วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ลักไก่ดันนิรโทษพาแม้วกลับ เมื่อ 18 เม.ย.56


ลักไก่ดันนิรโทษพาแม้วกลับ



เพื่อแม้วใช้จังหวะคนไทยสนใจคดีพระวิหารลักไก่ดัน พ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับวรชัยเป็นวาระเร่งด่วน “ทักษิณ” เผยธาตุแท้ สไกป์หวังกลับไทยปีนี้ โอดเหมือนว่ายน้ำกลางทะเล ซัดผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่มีความรู้ฟังแต่คำโกหก! สั่งใช้ทั้งแง่กฎหมายและพลังมวลชน ถึงขั้นลั่นยุบสภาก็ยอม “เหลิม” แบไต๋ดันกฎหมายช่วยเหลี่ยม ทั้งพ้นผิดพ่วงคืนเงิน “ปชป.” เตรียมจัดหนักหากเดินหน้า
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 18 เมษายน ยังคงเป็นที่สนใจอย่างมากว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะมีการเสนอเลื่อนร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับที่ 42  ส.ส.เข้าชื่อขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเรื่องนี้ว่า ยังไม่รับการประสานมา แต่เป็นอำนาจของ ส.ส.มีสิทธิ์เสนอเลื่อนได้ โดยขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมพรรค
วันเดียวกัน ในช่วงเช้า พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และคณะกรรมการประสานภารกิจ ซึ่งแกนนำพรรคเข้าร่วมหารืออย่างคับคั่ง โดยที่ประชุมเห็นควรให้เลื่อนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาเป็นเรื่องด่วน เพราะมีเสียงเรียกร้องจากแกนนำเสื้อแดงและญาติผู้เสียหายทวงถามต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปากไปแล้ว แต่ 2 ปีกลับไม่คืบหน้า หากยังยื้อเวลาจะเสียแนวร่วมได้ ซึ่งการเลื่อนวาระก็เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้มวลชนสบายใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมมีความพยายามทัดทานจากคนในครอบครัวชินวัตร บางคนกลัวว่าจะกระทบเสถียรภาพรัฐบาล ทำให้ที่ประชุมเห็นว่าควรเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับ 42 ส.ส.อย่างเดียว เพราะหากเสนอฉบับอื่นที่จะช่วยทุกฝ่าย รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหา และจะไม่เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมใดๆ ที่มีเนื้อหาลักษณะเดียวกันเข้ามาอีก
ต่อมาในช่วงบ่ายก็มีการประชุม ส.ส.เพื่อไทย โดยก่อนประชุม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า อะไรที่ช่วยปลดปล่อยประชาชนที่ถูกขังอยู่ก็ต้องทำ เป็นการช่วยเหลือประชาชนทุกสีเสื้อ ไม่เกี่ยวกับแกนนำ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณก็ห่วงใยและเข้าใจพี่น้องที่ถูกคุมขังมานาน 
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า นายกฯ ก็ไม่ขัดข้อง บอกให้เดินหน้าช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ก็บอกชัดเจนว่าให้เป็นเรื่องของสภา
หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์มายังที่ประชุมระบุว่า อยากให้พวกเราช่วยกัน เมื่อพรรคและ ส.ส.เข้มแข็ง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้กลับบ้าน ถ้าไม่เข้มแข็ง โอกาสจะได้มาก็น้อย พอไม่ได้กลับบ้านก็หาเสียงยาก เราเถียงกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ว่าไปตามกัน และเมื่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ไม่ขัดข้อง ว่ายังไงก็ว่าตามกัน โดยหลังปิดสภา ขอให้ ส.ส.ลงพื้นที่ไปอธิบายนโยบายให้ประชาชนเข้าใจ
แม้วโอดยังว่ายน้ำกลางทะเล
“ขอให้เข้มแข็งเป็นกำลังใจให้พวกผม เมื่อได้แรง ผมก็จะเป็นกำลังใจให้พวกท่าน วันนี้ผมยังว่ายน้ำกลางทะเล พวกที่นั่งฉลองจิบแชมเปญอยู่ริมฝั่งขอให้เบาๆ หน่อย เดี๋ยวไอ้คนอยู่กลางทะเลจะตกใจจมน้ำตายไปซะก่อน เราต้องสื่อสารให้ชัดเจน ทุกคนจะได้รู้ว่าการต่อสู้ที่ยาวนานต่อสู้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราไม่มีความรู้ ฟังแต่คำโกหก ไม่เชื่ออะไรเลย พวกนี้ก็ขยันโกหกด้วย พวกนี้พวกผีเจาะปาก ก็พูดไป ไม่พูดบนความเป็นจริง เราต้องช่วยกันแก้ข้อกล่าวหา ไม่อย่างนั้นเขาจะบอกพวกนี้มือมากปากน้อย อย่าไปเล่นตามเกมเขา ผู้ชนะคืออย่าไปเล่นในเกมเขากำหนด วันนี้คนต่างจังหวัดสนใจการเมือง คนใน กทม.อาจสนใจน้อยเพราะงานหนัก เมื่อสนใจน้อยก็หวาดระแวง ขี้กลัว” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว         
จากนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นตัวแทน ส.ส.อวยพร พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง  คิดสิ่งใดให้ประสบสำเร็จตามความปรารถนา พวกเราจะทำทุกอย่างให้ท่านได้กลับบ้านในปลายปีนี้แน่นอน
นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นด้วยกับเลื่อนวาระ และได้ร่างกฎหมายมาแล้ว โดยเริ่มจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ถึงช่วงนายอภิสิทธิ์ยุบสภา ใครเป็นผลเกี่ยวเนื่องต้องได้รับผลนิรโทษกรรม แต่ไม่เห็นด้วยที่วางไว้ 2 ช็อต ทำก็ทำเลย ทำเสร็จจบท่านทักษิณกลับมาเลย  
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดเสริมว่า นายขจิตรพูดถูก แต่ที่ผ่านมามีความวุ่นวาย ขอให้เลื่อนระเบียบวาระมาก่อน จากนั้นจะเสนอกฎหมายอีกก็ว่ากันไป แต่ต้องการให้ทุกฝ่ายเห็นว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 
หลัง พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์แล้วเสร็จ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ได้แจ้งที่ประชุมพรรคว่า ทันทีที่เปิดสมัยประชุมหน้า จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ 1 ฉบับ เพื่อให้สภาพิจารณา โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเตรียมเข้าชื่อกับ ส.ส. 20 คน มี 6 มาตรา 4 หน้ากระดาษ สำหรับเนื้อหาสำคัญที่น่าสนใจคือมาตรา 3 และมาตรา 4 
เปิดกฎหมายฉบับกูรูเหลิม
โดยมาตรา 3 ระบุว่า “บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือการกระทำดังกล่าวในระหว่าง พ.ศ.2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ หากมีการกระทำใดเป็นความผิดตามกฎหมาย ไม่ว่าได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำนั้น ไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง
ในกรณีที่ผู้กระทำการตามวรรคหนึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวน ให้ผู้มีอำนาจสอบสวนระงับการสอบสวนผู้นั้น ถ้าอยู่ในระหว่างการฟ้องร้อง ให้พนักงานอัยการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการฟ้อง ถ้าอยู่ในระหว่างพิจารณาคดีให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นได้รับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง
ให้นำความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใช้บังคับกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลใดๆ อันเกี่ยวเนื่องจากการป้องกัน ระงับ หรือปราบปราม ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม
เพื่อประโยชน์แห่ง พ.ร.บ.นี้ การชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หมายความว่าการกระทำหรือการแสดงความคิดเห็นเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง และให้หมายความรวมถึงการยึดหรือปิดสถานที่เพื่อประท้วง การต่อสู้ขัดขืนในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง”
มาตรา 4 ระบุว่า “บรรดาการกล่าวหาการกระทำความผิดบุคคลใดๆ ที่เกิดจากคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งได้ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อ 19 ก.ย.2549 หรือจากคณะบุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) หรือเป็นการกล่าวหาจากหน่วยงานอื่นใด อันเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินการของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่าเป็นการกล่าวหาในข้อหาใด ให้ถือว่าเป็นการกล่าวหาในความผิดทางการเมือง และให้การกล่าวหาการกระทำผิดนั้นเป็นอันระงับไป โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำความผิด และให้นำความในมาตรา 3 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะส่งผลประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งทหาร พรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ เสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หมด ซึ่งระหว่างปิดสมัยประชุม จะใช้เวลาทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเปิดเวทีชี้แจง โดยเริ่มต้นที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ จากนั้นจะทยอยเปิดเวทีทั่วทุกภาค และจะมีเวทีใหญ่ในวันที่ 24 พ.ค.ที่ จ.อุดรธานี
หลังการประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการ พท. แถลงว่า พรรคมีมติเห็นชอบและสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย และขอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาเป็นวาระแรก เพื่อให้พิจารณาทันการเปิดสมัยประชุมหน้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกฝ่ายก่อน ส่วนการนิรโทษกรรมแกนนำ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไปในอนาคต ส่วนการจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายขจิตร หรือของ ร.ต.อ.เฉลิม เราไม่ได้ปิดโอกาสเสนอร่างกฎหมายเหล่านั้น แต่ต้องเป็นโอกาสหน้าที่เสนอเข้าสู่สภาได้ และถือเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.ที่ทำได้อยู่แล้ว
    รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยว่า สถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้น ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการวางแผนเตรียมการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านให้ได้ในปีนี้ ไม่ว่าจะใช้แนวทางทางกฎหมายหรือแนวทางมวลชน โดยการหารือภายในครั้งหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเคยเปรยว่า ถ้าต้องยุบสภาก็ต้องยุบ
          ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านนั้น พบว่า หากมีการเลื่อนเรื่องดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ก็จะใช้วิธีการคัดค้านอย่างเช่นในเหตุการณ์การเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองเมื่อปลายปี 2555 แน่นอน
    นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจงใจดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงที่คนส่วนใหญ่จดจ่ออยู่ที่คดีปราสาทพระวิหาร โดยลักไก่เสนอกฎหมายล้างผิด เพื่อความสบายของพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ได้ทำเพื่อความผาสุกของคนทั้งประเทศ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวเช่นกันว่า พท.กำลังใช้จังหวะที่คนไทยทั้งประเทศจดจ่อกับคดีพระวิหาร ลักไก่ผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับพวกเดียวกันเอง และยังขัดกับรัฐธรรมนูญ หากมีการดำเนินการต่อกลุ่ม ก็จะดำเนินการเอาผิดกับหน่วยงานต่างๆ ต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น