วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

น้ำท่วมกรุงเก่าหนักขึ้น คาดอีก 5 วันอ่วมแน่ “กรมศิลปากร” ระดมป้องกันโบราณสถาน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 13:59 น.

น้ำท่วมกรุงเก่าหนักขึ้น คาดอีก 5 วันอ่วมแน่ “กรมศิลปากร” ระดมป้องกันโบราณสถาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์23 กันยายน 2556 13:59 น.

พระนครศรีอยุธยา - หลายอำเภอในพระนครศรีอยุธยาน้ำยังท่วมสูง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเอ่อเข้าท่วมไม่หยุด โดยเฉพาะวัดที่อยู่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบหนัก ด้าน “กรมศิลปากร” ระดมป้องกันโบราณสถาน ปภ.อยุธยา เผย ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น หลังน้ำผ่านนครสวรรค์เพิ่มขึ้น คาดอีก 5 วันอ่วมแน่ ขณะที่ระดับหน้าหน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานมรดกโลกน้ำเจ้าพระยาขึ้นสูง 
       
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ระดับน้ำในพื้นที่ อ.บางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเฉลี่ย 10-15 เซนติเมตร โดยยังพบว่าวัดที่อยู่ริมแม่น้ำหลายวัดยังคงถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยที่วัดอัมพวา หมู่ 1 ต.บางหัก อ.บางบาล น้ำได้ทะลักเข้าไปทั่วบริเวณโดยมีความสูงจากพื้น 1 เมตร น้ำท่วมเข้าไปภายในพระอุโบสถ พระซึ่งอยู่ภายในวัด 7 รูป ต้องลุยน้ำช่วยกันเก็บสิ่งของ เช่น พระพุทธรูปบูชา โต๊ะหมู่ พรม และเครื่องบูชาต่างๆ นอกจากนี้ ยังต้องเดินลุยน้ำช่วยกันเก็บสิ่งของที่อยู่นอกวัดด้วย เช่น รถสำหรับใช้ในพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งจมน้ำทั้งคัน
       
       พระปรีชา กิตติปาโร อายุ 60 ปี พระลูกวัดเปิดเผยว่า วัดอัมพวาเป็นวัดริมแม่น้ำ และมีคันดินล้อมรอบแต่ไม่เคยป้องกันได้ น้ำพังเข้ามาเมื่อค่ำวันที่ 21 ก.ย. พระต้องช่วยกันขนของ ตอนนี้ประสบปัญหาเรื่องเรือที่ใช้บิณฑบาต เนื่องจากเรือที่ใช้อยู่เป็นเรือใหญ่ ส่วนเรือเล็กก็เล็กจนนั่งกันหลายรูปไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคือ อาหาร ซึ่งยังคงต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก
       
       ส่วนการป้องกันวัดธรรมาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเหนือพื้นนอกบังเกอร์ประมาณ 30 เซนติเมตร โดยเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ย.น้ำได้ซึมเข้าทางฐานล่างของบังเกอร์ ทำให้ต้องระดมกำลังป้องกันจุดที่น้ำซึมกันตลอดคืน ซึ่งตั้งแต่เช้าวันเดียวกันนี้ กรมศิลปากร ระดมกำลังกันป้องกันน้ำที่ซึมได้สำเร็จแล้ว โดยมีการสูบน้ำออกจากญานล่างของบังเกอร์ที่น้ำซึม และมีการนำกระสอบทรายถมในจุดที่น้ำซึมเอาไว้ได้แล้วทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะสามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน
       
       ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำวันนี้ว่า ในพื้นที่ อ.บางบาล ผักไห่ เสนา พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร สาเหตุเนื่องจากน้ำผ่านเขื่อนนครสวรรค์ 1,564 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 108 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านสิงห์บุรี 2,044 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 84 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านอ่างทอง 2,028 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองบางบาล 183 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกจากเมื่อวานนี้
       
        โดยช่วงเที่ยงวันนี้ ริมคลองบางหลวง บางบาล แม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตบางบาล พระนครศรีอยุธยา เสนา ผักไห่ บางไทร บางปะอิน จะเพิ่มต่อเนื่องเกือบทุกวัน เพราะน้ำจากนครสวรรค์ค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่หากชลประทานควบคุมการระบายน้ำให้อยู่ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็จะทำให้ระดับน้ำในจังหวัดฯ เพิ่มขึ้นไม่มาก คือ ประมาณวันละ 15-20 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม คาดว่าจากนี้ไปอีก 4-5 วัน น้ำจะเพิ่มขึ้นอีก 50 เซนติเมตร
       
       ส่วนที่วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่โบราณสถานสำคัญอันเป็นมรดกโลก พบว่า ระดับน้ำเจ้าพระยาหน้าวัดไชยวัฒนาราม มีปริมาณเพิ่มขึ้น และไหลแรง โดยปริมาณน้ำได้พ้นแนวตลิ่งเข้าถึงแนวบังเกอร์กั้นน้ำกว่า 20 เซนติเมตร ซึ่งบังเกอร์ที่ตั้งด้านติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีระยะทาง 165 เมตร จำนวน 138 แผ่น ขนาดของบังเกอร์กว้างแผ่นละ 1.20 เมตร และสูง 1.90 เมตร
       
       ขณะที่บริเวณรอบข้างของวัดไชยวัฒนาราม เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้เร่งทำแนวคันดินทางข้างวัดที่มีการรื้อกำแพงเก่าออก โดยการเอาดินมาปั้นเป็นคันกันน้ำชั่วคราวสูงกว่า 3 เมตรล้อมรอบเพื่อป้องกันน้ำที่จะทะลักเข้าท่วมโบราณสถานอันเป็นมรดกโลกแห่งนี้ซ้ำรอย ปี 2554 อีกชั้น โดยคาดว่าวันนี้น่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น