|
|
ผ่าประเด็นร้อน
ยังไม่กำหนดวันเวลาแน่ชัดว่าจะเป็นวันไหนในการ "ปฏวัติประชาชน" ปฏิบัติการ "ยึดเมือง" แต่จากปากของ "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปีว่าจะต้องเกิดขึ้นแน่หลังปีใหม่ตอนนี้ก็ให้พี่น้องประชาชนทั้งหลาย เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะพร้อมรับสถานการณ์ "ชิงอำนาจ"ของประชาชนคืนมาจากรัฐบาล ทรราช ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ
ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้บรรดาข้าราชการทั้งหลายให้มายืนเคียงข้างกับมวลมหาประชาชนที่รวมพลังกันออกมา เพราะทนไม่ไหวกับการใช้อำนาจที่ "ห่วยแตก" สร้างประโยชน์และหาผลประโยชน์ให้กับครอบครัวชินวัตรเท่านั้น
แน่นอนว่ามวลมหาประชาชนออกมาคราวนี้มากมายเป็นประวัติการณ์ ไม่มีเคยมีมาก่อน ไม่ต้องเถียงกันแล้วจำนวนกี่หมื่น กี่แสนหรือกี่ล้านคน เอาเป็นว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีประชาชนพร้อมใจกันออกมามากมายล้นหลามแบบนี้มาก่อนก็แล้วกัน
ที่สำคัญมากกว่า"ม็อบเสื้อแดง"ของ ทักษิณ ชินวัตรที่ระดมมาเผาบ้านเผาเมืองก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน เพียงแต่ว่ามวลมหาประชาชนคราวนี้เป็นการแสดงพลัง ไม่ยอมรับระบอบทักษิณ ไม่เอารัฐบาลห่วยแบบนี้อีกแล้ว ไม่ได้กดดันด้วยการ "เผา" สร้างแรงกดดันด้วยการก่อจลาจล ไม่ได้ฆ่าตำรวจ ไม่ได้ฆ่าทหาร ไม่มีกองกำลังติดอาวุธ มี"ชายชุดดำ"คอยซุ่มยิงสร้างสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
การชุมนุมแบบสันติของประชาชนแบบนี้แน่นอนว่าต้องใช้เวลากว่าจะเผด็จศึกลงได้ หรือการบีบให้รัฐบาลลาออกไป แต่เมื่อต้องมาพบกับ "รัฐบาลทรราช"ที่หน้าด้าน ทำทุกทางเพื่อรักษาอำนาจ เพราะการมีอำนาจคือเครื่องมือในการ"สร้างความร่ำรวย"ให้กับตัวเองและพวกพ้องคนพวกนี้ก็ต้อง "ด้านและยื้อ"จนถึงที่สุด ไม่สนใจ ไม่แคร์ว่าว่าบ้านเมืองจะต้องสูญเสีย มากมายแค่ไหนก็ตาม เพราะหากเหตุการณ์เกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยจริงรับรองว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลจะต้องลาออกไปแล้ว
อย่างไรก็ดีปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นย่อมไม่อาจมาเปรียบเทียบกับรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายใต้การสั่งการของ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชายเป็นอันขาด เพราะมันเป็น "ของปลอม"เป็นประชาธิปไตยแต่เปลือก แอบอ้างประชาธิปไตยมาหากิน รวมทั้งความหมายของประชาธิปไตยเพียงแค่ "เลือกตั้ง" เพื่อใช้เสียงส่วนใหญ่มาหาประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
ดังนั้นเมื่อเป็นของปลอม มันก็ใช้มาตรฐานทางจริยธรรมแบบสากลทั่วไปไม่ได้เป็นอันขาด ทุกอย่างที่เห็นล้วน "ด้าน"เหลือกำลัง ทำทุกทางเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ให้นานที่สุด สิ่งที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้ก็คือใช้กลไกข้าราชการ เป็นฐานรักษาอำนจอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ และสำหรับระบอบทักษิณ รวมไปถึงรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ความหมายก็คือใช้ "รัฐตำรวจ"ข่มขู่ คุกคาม ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งมวลมหาประชาชนที่กำลังออกมาขับไล่รัฐบาลทรราชกันอยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกันนอกจากมีรัฐตำรวจ มี"ตำรวจขี้ข้า"คอยรับใช้รักษาอำนาจกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังถือว่าสร้างความ"เสี่ยงภัย"ให้กับชาวบ้านมากพออยู่แล้ว นาทีนี้ยังต้องเพิ่มความลำบาก "รำคาญใจ"กับ "นายทหารบางคน"ในกองทัพ ซึ่งจากท่าที และคำพูดแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น "ทหารแตงโม" ที่ถวายตัวรับใช้ ทักษิณ ชินวัตร ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นคือการปกป้องรับใช้รัฐบาลทรราช ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปด้วย อย่างที่บอกว่าให้ "ถอยกันคนละก้าว" หรือว่าตัวเองขอ "เป็นกลาง" ซึ่งในความเป็นจริงในความ "ชั่ว"กับความ"ดี"ถูกกับผิด หมือนกับรัฐบาลนี้ ระบอบทักษิณ ที่เห็นกันอยู่แล้วว่าทุจริต เลว ห่วย อย่างไรมันไม่มีทางเป็นกลางหรือถอยให้เป็นอันขาด คนที่พูดแบบนี้ถือว่า "เอาตัวรอด"เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดีนาทีนี้ถือว่ามวลชนเขา"ตื่นรูั"และรับรู้ถึงที่มาที่ไปของ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงนายทหารรุ่นพี่ในกลุ่ม "บูรพาพยัคฆ์"อีกหลายคนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถึงเวลาก็ต้องกวาดพร้อมกันไปทีเดียวพร้อมกันให้หมด ไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว ดังนั้นถึงเวลาต้องกดดันให้เลิกนำกองทัพไปอุ้มรัฐบาลชั่วๆแบบนี้ได้แล้ว และต่อไปหากไม่ทำตามก่วยไม่ได้ที่จะต้องไล่ออกไปให้พ้นทาง เพราะการปฏิวัติประชาชนไม่มีทางสำเร็จได้เร็ว หากยังมีพวก "ทหารแตงโม"แบบนี้คอยขวางคลองอยู่ !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น