ร่างกม."นิรโทษกรรม"…ร่างแห่งความขัดแย้ง
กำลังจะเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับการยื่นร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทยและบรรดากลุ่มส.ส.จำนวน 42 รายชื่อ
ในขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ก็รับปากว่าภายใน 1 สัปดาห์ก็จะบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในทันที
หมายความว่าในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ก็จะมีร่างกฎหมายที่เปรียบเสมือนระเบิดเวลาอยู่ถึง 5 ร่าง เนื่องจากมีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่ค้างอยู่ในวาระการพิจารณาถึง 4 ร่าง
เพื่อลำดับความให้เกิดความเข้าใจเราก็จะย้อนกลับไปพิจารณาเนื้อหาของร่างกฎหมายปรองดอง ที่แม้จะมีถึง 4 ฉบับ แต่ทว่าเนื้อหาก็แทบเหมือนกันทุกประการ
ร่างพรบ. 4 ฉบับที่ค้างอยู่ในสภา ประกอบด้วย
1.ร่างของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ
2.ร่างของนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย
3.ร่างของนายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
และ4.ร่างของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
สำหรับเนื้อหาก็มีอยู่เดียวกัน 5 มาตราโดยมุ่งเน้นไปที่การนิรโทษกรรมมากกว่าการสร้างความปรองดองตามชื่อที่ระบุ โดยสาระสำคัญจะอยู่ที่มาตรา 3 และ 4
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ........."
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติ ให้นิรโทษกรรมบรรดาการกระทำผู้ถูกกระทำทั้งหลายของบุคคลใดๆ ซึ่งได้กระทำระหว่างวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2552 หรือการกระทำก่อนวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งได้รับผลร้ายจากองค์กรที่เกิดจากการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ในความผิดที่เกี่ยวกับ
(1) การกระทำที่เกี่ยวกับการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 รวมทั้งการกระทำตามคำสั่งหรือประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย
(2) การกระทำในการชุมนุมหรือเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม การกล่าวหรือการไขข่าวไม่ว่าโดยวาจาหรือโดยการโฆษณาใดๆ เพื่อเรียกร้องทางการเมืองในการต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดิน หรือการต่อต้านการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549
(3) การกระทำที่เป็นเหตุให้บุคคลหรือคณะบุคคลผู้ถูกสอบสวน ไต่สวน ดำเนินคดีหรือวินิจฉัยจากบุคคล คณะบุคคลหรือองค์กรตามคำสั่งหรือประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ทั้งนี้ ให้รวมถึงการกระทำที่บุคคลหรือคณะบุคคลผู้ถูกสอบสวน ไต่สวนดำเนินคดี หรือวินิจฉัยจากบุคคลหรือคณะบุคคลหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่เกี่ยวข้องทางการเมืองด้วย
(4) การกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทหาร ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือคณะบุคคลหรือประชาชน ที่ได้กระทำในการควบคุมการชุมนุม การสลายการชุมนุม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ราชการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม
(5) การกระทำอื่นใดอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระหรือองค์กรอื่นใดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำตาม (1) (2) (3) หรือ (4) แล้วแต่กรณี หรือการกระทำเพื่อดำเนินการทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ผู้ได้รับนิรโทษกรรมตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงผู้กระทำทั้งในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ หากการกระทำนั้นเป็นความผิดกฎหมายให้ผู้นั้นพ้นจากความผิดและความรับผิดทั้งในทางอาญา ทางแพ่ง และทางปกครอง หากการกระทำผิดนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
หากผู้นั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ให้คืนสิทธิเลือกตั้งแก่บุคคลดังกล่าวด้วย
มาตรา 4 การนิรโทษกรรมเพื่อสร้างความปรองดองแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอันที่จะเรียกร้องสิทธิ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
พิจารณาเป็นอื่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อยว่าร่างพรบ.ปรองดองดังกล่าว มีเนื้อหามุ่งไปที่การนิรโทษกรรมล้วนๆ โดยผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั่นเอง จนนำมาสู่การต่อต้านทั้งจากในและนอกสภาอย่างหนักหน่วงเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2555 แบบนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น