"ทัพฟ้า-ทัพบก" ระดมกำลังช่วยน้ำท่วมเต็มพิกัด
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 15:17 น.
วันที่ 23 ก.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ (23 ก.ย.) ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เพื่อประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและส่วนที่รับผิดชอบ โดยได้สั่งการให้ 3 กองบินที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ คือ กองบิน 1 จ.นครราชสีมา กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี และกองบิน 23 จ.อุดรธานี เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และเขตใกล้เคียงที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่รับมวลน้ำก้อนใหญ่และอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเป็นพิเศษ โดยใช้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมทั้งใช้อากาศยานออกตระเวนสำรวจพื้นที่ที่ต้องออกช่วยเหลือและเกิดน้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ในส่วนกลางของกองทัพอากาศได้เตรียมทรายและถุงบรรจุทรายบางส่วน เพื่อใช้ทำเป็นแนวกั้นน้ำ แต่อาจจะไม่เพียงพอต่อความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จึงอาจจะมีการจัดซื้อจัดหาเพิ่มเติมก่อนจะลำเลียงผ่านเครื่องบินซี-130 ที่กองทัพอากาศได้เตรียมไว้ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ กองทัพบกได้ส่งกำลังทหาร พร้อมเครื่องมือเข้าบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการอพยพคน ขนย้ายสิ่งของไปในพื้นที่ปลอดภัย ก่อกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมในสถานที่สำคัญ และเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำตามริมแม่น้ำ รวมทั้งจัดรถ และเรือบริการรับ - ส่งประชาชน แจกจ่ายถุงยังชีพ และบริการตรวจรักษาพยาบาล โดยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนได้กำชับให้หน่วยทหารประสานความร่วมมือกับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อเข้าช่วยเหลือให้ทันเวลา และตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดกองทัพบกยังคงกำลังทหาร 1,750 นาย รถบรรทุก 45 คัน เรือท้องแบน 20 ลำ ออกช่วยเหลือประชาชนใน 18 จังหวัดที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีความคืบหน้าการช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ ในวันนี้มีดังนี้ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังพล 100 นาย เข้าช่วยก่อกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำปราจีนบุรี ไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลเมือง และโบราณสถานสำคัญ คือ วัดแก้วพิจิตร พร้อมขนย้ายสิ่งของอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร อ.กบินทร์บุรี น้ำยังคงทุ่มสูงในระดับ 70 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้ ขณะที่มณฑลทหารบกที่ 12 ยังคงกำลังทหาร 150 นาย พร้อมเรือและชุดแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ 50 นายเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ รับ-ส่งประชาชน และตรวจสุขภาพ
ส่วน อ.ไชโย จ.อ่างทอง ปริมาณน้ำท่วมยังคงทรงตัว โดยกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จัดกำลังพลเข้าช่วยเทศบาลเกษไชโย ตอกเสาเข็มกันดินสไลด์ริมตลิ่งใน ต.ไชโย พร้อมขนย้ายสิ่งของ และทำพนังกั้นน้ำใน ต.หลักฟ้า ส่วนที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ นำกระสอบทรายก่อเป็นพนังกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าเพิ่มเติม และตอกเสาเข็มเพื่อป้องกันดินสไลด์ รวมทั้งแจกจ่ายเรือให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 232 ครัวเรือน และที่ อ.วิเศษชัยชาญ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 รักษาพระองค์ ยังคงเฝ้าระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาจาก จ.นครสวรรค์ที่อาจส่งผลกระทบทำให้แม่น้ำน้อยล้นตลิ่งได้
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา กรมสรรพาวุธทหารบก ยังคงกำลังทหารเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของให้กับประชาชนใน อ.บางบาล พร้อมทั้งก่อกระสอบทรายเสริมความแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำท่วม ที่พระตำหนักสิริยาลัย ส่วนจังหวัดทหารบกสระบุรี ได้เข้าตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณชุมชนริมแม่น้ำใน อ.เสนา และ อ.บางบาล พร้อมเฝ้าติดตามและประสานการช่วยเหลือกับส่วนราชการในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองทัพภาคที่ 2 ยังคงกำลังทหารพร้อมรถบรรทุก และเรือท้องแบน ในการอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร ที่จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และนครราชสีมา ส่วน จ.สุรินทร์ ระดับน้ำในหลายอำเภอเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียง อ.เมือง และ อ.สำโรงทาบ ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร ขณะที่จังหวัดทหารบกสุรินทร์ใช้เรืออำนวยความสะดวกด้านการสัญจรให้กับประชาชน และได้นำเครื่องอุปโภค - บริโภค แจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ยังได้เปิดสโมสรนายทหารค่ายวีรวัฒน์โยธินให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวกับประชาชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ล่าสุดมีผู้ประสบภัยอยู่ในศูนย์พักพิง 150 คน
ที่ จ.นครราชสีมา มณฑลทหารบกที่ 21 จัดกำลังพลช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับประชาชนที่ ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด ขณะเดียวกันกองพลพัฒนาที่ 2 ส่งทหารพร้อมเครื่องสูบน้ำ เข้าช่วยสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากหมู่บ้านแสวงรีสอร์ท อ.เมือง นอกจากนี้ อ.แม่สอด จ.ตาก ปริมาณน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 เข้าช่วยฟื้นฟูทำความสะอาดบริเวณตลาดริมเมย เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จ.นครสวรรค์ น้ำจาก อ.แม่วง ไหลเข้าท่วม อ.ลาดยาว ขณะนี้มณฑลทหารบกที่ 31 นำกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยเข้าก่อกระสอบทรายเป็นพนังกั้นน้ำ ป้องกันน้ำทะลักเข้าพื้นที่ชุมชุม พร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
ที่ จ.พิจิตร จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ยังคงกำลังทหารในพื้นที่ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ ช่วยขนย้ายสิ่งของ และอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ยังคงประสานกับหน่วยทหารในพื้นที่ และส่วนราชการต่างๆ เพื่อระดมความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่มีสถานการณ์ให้ทันต่อเหตุการณ์ สำหรับผู้ประสบอุทกภัยต้องการความช่วยเหลือติดต่อหน่วยทหารใกล้บ้าน หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2 และ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น