที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ เป็นเอกสารยอมความไม่เอาผิดหากเกิดอะไรขึ้น จากนั้น จะเริ่มเข้าสู่การปฏิบัติ ให้นั่งสมาธิ และท่องภาวนาตามประโยค “พองหนอ ยุบหนอ นิ่งหนอ ถูกหนอ” เริ่มตั้งแต่ท่องช้าๆ ก่อนเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในระหว่างนี้ จะมีพระสงฆ์และเจ้าหน้าหน้าที่ของวัด มาคอยพูดเสียงดังกรอกหู เพื่อเร่งการท่องภาวนา จนผู้ท่องรายนั้นเกิดอาการสติแตกในที่สุด
ทั้งนี้ ภายในเว็บไซด์ใต้ร่มธรรม ยังได้ระบุข้อมูล การปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้องด้วยว่า
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นวิชาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ และเป็นศาสตร์เดียวที่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้องหลุดพ้นไปจากอำนาจการครอบงำของอาสวะกิเลส ตั้งแต่เบาบางจนกระทั่งหมดจด ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ดังนั้น สิ่งที่ปรากฏไม่ใช่หลักของพระพุทธศาสนาอันหมายถึงศาสนาของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติธรรมคือความสุข ความสงบไม่ใช่อาการร้อนรน ทุรนทุราย และสิ่งที่ได้จากการปฏิบัติคือการรู้เท่าทันจิต รู้สภาวะอารมณ์ รู้เท่าทันตนให้จิตอยู่เหนือกาย ไม่ใช่สติขาด กายอยู่เหนือจิต จิตรู้แต่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จึงอยากให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติกรรมฐานของสถานที่ที่เรียกตัวเองว่าวัดแห่งนี้ด้วย.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น