ผวาอาถรรพ์รื้อโบสถ์เก่าหวั่นอาเพศ เผยคนตายแล้วเดือนเดียว 18 คน |
|
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านนาขาม ต.นาม่อง อ.กุดบาก จังหวัดสกลนคร มีชาวบ้านลือกันว่า มีผีแม่หม้ายออกอาละวาด คร่าชีวิตผู้ชายในหมู่บ้านแล้วหลายคน และชาวบ้านแก้เคล็ดด้วยการนำหุ่นฟางสวมเสื้อยืดสีแดง พร้อมแขวนป้ายระบุข้อความว่า บ้านนี้ไม่มีผู้ชายที่เกิดปีมะเส็ง ปีกุน เพื่อแก้เคล็ดป้องกันภัยจากผีแม่หม้าย ตามความเชื่อที่ว่าผีแม่หม้ายกลัวสีแดง และข้อความที่เขียนติดไว้จะทำให้ผีแม่หม้ายไม่เข้ามาทำอันตรายกับคนในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่มีผู้ชายเกิดในปีมะเมีย มะเส็ง และปีกุน ตามข่าวร่ำลือที่ทราบมาในหลายพื้นที่ว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ นางดารุณหรือลุน โถตันคำ อายุ 35 ปี ชาวบ้านนาขาม ต.นาม่อง อ.กุดบาก ทราบว่า ในพื้นที่ อ.กุดบาก หลายหมู่บ้านมีอาการนอนไหลตายเป็นจำนวนมาก แม้ว่าในพื้นที่บ้านนาขามยังไม่พบว่ามีการไหลตายเพราะผีแม่หม้าย แต่เพื่อเป็นการป้องกันในแทบทุกหลังคาเรือนจึงได้นำหุ่นฟางสวมเสื้อแดง พร้อมแขวนป้ายข้อความดังกล่าวเอาไว้ เพราะเชื่อว่าจะสามารถแคล้วคลาดจากอันตรายจากผีแม่หม้ายได้
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังพบว่ามีชาวบ้านบางคนเกรงกลัวถึงขนาดต้องนอนใส่เสื้อผ้าสีแดงด้วย โดยให้เหตุผลว่า ใครที่ใส่สีแดงผีแม่หม้ายกลัวสีแดงการสวมเสื้อสีแดงจะทำให้ผีแม่หม้ายไม่เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านและพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสนำเสื้อแดงมาจำหน่ายด้วย
|
|
|
ขอบคุณภาพจาก"ข่าวสด" |
ที่บ้านหนองปลาตอง ต.อุ่มจาน อ.กุสุมาลย์ พบว่ามีชาวบ้านต่างนำหุ่นฟางใส่เสื้อแดง มาห้อนตามหน้าบ้าน โดยเชื่อกันว่ามีผีแม่หม้ายมาอาละวาดคร่าชีวติคนในหมู่บ้าน หากใส่เสื้อแดงหรือมีผ้าแดงมาผูกข้อมือจะทำให้ผีแม่หม้ายกลัว นายวิโรจน์ ชาวบ้านท่าแร่ ค.ท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร เผยว่า เมื่อสองวันก่อนมีชาวบ้านท่าแร่ เป็นชาย อายุ 60 ปี และ 49 ปี นอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ และอีกคนขณะที่นอนตอนกลางวันอยู่ร่มไม้หน้าบ้าน ก็มีอากาศไหลตายต่อหน้าลูกเมียและคนในหมู่บ้าน และในรายที่ตายชาวบ้านลือกันว่าไม่เชื่อฟังภรรยาให้ใส่เสื้อแดง เพราะกลัวผีแม่หม้าย ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความผวากับผู้ชายทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่เดินทางไปหาครูบาอาจารย์นำพระมาห้อยคอและที่สำคัญหาฝ้ายแดงมาผูกข้อมือด้วย
นอกจากนั้นยังมีข่าวลือว่า ชาวบ้านนาเพียงใหม่ ตำบลนาเพียง อำเภอกุสุมาลย์ ต่างพากันผวาอาถรรพ์จากการรื้อพระอุโบสถเก่าที่ชาวบ้านพากันลงมติเพื่อที่จะรื้อทุบทิ้งโบสถ์เก่าที่มีอายุกว่า 80 ปี ในวัดบ้านนาเพียงใหม่ หลังจากที่ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ได้เรียกประชุมกัน เพื่อจะรื้อทุบโบสถ์ทิ้งเพื่อสร้างใหม่ โดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานจากผู้เฒ่าผู้แก่และผู้บวชเรียนมาก่อนว่า ทำไม่ได้ หากจะสร้างใหม่ก็สร้าง แต่อย่าทุบของเก่า หากจะปฎิสังขรณ์ เช่น มุงหลังคาทาสีใหม่ทำได้ แต่ทุบแล้วมาสร้าง คนแก่คนเฒ่าในหมู่บ้านไม่เห็นด้วย แต่ก็แพ้การลงมติเนื่องจากคนรุ่นใหม่มีจำนวนมากกว่า
ภายหลังการลงมติได้มีการรื้อหลังคาออกเพียงสองวันแรกทำให้คนในหมู่บ้านเสียชีวิตทันที 2 คน โดยคนล่าสุดคือ นายมิตร อายุ 36 นอนไหลตายเสียชีวิต ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเกิดจากอาถรรพ์การรื้อโบสถ์ ทำให้ชาวบ้านผวากันมาก
นายบุญล้อม ยะวังผล ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนนาเพียงวิทยานุกูล กล่าวว่า ตนบวชเรียนจนได้มหาประโยค 4 ศึกษาเรื่องธรรมะคลอดจนทางธรรม ชาวบ้านเรียก ‘มหาล้อม’ การสร้างรื้อทุบโบสถ์หรือสิ่งปลูกสร้างทางบวรพุทธศาสนา ต้องปรึกษาหารือผู้รู้ก่อน เพราะบางอย่างจะขัดกับทางกฎหมาย หากมีอายุมาก และโดยเฉพาะโบส์ถ์ที่มีเขตพัทธสีมาชัดเจน ชาวบ้านใช้กันมาหลายชั่วคน จะมารื้อมาทุบต้องทำพิธีให้ชัดเจน จากที่ชาวบ้านเสียชีวิตลงทันที 2 คน ยิ่งทำให้ชาวบ้านผวาและกลัวมาก
เพราะเมื่อประมาณ ปี 2547 ก็มีการนอนไหลตายในลักษณะเดียวกันเดือนเดียวถึง 18 คน จนต้องมีการทำบุญชำระบ้านมาแล้ว จึงค่อยผ่อนคลายลง จนถึงปัจจุบัน เรื่องอย่างนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เป็นความเชื่อของแต่ละคนแต่ที่สำคัญชาวบ้านเรื่องกำลังใจเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ ซึ่งตนก็เคยบอกคนที่พาชาวบ้านรื้อโบสถ์แล้วว่าต้องศึกษาให้รอบคอบก่อนจึงทำเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ก็ไม่ฟัง ยังดื้อรื้อกันอยู่ ของเก่าแก่มีแต่การอนุรักษ์ไว้ แต่นี่กลับทุบทิ้งคิดว่าน่าจะลองพิจารณาดูว่าเหมาะสมหรือไม่
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น