ปฐมบทแห่งการ (ล้ม) เลือกตั้ง
เห็นจะต้องแสดงความยินดีล่วงหน้ากับ "ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ ๑" ของเพื่อไทย นามว่า "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" พลันปรากฏชื่อในบัญชีรายชื่อยื่นสมัครต่อ กกต.วันแรก (๒๓ ธ.ค.๕๖)นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๙ ต่อจากยิ่งลักษณ์ ตล. ก็จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากคนชื่อยิ่งลักษณ์ ตล.
"หญิงสารพัดฉายาโฉด" คนแรกและคนเดียวในโลก!
นี่พูดในความหมายว่า วันที่ ๒ กุมภา ๕๗ กกต.ปลุกเสกการเลือกตั้งให้เกิดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจริง!?
เพราะผมไม่เชื่อว่าประเทศไทย-คนไทยจะสยบยอมให้ระบอบทักษิณ อาศัยพิธีกรรมเลือกตั้งเป็นฉากประชาธิปไตยให้ปล้นชาติซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่า
และผมก็อยากพิสูจน์เหมือนกันว่า ข้าราชการ องค์กรตามรัฐธรรมนูญทั้งหลายเมื่อจุดเป็น-จุดตายมาถึง
จะเลือกใช้อำนาจ-หน้าที่ "ด้วยสยบยอม" ทำเถนตรงข้อกฎหมาย โดยนัยเปิดประตูให้โจรพรางตัวระบบเลือกตั้งเข้ายึดบ้านครองเมือง
หรือจะเลือกชาติ ประชาชน ด้วยตระหนักถึงภัยจากระบอบทักษิณที่เข้ามาแล้ว กอบโกย-โกงกิน-กัดกร่อน ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังประจักษ์แล้ว?
การที่ทักษิณส่งยิ่งลักษณ์ลงปาร์ตี้ลิสต์อันดับ ๑ จะมองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากย้ำคำตอบ "โจทย์ประเทศ" ว่า
ทักษิณคอนเฟิร์มแล้ว...ระบบรัฐ ไม่ว่าข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ รวมถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญ "ส่วนใหญ่" เวลานี้
"เอากับระบอบทักษิณ"!
เอาตามน้ำกันง่ายๆ ด้วยหน้าที่ระบบรัฐ เพียงดุน-ดันให้การเลือกตั้ง ๒ กุมภาเกิด ต่อจากนั้น เรื่องคะแนนเสียง และการเข้าสู่อำนาจ
"ระบอบทักษิณ" จัดการเอง!
ยิ่งลักษณ์จะเป็นสัญลักษณ์ "ระบอบทักษิณ" ยึดชาติ หยามหน้าคนไทยด้วย "หญิงโง่" ที่เย้ยกันดีนัก
หญิงโง่ผู้ใช้งามสยบขุนศึกนี่แหละ จะกลับมาเป็นนายกฯ สมัย ๒ ให้พวกรักชาติ และพวกคนฉลาด...กระอักเลือด!
มองไปข้างหน้า ถ้าเลือกตั้งเกิดจริง ประเทศไทย ระบบรัฐสภา จะเป็นครั้งแรกที่ไม่มีฝ่ายค้าน ทั้งรัฐบาล ทั้งรัฐสภา ตีตรา "ระบอบทักษิณ"
๓ สถาบันอำนาจประเทศ สถาบันบริหาร คือรัฐบาล สถาบันนิติบัญญัติ คือรัฐสภา ๒ ใน ๓ นี้ จะเป็นอำนาจผูกขาดระบอบทักษิณ
เหลือเพียง "สถาบันตุลาการ" หนึ่งเดียวค้ำชาติ ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่า ถ้าปล่อยไปในรูปนี้ หลังเลือกตั้ง ๒ กุมภา
ประเทศไทย, สถาบัน, ระบอบปกครอง ภายใต้อำนาจระบอบทักษิณ จะตกอยู่ในสภาพไหน ก็ตรองกันเอา?
ไม่ใช่กลัว.....
แต่บอกให้รู้ว่า...ข้างหน้าจะเป็นอย่างนี้ ถ้ามหาประชาชนยอมให้คนในระบบรัฐวันนี้ สังวาสประโยชน์กับโจรปล้นบ้าน-กินเมือง
โดยไม่ลุกขึ้นทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติ ในยามที่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
กำลังมีภัย!?
ผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่กระทำกันไปเมื่อวาน (๒๓ ธ.ค.) โดย กกต.ในการเปิดรับสมัครเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ ๒ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง จะถูกต้องตามกฎหมายบัญญัติหรือไม่
เพราะดูมีลับลม-คมใน ไม่บริสุทธิ์ โปร่งใสเลยจริงๆ!
อะไรกัน...เวลาราชการเปิดทำงานก็ ๐๘.๓๐ น. แต่ปรากฏว่า ในหลายสิบพรรค มีแค่ ๗-๘ พรรคเข้าไปยื่นได้
ยื่นอะไรกันตั้งแต่ตี ๓ ตี ๔ ตี ๕ กกต.ทำเหมือนนัดแนะล่วงหน้า หรือรู้กัน หรือขยันผิดเวลาราชการ หรือทำแบบทักษิณ ให้ ๓๑ ธันวา เปิดราชการ เพื่อให้เมียซื้อขายที่ดิน
และนี่ เปิดเวลาราชการ ตี ๓ ตี ๔ ร่วมกับพรรครัฐบาล "ลักหลับ" เลือกตั้ง?
แถมประกาศรับสมัครในสถานที่หนึ่ง แต่แอบมุบมิบไปทำกันอีกที่หนึ่ง จะอ้างว่ายังไม่ใช่การสมัครจริง แค่มาลงเวลา มาตรวจความพร้อม นั่นก็อ้างได้
แต่ยังไงก็...ส่อพฤติกรรมไม่บริสุทธิ์!
ถ้า กตต.ไม่นัดแนะกับพรรคผู้สมัครบางพรรค เช่น พรรคเพื่อไทย ทั้งคนพรรค และคน กกต.จะเกิดนิมิตตรงกัน แล้วตื่นมาพบกันที่อาคารกีฬาเวสน์ตั้งแต่ตอนตี ๓ ตี ๔ เทียวหรือ?
การทำแบบนี้ โมฆะหรือไม่ เพราะไม่ใช่เวลาที่ประกาศไว้เป็นทางการ และเป็นธรรมกับพรรคอื่นๆ หรือไม่...
กกต.ก็คงมีข้ออ้างในการตอบมากมาย แต่มันถูกต้อง และสง่างามหรือไม่ ด้วยวิญญูชนอย่าง กกต.ก็ตอบกับจิตสำนึกตัวเองดู?
ด้วยใจจริง ผมไม่อยากให้ใครตำหนิ หรือคิดในแง่ลบกับ กกต.ชุดใหม่นี้เลย ปรารถนาจะเห็น กกต.ที่บริสุทธิ์-โปร่งใส
ไม่ต้องเข้าข้างประเทศไทย หรือประชาชนก็ได้ ขอเพียงทระนงในหน้าที่แห่งตน ปฏิบัติด้วยจิตสำนึกดุลยธรรม สามารถตอบคำถามกับประชาชนในสิ่งที่ทำ ไม่ต้องตรงใจ
ตรงเหตุ-ตรงผลก็พอ!
แต่ที่ทำเมื่อวาน จะอ้างมหาประชาชนจำนวนมากกีดขวางการรับสมัคร เป็นเหตุให้ต้องรับสมัครกันแบบ "ลักหลับ" นั่นมันคนละเรื่อง
จะอ้างเหตุคนมุงล้อมเพื่อทำผิด-ทำเลี่ยงกฎหมาย ไปมุมมิบสมัครกันบนโรงพัก อย่างนั้น ฟังไม่ขึ้น
นี่อย่างหนึ่งละ ยังมีอีกอย่าง ถ้า กกต.ไม่เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ ก็น่าจะเห็น
ก็ดูซี...ตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ให้มีการเลือกตั้งวันที่ ๒ ก.พ.นายกฯ รักษาการ "นางยิ่งลักษณ์"
ไปไหน ไปทำอะไร กับใคร ที่ไหน?
ท่านประธาน กกต. "นายศุภชัย สมเจริญ" ก็เห็นใช่มั้ย?
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.รับผิดชอบด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ก็เห็นใช่มั้ย?
นายประวิช รัตนเพียร กกต.รับผิดชอบด้านกิจการการมีส่วนร่วม ก็เห็นใช่มั้ย?
นายธีรวัฒน์ ธีระโรจน์วิทย์ กกต.รับผิดชอบด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ ก็เห็นใช่มั้ย? และ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.รับผิดชอบด้านกิจการบริหารเลือกตั้ง ก็เห็นใช้มั้ย?
เห็นว่า...
การทำเป็นหนีการขับไล่ของมวลมหาประชาชนปฏิวัตินั้น แท้จริงแล้ว เป็นการฉวยโอกาสใช้ตำแหน่ง อำนาจ หน้าที่ "นายกฯ รักษาการ" ไปทำในสิ่งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญห้าม เด่นชัด
แต่คล้ายกับว่า กกต.ทั้ง ๕ ท่าน ไม่เห็นเลย!
คือไม่เห็นว่า นางยิ่งลักษณ์ใช้เวลาราชการ ใช้ค่าใช้จ่ายหลวง ใช้คนหลวง ทั้งหลาย-ทั้งปวง ตะลอนไปทั่วอีสาน และขณะนี้ตะลอนหาเสียงต่อทั่วเหนือ
นั่นคือ การทำผิดกฎหมาย ใช้ของหลวง คนหลวง เงินหลวง เวลาหลวง ไปหาเสียงเลือกตั้งให้พรรคตัวเอง ชนิดจะเลี่ยงอ้างเป็นอื่นไม่ได้
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑ ในข้อที่ใช้กับคณะรัฐมนตรีที่ยุบสภาฯ มีว่า.....
(๒) ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน
(๓) ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
(๔) ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
เนี่ย...ผมเชื่อจะต้องมีคนร้องเรียนกับ กกต.แน่ ใน (๒) (๓) กกต.ต้องไปสืบสวนสอบสวนในแต่ละจังหวัดที่นางไปสั่งนั่น-ตรวจนี่ ว่ามีไปอนุมัติอะไรไว้บ้างหรือไม่
แต่ใน (๔) มันชัดเจนครับว่า นายกฯ รักษาการทำผิดกฎหมาย ทุกจังหวัดที่ไป ล้วนใช้ข้าราชการฝ่ายปกครอง เห็นผู้ว่าฯ ยืนกอกระดุมทุกจังหวัด ยังไม่นับตำรวจที่ต้องระดมมาในทุกจังหวัด
แล้ว พล.ต.อ.พงศพัศ อะไรนั่น ยังมีรัฐมนตรีรักษาการบางคนอีก เป็นบุคลากรของรัฐ หรือบุคลากรเฉพาะตัวข้างกายยิ่งลักษณ์มิทราบ เป็นเงาตามติดไปทุกที่ ๒๔ ชั่วโมง?
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ ค่าต้อนรับขับสู้ ค่าที่พักไม่ว่าพักชั้น ๑ หรือชั้น ๗ ใช้ทรัพยากรรัฐ เงินหลวงทั้งนั้น
กกต.ลองวินิจฉัยซิว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดหรือไม่?
การอ้างไปปฏิบัติราชการนั้น เป็นการหาเสียงเพื่อประโยชน์ตัวเองและพรรคเพื่อไทย อันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑ หรือไม่?
ผมยังหวังด้วยเชื่อในสัตย์ซื่อ-จริงใจของ กกต.ชุดนี้อยู่ ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อสังเกตบนบทสรุปว่า
เมื่อขึ้นต้นเป็นอย่างนี้ แล้วจะลงท้ายการเลือกตั้ง "ด้วยดี" ได้อย่างไร?.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น