วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เกาะติดปฏิกิริยาคลิปเสียงฉาว!! แผนล็อบบี้สะเทือนลงทุนทวาย??เมื่อ 11 ก.ค.56



คลิปสนทนาฉาวที่ว่ากันว่าเป็นของเสียงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามคำยืนยันของพานทองแท้  ชินวัตร กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์  ศศิประภา  รมช.กลาโหมนั้น  น่าจะยังคงเป็นประเด็นต้องติดตามกันต่อไปอีกนาน  ขณะที่ข้อเท็จจริงยังคลุมเครือ โดยเฉพาะกรณีการที่มีการพูดถึงกลอุบายในการเข้าไปยึดครองผลประโยชน์ในพม่า  ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าในระยะยาวจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลถึงผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเมียนมาร์  หลังจากมีการเผยแพร่คลิปลับที่มีเนื้อหาพาดพิงถึงข้าราชการระดับสูง และฝ่ายบริหารบางคนของเมียนมาร์ กับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบใดๆต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย   
นั่นก็คือท่าทีของผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาตอบโต้กระแสข่าวที่มีมาก่อนหน้าว่า   พล.ร.อ.ญาน ทุน รองประธานาธิบดีพม่า แสดงความไม่พอใจกับเนื้อหาใจความ ที่ปรากฏผ่านคลิปเสียงสนทนาของบุคคลที่ถูกระบุว่าเกี่ยวโยงกับรัฐบาลไทย  ถึงขั้นเอ่ยปากจะเป็นคนไปเชิญญี่ปุ่นมาลงทุนในโครงการทวายแทนฝ่ายไทย  เพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการครั้งนี้ เพราะเห็นว่าการลงทุนกับนักการเมืองอาจเป็นช่องทางให้มีการทุจริตมากมาย   
แต่ถ้าพิจารณาถึงข้อมูลที่ปรากฏขึ้นจริงในแผนการลงทุนร่วมระหว่างพม่าและญี่ปุ่นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้เรื่องนี้มีน้ำหนักมากขึ้น  โดยเฉพาะการที่ญี่ปุ่นประกาศนโยบายเชิงรุกทางการทูต  ด้วยการสนับสนุนพม่าให้เดินหน้าลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมท่าเรือน้ำลึกติลาวาอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555  ซึ่งในระหว่างการเยือนพม่าอย่างเป็นทางการของ  นายกฯ ชินโซะ อาเบะ เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางผู้นำญี่ปุ่นก็แสดงไมตรีที่แนบแน่นต่อรัฐบาลพม่า  ด้วยการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 498.5  ล้านดอลลาร์  หรือประมาณ  1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ   รวมถึงใช้ดำเนินโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา
 
ไม่เท่านั้นญี่ปุ่นยังมอบความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่า  23 ล้านดอลลาร์ หรือ 690 ล้านบาท สำหรับการจัดการน้ำในนครย่างกุ้ง และโครงการทุนการศึกษาสำหรับผู้บริหารวัยหนุ่มสาว ซึ่งกำลังทำหน้าที่ดูแลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่สำคัญผู้นำญี่ปุ่นยังยกเลิกหนี้ค้างชำระ จำนวน 1,740 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาทให้กับพม่าเป็นพิเศษอีกด้วย   
ประเด็นที่ต้องจับตาเพิ่มเติมเพื่อประเมินว่า คลิปเสียงฉาวจะกระทบต่อการลงทุนร่วมโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายหรือไม่ นั่นก็คือสถานะของ พล.ร.อ.ญาน ทุน และพล.อ.มิน ออง หล่าย เพราะฝ่ายหนึ่งมีข่าวว่าจะไปดึงญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนแทนไทย แต่อีกฝ่ายถูกระบุว่ามีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพ.ต.ท.ทักษิณ  
พล.ร.อ.ญาน ทุน เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาสายทหารให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีพม่า ถือเป็นนายทหารที่อุดมการณ์ชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปการเมืองภายในพม่าให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งมีบุคลิกภาพประนีประนอม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ได้สาบานตนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรทันที  ว่า   จะปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบด้วยความซื่อสัตย์ 
ขณะที่  พล.อ.มิน ออง หล่าย เป็นทหารที่ พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำเผด็จการทหารของพม่า   ไว้เนื้อเชื่อใจเท่า ๆ กับ  พล.อ.เต็ง เส่ง จนปัจจุบัน พล.อ.มิน ออง  หล่าย  ก็ยังได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองพล.อ.อาวุโส  ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดอันดับสองในกองทัพพม่าอีกด้วย และจากการที่รัฐธรรมนูญของพม่าได้ให้อำนาจกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงขั้นสามารถเสนอแต่
ตั้งบุคคลผู้ทำหน้าที่ในหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ไม่นับรวมผู้ดำรงตำแหน่งในสภากลาโหม ที่สามารถประกาศภาวะฉุกเฉินได้ตลอดเวลา จึงทำให้ พล.อ.มิน ออง หล่าย เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีความสำคัญมาก เหมือนกับข้อมูลที่ปรากฏในคลิปฉาว    
ส่วนพล.อ.เต็ง เส่ง ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และมีจุดยืนในเรื่องการนำพม่าก้าวสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ กลับถูกกำหนดจากกฎหมายที่ออกโดยให้มีอำนาจเฉพาะการบริหารงานทั่ว ๆ  ไปเท่านั้น  ซึ่งก็เป็นไปตามโมเดลการปกครองที่พล.อ.อาวุโส  ตาน ฉ่วย  ได้วางไว้เพื่อทำให้ดุลอำนาจการปกครองประเทศ ยังคงอยู่ในมือของฝ่ายทหารเผด็จการ ต่างจากการสร้างภาพประชาธิปไตยที่รัฐบาลทหารพม่าพยายามทำให้โลกเชื่อ   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น