วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ผบ.ทบ.ห่วงม็อบระดับ3 เหลิมแถแดงล่าหัวล้อเล่น เมื่อ 30 เม.ย.56


ผบ.ทบ.ห่วงม็อบระดับ3 เหลิมแถแดงล่าหัวล้อเล่น



“แดง กวป.” ลั่นชุมนุมไม่เลิกจนกว่า 9 ตุลาการลาออก เดินสายยื่นหนังสือสำนักงบประมาณงดจ่ายเงินเดือน “เหลิม” แก้ต่างแทนม็อบ อ้างพูดเล่นเรื่องล่าหัว “ประยุทธ์” รับกังวลระดับ 3 หากมีคำสั่งกองทัพพร้อม “ศรรักษ์” สวนจะเรียก “ทหารวงศ์เทวัญ” มาชน “ค้อนปลอม” ยันคิดตรงพรรค! ไม่ส่งคำชี้แจงศาล 
เมื่อวันจันทร์ซึ่งถือเป็นวันที่ 9 ที่กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายคนเสื้อแดง ยังคงปักหลักที่ลานเสาธง หน้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือนายเล็ก บ้านดอน  ประธาน กวป.ได้แถลงยืนยันว่า จะชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะประกาศลาออกถึงจะหยุดชุมนุม และเมื่อตุลาการทั้ง 9 คนยังเก็บตัวเงียบ ไม่แสดงท่าทีและไม่ยอมตอบคำถามในสิ่งที่ประชาชนสงสัย เราก็จะเรียกร้องให้คนออกมาชุมนุมมากขึ้น และในวันที่ 30 เม.ย.จะไปยื่นหนังสือถึงตุลาการอีกครั้งในเวลา 11.00 น. โดยจะใส่เสื้อสีดำ พร้อมทั้งวางพวงหรีดไว้ที่ประตูทางเข้าศาลด้วย 
นายพงษ์พิสิษฐ์กล่าวอีกว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เพื่อขอให้หยุดการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนแก่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทั้ง 2 คนไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และอาจบิดเบือนพระบรมราชโองการ รวมทั้งจะแจ้งข้อกล่าวในมาตรา 112 เพิ่มด้วย
และในช่วงหนึ่งของการชุมนุม ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมด้วยพระครูชัยสารสุนทร (สิงห์) วัดเวฬุวนาราม เจ้าคณะเขตดอนเมือง-หลักสี่ กทม. เดินทางมาตรวจสอบกรณีที่มีพระสงฆ์เข้าร่วมการชุมนุมด้วยจำนวน 4 รูป ซึ่งเจ้าคณะฯ ได้เข้าไปนิมนต์ให้กลับวัด เนื่องจากไม่เหมาะสมที่พระสงฆ์มาร่วมชุมนุม แต่พระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวไม่ยอม จึงได้เกิดการฉุดกระชาก และทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจพยายามเข้าไปรุมทำร้าย พร้อมตะโกนว่าเป็นคนของกลุ่มสันติอโศกเข้ามาก่อกวน จนทำให้ตำรวจต้องรีบคุ้มกันเจ้าคณะเขตดอนเมือง-หลักสี่ และเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ 
ในขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มองค์กรพิทักษ์ปกป้องมาตุภูมิแห่งประเทศไทย และเครือข่ายประมาณ 100 คน นำโดยนายวิรัตน์ รัตนชาติ, นายวันธงชัย ชำนาญกิจ อดีตผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291,  นางกาญจนี วัลยะเสวี แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักสงบ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีนางอรรถพร เลาหสุรโยธิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารงานทั่วไป สำนักงานศาลรัฐธรรนูญ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
หลังจากยื่นหนังสือแล้ว กลุ่มดังกล่าวก็ได้ร่วมกันร้องเพลงกำลังใจ และมอบดอกกุหลาบเพื่อเป็นกำลังใจให้คณะตุลาการอีกด้วย ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาจากทางด้านหลังของอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่ม กวป.ที่ชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร
แถจับตุลาการแค่พูดเล่น
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมนี้ว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลให้ดี ส่วนที่มีการประกาศจับตุลาการนั้น ก็พูดสนุกกันไป ไม่มีหมายจับจะไปจับอย่างไร คนมีอารมณ์ก็พูดเรื่อยไป อย่าไปมองการเมืองเลวร้าย เพราะสุดท้ายก็เรียบร้อย 
“ไม่ได้ ผมไม่มีสิทธิ์ไปบังคับกลุ่มคนเสื้อแดง แค่ดูแลไม่ให้มีเหตุ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวเมื่อถามว่า จะมีการขอร้องให้คนเสื้อแดงยุติการชุมนุมหรือไม่
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ให้ท้ายกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมหน้าศาลว่า รัฐบาลขอปฏิเสธว่าไม่ได้ต้องการโค่นอำนาจตุลาการและไม่ได้ให้ท้าย การที่นายกฯ ออกมาพูด ไม่ได้หมายความสนับสนุนหรือให้ท้ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่หมายถึงหลักการรัฐธรรมนูญ ที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วม
ส่วนนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังพาประเทศเข้าสู่สภาวะมิคสัญญี เพราะการที่ฝ่ายบริหารมีมวลชนของตัวเองกดดันการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านการเมือง,  เศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ความต้องการของรัฐบาลบรรลุไปได้ ประเทศจะไม่มีวันสงบ และเชื่อว่าคนที่ไม่เห็นด้วยรอวันที่จะลุกฮือตอบโต้รัฐบาลที่ลุแก่อำนาจ  ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่เลิกพฤติกรรมก็เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ได้
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ห่วงอยู่ในระดับ 3 หากมีคำสั่งใช้ทหารก็พร้อมดูแล หากไม่ใช้ ทหารก็ดูอยู่ห่างๆ ซึ่งบ้านเมืองมีกฎหมาย มีประชาธิปไตย และมีรัฐธรรมนูญ ตราบใดยังมีรัฐธรรมนูญและกฎหมาย จะไม่มีใครทำอะไรได้นอกกฎหมาย หากวันนี้ยังไม่โดนจับ วันหน้าก็ต้องโดนจับ และต้องเป็นคดีความเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็หนีกฎหมายไม่พ้น 
“ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินไปข้างหน้า ใครก็ตามจะทำอะไรก็แล้วแต่ ขอว่าอย่าไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะจะกลายเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ ไม่เคารพกฎหมาย แล้วจะอยู่กันไม่ได้ ใครขึ้นมาเป็นใหญ่ หากไม่มีกฎหมายก็ปกครองใครไม่ได้ ดังนั้นต้องปกครองคนให้ได้ และต้องทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี แก้ปัญหาให้ถูกช่องทาง อย่านำทหารออกไปวุ่นวายในขณะนี้เพราะไม่ใช่เรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป.ตอบโต้ทันทีว่า ทหารจะออกมาทำไม  หรือเห็นว่าพื้นที่ชุมนุมเป็นตะเข็บชายแดน และถ้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญร้องขอให้ทหารออกมาช่วย ก็จะร้องขอให้ทหารวงศ์เทวัญออกมาช่วยเช่นกัน ซึ่งการที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวแบบนี้ เหมือนเป็นการชี้ช่องและเป็นพวกเดียวกันกับตุลาการ
และในเวลา 18.00 น. นายพงษ์พิสิษฐ์ได้นำมวลชนถือพวงหรีดรีไซเคิลที่ทำจากถุงขยะสีดำ โดยติดป้ายระบุว่า "แด่ตุลาการทั้ง 9 ตัว" มาวางไว้ที่แผงกั้นเหล็กบริเวณบันไดหน้าศาล พร้อมกับเปิดเพลงมอญร้องไห้ และราดน้ำมันใส่พวงหรีดก่อนจะเผา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่เอาตุลาการ 
ค้อนปลอมกลับลำอีก
    สำหรับกรณีการทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ล่าสุดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ศาลได้มีหนังสือมาแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน เพราะเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่มติพรรคไม่ให้ยื่นคำชี้แจง ซึ่งคิดว่าไม่มีผลบังคับถึงตัวประธานรัฐสภา เพราะต้องทำหน้าที่เป็นกลาง แต่ยอมรับว่ามีความเห็นตรงกับพรรค 
“ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่มีเหตุการณ์ถูกเรียกไปตำหนิเกิดขึ้น และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมติพรรคและ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย เพราะการที่เราไม่ไปยื่นคำชี้แจง ก็ไม่ได้แปลว่าเราสละสิทธิ์ในการให้การ ซึ่งเราเพียงแต่ทำซ้ำคำเดิมของศาลที่ย้ำว่าต้องแก้เป็นรายมาตรา จึงไม่กังวลต่อผลที่จะตามมา เพราะเราแสดงออกให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจที่ชัดเจนในตัวเอง” นายสมศักดิ์ชี้แจงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่พอใจการทำหน้าที่ จนถูกเรียกไปตำหนิ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 กล่าวว่า ตนเองและนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ คนที่ 1 พร้อมทำตามมติพรรค และเชื่อว่าพรรคยืนยันคำเดิมในการคัดค้านอำนาจศาล เนื่องจากศาลแทรกแซงการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติก่อน 
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ยังขอสงวนความเห็นที่จะส่งคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะวุฒิสภาไม่มีสังกัด จะอิงตามมติพรรคเพื่อไทยไม่ได้ วุฒิสภาต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง หากจะส่งคำชี้แจงก็เพื่อทำให้ศาลเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราไม่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง แต่หากไม่ส่งก็เพราะเห็นว่าศาลไม่มีอำนาจรับคำร้องตั้งแต่ต้น 
    นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 50 ได้ออกแถลงการณ์กล่าวหา ส.ส.และ ส.ว.ที่ประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญว่าอาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 116 นั้น ก็ขอปฏิเสธ สมาชิกรัฐสภาที่ไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาล รวมถึงจะทำจดหมายเปิดผนึก มีเจตนาที่สุจริตและบริสุทธิ์เพื่อปกป้องอำนาจหน้าที่ตนเอง ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ทางประชาธิปไตย ไม่ใช่กดดันหรือคุกคามตุลาการแต่อย่างใด 
ส่วนเรื่องการสานเสวนา 108 เวที ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพนั้น  นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวในระหว่างประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศว่า  จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค.นี้ และจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งแต่ละจังหวัดต้องเป็นเจ้าภาพหลักอำนวยความสะดวก 
นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดเวทีพูดจาหาทางออกประเทศ จะมีการเชิญวิทยากรเข้ามาอบรม 2 รุ่น จำนวน 440 คน แบ่งเป็นรุ่นที่ 1 อบรมในวันที่ 18-19 พ.ค. และรุ่นที่ 2 อบรม 25-26 พ.ค. และในเดือน พ.ค.จะโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรมต่อเนื่อง ซึ่งเนื้อหาของการเสวนา ทางคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด รวมถึงการอบรมวิทยากรด้วย โดยในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.จะดำเนินการจัดสานเสวนาทั้ง 108 เวทีไปพร้อมกัน และในเดือน ส.ค.จะรายงานผลไปยัง ปคอป.ผ่านไปทางรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น