วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สุดท้ายแห่ง "หยดเลือด" เซ่นชัย เมื่อ 27 ะงค.56

สุดท้ายแห่ง "หยดเลือด" เซ่นชัย


ยิ่งลักษณ์...เธอยังมีเวลาหายใจอยู่ในประเทศไทยได้อีกกี่วัน...กี่ชั่วโมง เริ่มต้นนับไปตั้งแต่วันนี้เลย จะ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลือกเอาคน เลือกเป็นตำรวจทาส "เช็ดสะอื้น" คุ้มกันออกไป
พี่ชายเป็นนายกฯ ก็ให้ตำรวจฆ่าตัดตอนเป็นพันศพ พี่เขยเป็นนายกฯ ก็ให้ตำรวจฆ่าพันธมิตรฯ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า 
ตัวเองเป็นนายกฯ ก็ให้ตำรวจฆ่ามวลมหาประชาชนที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น สดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน (๒๖ ธ.ค.๕๖)
พวกเธอต้องการให้ได้ชื่อว่า "ตระกูลโคตรฆาตกร" กระหายเลือดประชาชน อย่างนั้นหรือ?
กับตำรวจทั้งหลาย.....
จิตสำนึกของพวกคุณ มองเห็นระบอบทักษิณที่กัดกินโกงชาติมีค่าเหนือกว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มวลมหาประชาชนออกมาทำหน้าที่พิทักษ์รักษา 
ด้วยการกระทำที่...โหดเหี้ยม อำมหิต ยิ่งกว่าโจร ขนาดนี้เชียวหรือ?
ผมเศร้า หดหู่ และขยะแขยงพวกคุณจนพูดไม่ออก คิดไม่ถึง...คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า "ตำรวจแห่งชาติ" ที่วันนี้มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นผู้นำ 
จะกล้าทำกับประชาชนผู้เป็นเหมือนบิดร-มารดา เลี้ยงดูพวกคุณด้วยเงินเดือนตลอดมาถึงขั้นนี้
ดังประจักษ์ ที่อาคารกีฬาเวสน์ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ตั้งแต่เช้าตรู่ยันเย็นค่ำ จนย่านดินแดงเหมือนเมืองในหมอกด้วยแก๊สน้ำตา ระงมด้วยเสียงปืน คละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือด 
ไม่ว่าเลือดประชาชน หรือเลือดตำรวจ!
แต่นั่น...ล้วนมาจากกระสุนนัดแรกของตำรวจที่สาดใส่มวลมหาประชาชน จนเกิดกระบวนการต้านต่อ 
และมหาประชาชนที่ไปนั้น ไปด้วยเป้าหมาย สำนึกดีต่อบ้านเมือง เพียงไม่ประสงค์ให้การจัดการเลือกตั้งอันโมฆะแต่แรก เกิดขึ้นเท่านั้น
เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ...!
ด้วยความสูงส่งทางจิตวิญญาณของมวลมหาประชาชน ผู้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติ ไม่เคยเห็นตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ กระทั่งชาวบ้านต่างความคิดว่าเป็นศัตรูต้องฆ่ากัน 
แล้วตำรวจเอาความคิดตรงไหนเป็นตัวตั้งว่า มหาประชาชนที่ไป ไปด้วยมุ่งร้ายล้างผลาญ เหมือนอย่างที่พวกคุณทำในปี ๕๒-๕๓ 
จึงปฏิบัติต่อมหาประชาชน ด้วยจิตสำนึกโฉด เห็นเป็นศัตรูต้องฆ่า ระดมยิง ไล่ยิง ทั้งภาคพื้นดิน และปีนขึ้นหลังคาสไนเปอร์ถึงอย่างนั้น?
คุณตำรวจทั้งหลาย...
เพียงมหาประชาชนไม่สยบยอมให้ยิ่งลักษณ์ ร่างทรงระบอบทักษิณทำพิธีกรรมเข้าสู่อำนาจเพื่อกินเมืองได้สะดวก
พวกคุณก็เห็นมหาประชาชนเป็นศัตรูที่จะอยู่ร่วมชาติ ร่วมประเทศไม่ได้ ต้องฆ่า...ต้องฆ่า...ยิ่งกว่าหมาบ้ากลางแดด ขนาดนั้นเชียวหรือ?
มือขวาเป็นโจรฆ่า มือซ้ายเป็นตำรวจชูกฎหมาย...! 
ทั้งจับ ทั้งยัดข้อหา ไอ้ปึ้ง ไอ้ขนหัวกระจุก ที่นั่งแป้น ศอ.รส. แถลงป้ายสี ยัดข้อหาประชาชน แล้วทาขมิ้น ประแป้งหน้าตัวเองนั้น...
มหาประชาชนไม่อาฆาต แต่มึงจำไว้ ภายใต้กระโปรงนายมึง ภายใต้เสื้อแดง มึงสะใจ ด้วยสั่งไล่ฆ่าประชาชน 
อีกไม่นาน...มึงต้องรับผลที่มึงทำเมื่อวาน ใช่พูดด้วยแค้น แต่นี่...เรื่องจริงที่ "มนุษย์" อย่างมึงมองไม่เห็น!
วิธีการยิงแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยาง กระสุนจริง ทั้งหลาย-ทั้งปวง ไม่ต้องถามว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำเพียงสกัดกั้นตามขั้นตอน หรือทำด้วยอาฆาตแค้น สะใจ กระหายเลือด?
มันชัดว่า สะใจ..ต้องการฆ่า ยิงแก๊สน้ำตาก็เล็งยิงตรงๆ ใส่หน้า ซึ่งตามหลักการนั้น การยิงแก๊สน้ำตา ยิ่งโด่งให้ตกลงมา เจตนาใช้ควันไล่ แต่ถ้าพบว่าทำให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ
........ต้องหยุด!
แต่นี่...นอกจากไม่หยุดแล้ว ยังกระหน่ำซ้ำยิงไม่ยั้ง เข้าข่ายเจตนา จงใจฆ่า เรื่องนี้ต้องถึงศาลแน่ ตั้งแต่นายกฯ ผบ.ตร. ผบช.น. และตำรวจที่ควบคุมวันนั้น
ต้องเป็นจำเลยในศาล คดีจงใจฆ่าประชาชน!
ปฏิบัติการ "คิลลิ่งฟิลด์" ของตำรวจเมื่อวาน ผลที่ตามมาคือ
๑.ภาครัฐ ภาคประชาชน ไม่ยอมรับอำนาจ "นายกฯ รักษาการยิ่งลักษณ์แล้ว
๒.การเลือกตั้ง ๒ กุมภา ไม่มีแล้ว
๓.สภาปฏิรูปประเทศ ไม่มีใครเอาแล้ว
๔.ขับเน้นแนวทางมหาประชาชนปฏิวัติเด่นชัดขึ้น
๕.ประเทศเข้าสู่ภาวะ "สุญญากาศ" ทางอำนาจบริหารแล้ว
"หนังหน้าไฟ" ที่ผมค่อนข้างเห็นใจในภาวะเช่นนี้ก็คือ กกต.และกองทัพ!
กกต.นั้น ผมประเมินใจท่านทั้ง ๕ ต้องการให้เลื่อนออกไป แต่ กกต.ไม่มีอำนาจเลื่อน คนมีอำนาจคือนายกฯ เมื่อนายกฯ ยืนกราน ก็จำต้องทำ
เมื่อเหตุร้ายแรงเกินคาดเกิดขึ้น เป็นเหตุผลที่ กกต.แถลง "การเลือกตั้งเกิดไม่ได้แน่แล้ว" และโยนกลับให้รัฐบาลตัดสินใจ
และผมเชื่อ แม้รัฐบาลดึงดันให้ กกต.จัดการเลือกตั้งให้ได้ กกต. "ไม่สนองตอบ" คำสั่งรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมแล้วแน่ๆ!
ส่วนกองทัพ เป็นฝ่าย "เข้าเนื้อ-เจ็บตัว" มากที่สุด พูดกันตรงๆ ผลีผลามออกมาโดยไม่ถอดสมการประวัติศาสตร์เป็นยุทธศาสตร์ "การทหารว่าด้วยการเมือง" สู่ศตวรรษใหม่
เจ็บอีก และจะเจ็บหนักด้วย!
และการไม่ผลีผลามออกมา ใช้ลีลาที่คนภายนอกยากหยั่ง "ทางเดินทหาร" เข้าตั้งรับสถานการณ์ ยอมถูกด่า-ถูกเข้าใจผิดในช่วงเวลาหนึ่ง 
อดและทนให้นักการเมืองภาครัฐบาลมีบทเรียน ให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีบทเรียน ไม่ใช่ให้ทหารเรียนผิด-เรียนถูกแล้ว "รับเละ" อยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเดิมๆ
และนั่น...ถ้าถึงวันที่ทหารต้องทำหน้าที่ ด้วยการศึกษาและทำการบ้านมาดีแล้ว การทำหน้าที่ของทหาร จะเป็นการออกมาทำที่...ลงตัวที่สุด
อะไรที่ได้ง่าย ไม่ค่อยเห็นค่า!
ครั้งนี้ ครั้ง "หัวเลี้ยว-หัวต่อ" เปลี่ยนทางประเทศสู่อนาคตใหม่ มันต้องยาก ต้องอดทน ต้องทดสอบ กันนานและมากหน่อย จะห่วยแตกเหมือน ๑๙ กันยา ๔๙ ไม่ได้
เพราะคำว่า "ทหารปฏิวัติ" จะไม่มีในพจนานุกรมไทยอีกแล้ว มีแต่คำว่า Change 
ปฏิรูป หรือการเปลี่ยนแปลงในลักษณะ "ลอกคราบประชาธิปไตย" เดิม ให้โตในเส้นทาง บนความหมาย
ประชาธิปไตย ที่มี "ธรรมาธิปไตย" เป็นคุณสมบัติในหัวใจของนักการเมือง ของคนมาเป็นคณะบริหารประเทศ!
มหาประชาชนปฏิวัติ แนวทางกำนันสุเทพ เป็นประกายประชาธิปไตยต้นร่างของการลอกคราบสังคมประเทศ ขอพวกเราทั้งหลายมั่นใจ ภูมิใจ แล้วจับมือ กอดไหล่ อดทนเดินกันไป
ไม่พูดว่า "เรามาถูกทางแล้ว" แต่พูดว่า เส้นทางตัดใหม่ของมวลมหาประชาชนนี่แหละ จะพาผองไทยออกจาก "ทางหลงป่า" เชื่อมเส้นทางอนาคตโลกใหม่ ที่ไทยทุกภาคส่วนจะช่วยกัน "ลงตะไบ" แนวทางมหาประชาชนปฏิวัติ ให้คมชัด สะอาด เรียบ ไปทีละขั้นตอน
และแต่ละขั้นตอนนั้น ในคำว่ามหาประชาชน หมายรวมถึง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และประชาชนที่มีสายเพ่ง "อนาคตข้างหน้า" บนปรัญชาพอเพียงร่วมกัน
เคยคุยกันว่า ไม่เกิน ๑๕ มกรา ๕๗ เราทั้งหลายจะชนะในขั้นตอนหนึ่ง...!
ที่ ป.ป.ช.แถลงเมื่อวาน (๒๖ ธ.ค.) กรณีแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว.ก็รัฐสภาผัวเมียนั่นแหละ ๒ ประธานทาสทักษิณ "นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" กับ "นายนิคม ไวยรัชพานิช"
หัวขาดไปแล้ว!
ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อหา กระทำการส่อทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตาม ม.๒๗๐ ต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่ง
ส่วน ส.ส.-ส.ว.อีก ๓๘๓ คนนั้น ผิดข้อหาเดียวกัน ถูกถอดถอนเช่นกัน!
อยากรู้ "ต้นเรื่อง" จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็อ่านจากหนังสือ "บันทึกประวัติศาสตร์ราชดำเนิน มหาประชาชนปฏิวัติ ที่พี่น้องชาวราชดำเนินซื้อไปกันคนละเล่ม-สองเล่มนั่นแหละ
ก็ตอกย้ำว่า ถึง ๒ กุมภา มีเลือกตั้ง ก็ไม่มีพรรคเพื่อไทยตะกายมาเป็นรัฐบาลโกงบ้าน-กินเมืองให้ทักษิณแล้ว!
และเมื่อวาน ภาคพ่อค้า นักธุรกิจ ที่ยิ่งลักษณ์หวังใช้เป็นเครื่องมือสร้าง "สภาปฏิรูปประเทศ" เขาพากันปฏิเสธ 
ความจริง สภาปฏิรูปประเทศนั้น ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๑ (๒) (๓) เป็นนายกฯ รักษาการ แต่ไปทำเรื่องผูกพันถึงรัฐบาลหน้า ผิดซ้ำ-ผิดซากจริงๆ
ดูแล้วก็ขำ กำนันสุเทพเสนอ "สภาประชาชน" นักกฎหมายขี้ข้าทักษิณบอกให้ยิ่งลักษณ์พูด "ทำไม่ได้ ไม่มีกฎหมายรองรับ" 
แล้วสภาปฏิรูปประเทศนั่นน่ะ เสือกทำได้ กฎหมายพ่องมันละมังรองรับ!?
วันนี้ สรุปกันตรงๆ ขอให้พี่น้องมวลมหาประชาชนทั้งหลาย เตรียมดีใจ ฉลองพร้อมปีใหม่ จงเชื่อในกำนันสุเทพ หน้าที่เพื่อประเทศนี้...อีกกริ๊กเดียว
แจ็กพอร์ต...แตก!.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น