วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มาดูชัดๆ นายกสภา ม.รามฯ ยันมีชายชุดดำใช้สไนเปอร์ดักยิง น.ศ.รามฯ จริง !วันนี้ (2 ธ.ค.56)



มาดูชัดๆ นายกสภา ม.รามฯ ยันมีชายชุดดำใช้สไนเปอร์ดักยิง น.ศ.รามฯ จริง !
นายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ยืนยันมีชายชุดดำใช้สไนเปอร์ดักยิง น.ศ.รามฯ จริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจดูแลความปลอดภัยแม้แต่น้อย

วันนี้ (2 ธ.ค.56) นายวิรัช ชินวินิจกุล ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยถึงกรณีเหตุปะทะกันที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย ว่า วันที่ 28-29 พ.ย. ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.รามฯ) ได้มาหารือกับตน โดยเกรงว่าเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองน่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงได้สั่งปิดมหาวิทยาลัย ตนก็เห็นด้วยและขอให้ดำเนินการทันที
         
ในวันเกิดเหตุ วันที่ 30 พ.ย. กลุ่ม น.ศ.ม.รามฯ ก็ได้ตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณด้านหน้า ม.รามฯ เป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่สามารถกระทำได้ จนกระทั่งในช่วงดึกตนได้รับรายงานจากอธิการบดีว่า มีเหตุปะทะกันบริเวณ ม.รามฯ ก่อนเกิดการปะทะก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เต็มพื้นที่โดยรอบ แต่พอสักระยะหนึ่งตำรวจกลับหายไปหมดไม่มีอยู่ในพื้นที่แม้แต่คนเดียว
         
ต่อมาฝ่ายตรงข้ามก็ได้เข้ามารุมทำร้ายกลุ่มนักศึกษา ม.รามฯ เรื่องดังกล่าวคล้ายกับเป็นการวางแผนเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้าม โดยตนได้ประสานไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งตำรวจและทหาร แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเลย ซึ่งในคืนนั้นกลุ่ม น.ศ.รามฯ ต้องขึ้นไปหลบอยู่บนอาคารจำนวนกว่า 2,000 ราย
         
จากการสอบถามทราบว่า สาเหตุที่ออกไปด้านนอกอาคารไม่ได้เนื่องจากมีชายชุดดำดักซุ่มยิงปืนสไนเปอร์จากบนตึกสูงใส่กลุ่มนักศึกษา ทำให้นักศึกษาออกไปยังด้านนอกมหาวิทยาลัยไม่ได้ ขณะที่บางคนพยายามวิ่งฝ่าไปแต่เมื่อหลุดออกไปได้ กลับพบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนดักรุมทำร้าย โดยปิดล้อมทั้งประตูด้านหน้าและด้านหลังของมหาวิทยาลัย ทำให้กลุ่มนักศึกษาไม่สามารถออกจากมหาวิทยาลัยได้เลย
         
"ในคืนนั้นจึงต้องลำเลียงส่งเสบียงน้ำและอาหารให้กับกลุ่มนักศึกษาที่ติดอยู่บนอาคาร จนกระทั่งในช่วงเที่ยงของวันที่ 1 ธ.ค. มีผู้สื่อข่าวช่อง 7 โทรศัพท์มาสัมภาษณ์ตนถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผมได้ชี้แจงไปว่ามีนักศึกษาติดอยู่บนตึกประมาณ 2,000 คน และไม่สามารถออกมาได้เพราะถูกดักซุ่มยิงดังกล่าว ต่อมาหลังให้สัมภาษณ์ผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เข้ามาช่วยกลุ่มนักศึกษาจนออกมาได้ทั้งหมด"
         
“เหตุการณ์ที่ผ่านมาถือว่าเลวร้ายมาก ยืนยันว่ามีชายชุดดำใช้สไนเปอร์ดักยิงนักศึกษา ม.รามฯ จากที่สูงจริง และหน่วยงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับไม่สนใจดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มนักศึกษา ม.รามฯ แม้แต่น้อย ซึ่งตนเคลือบแคลงใจว่าตำรวจอยู่ฝ่ายใครกันแน่ โดยเหตุการณ์นี้ชาวรามคำแหงลูกพ่อขุนจะจดจำไปตลอดชีวิต เป็นวีรกรรมที่จะไม่มีวันลืม” นายกสภา ม.รามคำแหง กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น