|
|
รายงานการเมือง
อีกเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว แต่ดูทีท่าของพลังมวลมหาประชาชนในนาม “กปปส.” ภายใต้การนำของ “กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” ยังไร้ “หมัดน็อก” ที่จะขับไล่รัฐบาลทรราชอย่างเบ็ดเสร็จได้
ประเมินจากปัจจัย ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าการต่อสู้คงไม่จบลงง่ายๆ และทำท่าจะเป็น “เกมยาว” ที่ลากไปเข้าศักราชใหม่ 2557 โดยมีธงตั้งอยู่ที่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “ม็อบกำนัน” ได้ระดมพลครั้งใหญ่มาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง และแต่ละครั้งก็มีผู้มาร่วมเป็นประวัติการณ์ทุบสถิติการชุมนุมที่ผ่านในอดีตจนราบคาบ คือ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่มีมวลมหาประชาชนหลั่งไหลมาร่วมแสดงพลังจนเนืองแน่นถนนราชดำเนิน
หรือเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ถนนทุกสายเต็มไปด้วยมวลชนจากทั่วทุกหัวระแหงมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาลอย่างมืดฟ้ามัวดิน แม้ในวันนั้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะรีบชิงประกาศยุบสภาทันที ก่อนถึงเวลานัดหมายของม็อบ แต่ก็ไม่สามารถลดทอนพลังของมวลมหาประชาชนที่ออกมาบนท้องถนนได้แต่อย่างใด
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.กับปฏิบัติการ “ชัตดาวน์ กทม.” ตั้ง 18 เวทีปิดเมืองกรุงครึ่งวัน ก็มีผู้คนที่รักชาติรักแผ่นดินแห่แหนมาร่วมในทุกๆ จุดในระดับหลายล้านคน มีการใช้หลักวิชาการประเมินแล้วน่าจะแตะระดับ 6 ล้านทั่ว กทม.ด้วยซ้ำ
แต่มวลมหาประชาชนที่ออกมาแสดงพลัง ก็ยังไม่อาจทำให้ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” สะทกสะท้าน ยังหน้าด้านหน้าหน้าทนไม่ลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการตามข้อเรียกร้อง
ต้องยอมรับว่าทุกๆ ครั้งที่มีการระดมพล จำนวนของผู้ชุมนุมมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจพูดได้ว่าเป็น “ชัยชนะ” ของมวลมหาประชาชนทุกครั้ง แต่ก็เป็นชัยชนะที่ไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที เพราะวันนี้ “ยิ่งลักษณ์” ก็ยังชูคอเป็นนายกฯ รักษาการ
และใช้สิทธิ์ในฐานะผู้นำประเทศออกทัวร์ลั้นลาอย่างมีความสุขเป็น “คุณหนูไม่รู้” อยู่เหมือนเดิม
คำถามมีว่า “กำนันสุเทพ” จะเดินเกมอย่างไรต่อไป จะปิดเกมเช็กบิลได้เมื่อไหร่
เพราะขนาดมวลมหาประชาชนออกมาแสดงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ชี้ให้เห็นว่ามีคนชังมากว่าคนรักเพียงนี้แล้ว แต่เมื่อบรรดากุนซือหัวหมอวางคิวให้ “คุณหนูปู” เล่นบทนิ่ง แถมชิ่งไปอยู่นอกเมืองกรุงตลอดแบบนี้
โดยเฉพาะเมื่อการเล่น “เกมแรง” ส่งมวลชนค้างคืนปิดล้อมสนามไทย-ญี่ปุ่น สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.เพื่อสกัดการเลือกตั้งอัปยศ กลับเกิดกระแสตีกลับ เมื่อการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมกระทบกระทั่งกับ “สื่อมวลชน” มีการปิดล้อมและเกือบทำร้ายนักข่าวภาคสนามหลายเหตุการณ์ รวมทั้งอีกหลายกรณีที่ผ่านมา ซึ่งผู้สื่อข่าวภาคสนามหลายๆ สำนักถูกคุกคามโดยไร้เหตุผล ถึงขนาด “สุเทพ” ต้องใช้ช่วงเวลาปราศรัยในค่ำคืนนั้นขอโทษขอโพยสื่อเป็นการใหญ่ และสั่งให้ยกเครื่องจัดระเบียบอำนวยความสะดวกให้แก่สื่อมวลชน
นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ “กำนันสุเทพ” ต้องพลิกเกมจากเดิมที่ตั้งใจให้มวลชนปักหลักบล็อกไม่ให้มีการสมัครเลือกตั้งที่สนามไทย-ญี่ปุ่นได้ เป็นการนำพามวลชนเคลื่อนกลับมาสู่ที่ตั้งเวทีราชดำเนินแทน แต่ก็ทิ้งท้ายไว้ว่าหากยังมีการเลือกตั้งอยู่ในวันที่ 2 ก.พ. 57 ก็เตรียมการยกระดับการชุมนุม “ชัตดาวน์ กทม.” อีกครั้ง แต่คราวนี้จะปิดทั้งเมือง และปิดตลอดวัน
รวมไปถึงคำประกาศปิด กทม.ตลอดเดือน ม.ค. ประท้วงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.พ.
แต่นั่นเป็นเป้าหมายที่ยังค่อนข้างห่างไกล เพราะอุปสรรคที่จะเกินขึ้นภายในสัปดาห์นี้สัปดาห์หน้าคือ “7 วันอันตราย” ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ที่เป็นเงื่อนเวลา อาจส่งผลให้ “ม็อบกำนัน” ออกอาการกร่อย และหมดพลังไปได้
เนื่องด้วยช่วงเวลาที่ว่าเป็นช่วงแห่งการท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศอุณหภูมิที่เป็นใจ ทำให้เชื่อว่าเทศกาลปีใหม่จะมีผู้คนแห่ไปพักผ่อนท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก นั่นก็หมายรวมถึงแนวร่วม กปปส.ด้วยเช่นกัน
ถือเป็น “7 วันอันตราย” ที่แกนนำ กปปส.ต้องหาทางแก้ลำประคองกระแสให้ได้
โดยแผนการในตอนนี้มีการวางโปรแกรมระยะสั้น ปลุกมวลชนให้มาร่วมแสดงพลังอีกครั้งในช่วงวีกเอนด์ ศุกร์-อาทิตย์สุดท้ายของปีนี้ ก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว พร้อมทำสัญญาประชาคมว่าปีหน้าฟ้าใหม่จะมาร่วมหัวจมท้ายกันอีกครั้งหลังแยกย้ายไปชาร์จแบตเติมพลังกันแล้ว
ต่อเนื่องด้วยแผนจัดงานใหญ่ “เคานต์ดาวน์ข้ามปี” ร่วมกันของมวลชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน เฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้งจัดงานถวายพระพรในวโรกาสมหามงคล 5 ธ.ค.มหาราชที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประคองเกมรักษาฐานมวลชนไว้ในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะเป่านกหวีดเรียกรวมพลยกระดับการชุมนุมหลังก้าวข้ามศักราชใหม่ไปแล้ว โดยมีธงนำคือ ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ต้องไม่เกิด
อีกทั้งเป้าหมายสูงสุดในการกดดันให้ “ยิ่งลักษณ์” ยอมถอนก้นออกจากเก้าอี้นายกฯ รักษาการ เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาเดินหน้าแนวทางปฏิรูปประเทศ รวมไปถึงสภาประชาชนที่จะต้องเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวด้วย
เป็นอันว่าถึงนาทีนี้ คงฟันธงได้เลยว่า “รัฐบาลปู” จะยังงแข็งขืนไม่ยอมลงให้แก่พลังมวลมหาประชาชน และคงฝืนดื้อรั้นต่อไปให่ถึงการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ให้ได้ เพื่อหวังใช้คะแนนโหวตจากสาวกตัวเองในการเป็นข้ออ้าง “พลิกเกม” เพื่อกลับมาครองอำนาจฮุบประเทศครั้งใหม่
เดิมพัน “ศึกชิงเมือง” หนนี้ยังสูงลิบลิ่ว ทำให้ต้องว่ากันไปแบบยาวๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น