วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

‘นายใหญ่’ พร้อมแลกเปิดเกมเสี่ยง กวาดล้างศาล ลุยปรองดอง ก่อนกลับบ้าน เ้มื่อ 28 เม.ย.56


‘นายใหญ่’ พร้อมแลกเปิดเกมเสี่ยง กวาดล้างศาล ลุยปรองดอง ก่อนกลับบ้าน



ปฏิบัติการทวงคืนอำนาจรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การบัญชาการ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ผ่าน นายกฯ หุ่นเชิด ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ น้องสาวที่เปรียบเหมือนลูกสาวคนเล็กในตระกูลชินวัตร ไม่ได้พอใจจบลงเพียงแค่ชนะเลือกตั้ง การพาพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.เสียงข้างมากจับมือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จราบรื่น เป็นเพียงบันไดขั้นแรก หนึ่งในแผนการปูทางการทวงคืน ก่อนก้าวขึ้นบันไดขั้นต่อไป ทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่างในอนาคต
    ก่อนการเลือกตั้งคงเคยได้ยินโมเดลของคนใกล้ชิดนายใหญ่-ทักษิณ บางคนบอกว่า จะแก้รัฐธรรมนูญก็ดี จะยุบองค์กรอิสระบางแห่งก็ดี จะล้มล้างระบบสถาบันตุลาการก็ดี การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดองออกมาก็ดี  
    มาจนถึงวันนี้ก็เริ่มเห็นการก้าวย่างทีละก้าวทีละก้าวอย่างมีแบบแผนแล้ว
    ระบบขุมข่ายราชการ สีกากี องค์กรรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ไม่มีอะไรให้น่ากังวลใจ การบริหารงานของรัฐบาลเพื่อไทยยังคงประคับประคอง ขยับเร่งนโยบายประชานิยม เอามาล่อตาล่อใจ ปั่นเป็นผลงานสร้างให้ชนชั้นรากหญ้าที่เป็นฐานเสียงใหญ่จับต้องได้ แค่นี้ก็ทำให้ใครหลายคนแทบจะลืมหลายโครงการที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสหมดสิ้น
    หลังเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 หากรัฐบาลเพื่อไทยโชคดีอยู่ครบเทอมรัฐบาล 4 ปี ว่ากันว่าพลพรรคลูกหาบทักษิณจะทำตามโรดแม็พที่เขียนร่างไว้ได้หมดสิ้น ส่วนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ครึ่งหนึ่งของเทอมถูกปั่นสร้างกระแส สร้างภาพลักษณ์ให้ยิ่งลักษณ์ ชูความเป็นผู้หญิงบ้างาน ไม่ตอบโต้ ไม่เล่นเกมการเมือง ควบไปกับการสร้างผลงานเอาใจรากหญ้า พร้อมกับการจัดแถวเครือข่ายอำนาจขุมกำลงกันใหม่ เป็นการโกยแต้มสร้างพลังทางรากฐานให้ตัวเองเป็นอย่างแรก
    แต่ที่น่าหวั่นใจ ครึ่งหลังนั้นพรรคเพื่อไทยจะเริ่มขยับเดินเกมแรงวัดใจมากขึ้น จังหวะก้าวการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ความพยายามยืมมือ บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มาออก พ.ร.บ.ปรองดอง ก็เป็นหนึ่งในเกมที่ถูกวางเอาไว้ แม้จะไม่สำเร็จ เพราะเจอแรงต้านจากภายใน ภายนอกสภาฯ แต่ผลการต้านครั้งนั้นก็ทำให้บรรดาวอร์รูมตึกชินวัตร หรือวอร์รูมยุทธศาสตร์ของพรรคได้ข้อคิดอะไรหลายอย่าง
    การแก้ไขรัฐธรรมนูญจากเดิมที่ดูเหมือนง่าย อาศัยพวกมากลากไป เสนอแก้โหวตๆ ให้มันจบไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ผิดคลาดเมื่อเจอแรงต้านจากภายในและภายนอก ไม่ต่างจากการเร่งออก พ.ร.บ.ปรองดองเลย โดยเฉพาะองค์กรสถาบันยุติธรรมอย่างศาลรัฐธรรมนูญที่ยังเป็นก้างชิ้นโต
    ยิ่งทำให้ นายใหญ่-คนใกล้ชิด เพิ่มพลังแค้นมากขึ้น ทักษิณเกือบไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากคดีซุกหุ้น พรรคไทยรักไทยถูกยุบ นักการเมือง 111 คนถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนถูกยุบ กรรมการบริหารพรรค 37 คน ติดโซ่ตรวนทางการเมือง ก็เพราะน้ำมือศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
    ไม่เท่านั้นมาถึงยุคเพื่อไทยยังถูกราวี จะเดินหน้าโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 3 ที่ทำไม่ได้ก็เพราะศาลรัฐธรรมนูญอีกเช่นเคย แกนนำเสื้อแดง ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ ‘ก่อแก้ว พิกุลทอง’ เจ๋ง-ดอกจิก ‘ยศวริศ ชูกล่อม’ ที่เข้าออกซังเต หรือพ้นตำแหน่งไป ก็ล้วนมีเหตุปัจจัยจากศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
    องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน เอาแค่ 2 ใน 9 วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์, จรัญ ภักดีธนากุล ย้อนอดีตผลงาน แค่นี้ทักษิณ-เพื่อไทย-เสื้อแดงก็ส่ายหน้า ร้องยี้กันเป็นแถว
    การขัดขวางของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อไม่นานมานี้ มีมติ 3 ต่อ 2 รับคำร้องเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่รัฐสภากำลังดำเนินการอยู่ไว้วินิจฉัยตามมาตรา 68 เป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ ทักษิณ-เพื่อไทย ควันออกหู จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังจากนั้นไม่นาน แนวร่วมเสื้อแดงที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ราว 200 คน จะออกมาปักหลักชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับปราศรัยโจมตี ยกระดับเหิมเกริมถึงขั้นจะจับตัวตุลาการ จะไปยื่นหนังสือสำนักงบประมาณไม่ให้จ่ายเงินเดือนให้ตุลาการนั้น ก็เป็นท่าทีที่เหิมเกริมสุดจะบรรยาย แต่ทว่ากลุ่มคนพวกนี้ไม่สนใจอยู่แล้วว่าต่อมาจะมีข้อหาตามมาหรือไม่ เพราะได้สร้างผลงานเข้าตาขาใหญ่เพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ฝั่ง ส.ส.เพื่อไทยก็ขยับเป็นระบบ 1 พ.ค. จะออกจดหมายเปิดผนึกแสดงท่าทีชัดเจนในนามพรรคไปยังศาล ก่อนหน้านั้นกลุ่ม ส.ส.และ ส.ว.ก็กำลังล่าชื่อ หาช่องยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุที่เข้ามาก้าวก่ายเขตงานนิติบัญญัติเกินขอบเขต  
    นายใหญ่-ทักษิณ ก่อนหน้าส่งสัญญาณ skype ผ่านการประชุม ส.ส.เพื่อไทยช่วงหนึ่ง "ครั้งก่อนแก้ทั้งฉบับก็ไม่ได้ ครั้งนี้แก้รายมาตราก็มีปัญหา หากครั้งนี้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จก็ให้ประชาชนตัดสินใหม่ด้วยการยุบสภา’
    …อยากให้พวกเราช่วยกัน เมื่อพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.เข้มแข็ง ผมก็มีโอกาสสูงที่จะได้กลับบ้าน ถ้าไม่เข้มแข็ง โอกาสจะได้มาก็น้อย พอไม่ได้กลับบ้านก็หาเสียงยาก เราเถียงกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ว่าไปตามกัน
     …ขอให้เข้มแข็งเป็นกำลังใจให้พวกผม เมื่อได้แรง ผมก็จะเป็นกำลังใจให้พวกท่าน วันนี้ผมยังว่ายน้ำกลางทะเล พวกที่นั่งฉลอง จิบแชมเปญอยู่ริมฝั่ง ขอให้เบาๆ หน่อย เดี๋ยวไอ้คนอยู่กลางทะเลจะตกใจจมน้ำตายไปซะก่อน เราต้องสื่อสารให้ชัดเจน ทุกคนจะได้รู้ว่าการต่อสู้ที่ยาวนานต่อสู้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราไม่มีความรู้ ฟังแต่คำโกหก ไม่เชื่ออะไรเลย พวกนี้ก็ขยันโกหกด้วย”
    มีการพูดกันในพรรคเพื่อไทยอย่างหนาหู บอกหลังจากนี้ให้จับตาสถานการณ์ภายในพรรคให้ดีๆ เพราะจากนี้ไปจะเริ่มเล่นเกมแรง เปิดเกมยั่วแบบวัดใจกัน พร้อมแลก ชนิดเดิมพันความเป็นความตายของพรรคกันก็บ่ยั่น
    ว่ากันว่านายใหญ่เริ่มหมดความอดทน เริ่มทนรอไม่ได้ หลังจากเป็นนักธุรกิจการเมืองเร่ร่อนมากว่า 6 ปี ผ่านรัฐบาลที่มีอำนาจมา 2 ยุค แต่ก็ยังกลับบ้านไม่ได้เสียทีดั่งที่เขาเคยเปรย แต่สะท้อนนัยบางอย่าง ‘ผมนี่ก็แปลก ช่วยคนโน้นคนนี้ไปอยู่โน่นได้ แต่กับตัวผมเองล่ะ วันนี้ยังเหมือนว่ายน้ำอยู่กลางทะเล’
    ทำให้ใครหลายคนถอดรหัสตีความว่า ครั้งนี้สัญญาณที่ส่งมามันชัดกว่าครั้งก่อนๆ และดูเหมือนเพื่อไทยจะเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่แค่ออกโรงขู่เหมือนคราวที่แล้ว ด้านแนวรบทางสภาฯ ในพรรคก็กำลังรวบรวมรายชื่อเตรียมยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แนวร่วมนอกสภาฯ คนเสื้อแดงก็ขย่ม ข่มขวัญหาแนวร่วมทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรศาลไปพร้อมกัน
    สอดรับกับปฏิกิริยาของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ชักแถวออกมาบอกก่อนหน้า ‘นพดล ปัทมะ’ ที่ปรึกษากฎหมายนายใหญ่-ทักษิณ ก็บอก ‘ที่ผ่านมาเรายอมให้ฝ่ายอยุติธรรมมากเกินไปแล้ว’ สามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย ก็บอก ‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด’ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำ นปช. ก็ไล่ให้ ‘ศาลไปกวาดบ้านตัวเอง สนับสนุนให้มีการปฏิรูปศาล’
    ขณะเดียวกันก็ต้องเอาใจคนเสื้อแดงไปพร้อมๆ กันกับการเร่งทำเรื่องนิรโทษกรรมให้เป็นรูปธรรม ก็เห็นได้จากการเริ่มขยับตัวมากขึ้นของแกนนำ ควบคู่กับการเปิดเวทีปราศรัยชาวบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ ชี้ให้เห็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ ทั้งรัฐธรรมนูญ ปรองดอง และคัดค้านอำนาจศาล
    พรรคเพื่อไทยกำลังเร่ง 2 เรื่องเกมเสี่ยงไปพร้อมกัน โดยมีเดิมพันสูงถึงขั้นพร้อมเอาสถานะรัฐบาล พรรคเพื่อไทยและสถานภาพ ส.ส.เข้าแลก
    เสี่ยอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้เป็นคีย์แมนคนสำคัญในวอร์รูมยุทธศาสตร์เพื่อไทย ซ้ำยังมีสัมพันธ์อันดีกับทักษิณ-หญิงปู ยังเคยหลุดปากกลางที่ประชุมพรรคถึงแนวทางการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้แนวร่วมเสื้อแดงว่า "รู้ว่าเรื่องนี้มีความเห็นแตกต่าง แต่ก็ต้องมีข้อสรุปเรื่องนี้ให้ได้ เรื่องมันค้างอยู่ สังคมก็มองพรรคเพื่อไทยจะเอายังไงกับเรื่องนี้ นายกฯ ยังบอกถ้ายุบสภาฯ ก็ต้องยุบ แต่ต้องมีเจตจำนงอะไรสักอย่างว่าเพื่อไทยแคร์คนที่เดือดร้อน แต่เราพร้อมจะสู้ทั้งระบบไหม ถ้าไม่ชนะ พร้อมจะยุบสภาฯ ไหม"
    ปฏิบัติการวัดใจ เปิดหน้าชนเข้าแลก ไม่ยอมถอยอีกแล้ว แบบอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ด้านหนึ่งหากทำสำเร็จเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 68 ที่ล้มล้างศาลสำเร็จ ก็จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการไต่บันไดไปกินรวบทุกองค์กรอย่างเบ็ดเสร็จ บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ เช่นเดียวกับการเร่งออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากสำเร็จนอกจากได้แนวร่วมแล้ว ยังเป็นช่องทางฟอกตัวเคลียร์ให้ตัวเองได้อีกด้วย
    โรดแม็พนายใหญ่แผนกินรวบ ฟอกตัวเอง ปูทางกลับบ้าน จะสัมฤทธิผลหรือไม่ ต้องติดตามชนิดห้ามกะพริบตาเลยทีเดียว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น