"จากป่าสู่เมือง-จากเมืองกำลังเข้าป่า"
วันนี้ (๒๔ ก.ย.๕๖) มีหนังดีฉายประชันพร้อมกัน ๒ โรง คือที่รัฐสภา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย "ภาคบังคับ" ตามตำแหน่งนายกฯ จะแถลงผลงานรัฐบาลในรอบปี และที่ศาลปกครองสูงสุด กรณียิ่งลักษณ์อุทธรณ์คำวินิจฉัยศาลปกครองกลางที่ให้คืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.กับนายถวิล เปลี่ยนศรี นั้น........
บัดนี้...ศาลปกครองสูงสุดได้เสร็จสิ้นขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่ ๖ ก.ย. หมายความว่า ปิดรับข้อเท็จจริงทั้งมวล ใครจะอ้างโน่น-อ้างนี่ ยื่นเอกสารอะไรมาอีกไม่ได้แล้ว
และวันนี้ (๒๔ ก.ย.) เข้าสู่ขั้นตอนพิธีกรรม การวินิจฉัยคดีของคณะตุลาการ นั่นหมายความว่า นับจากนี้ไป ไม่เกินกลางเดือนตุลา น่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาว่า คำอุทธรณ์ของนายกฯ ฟังขึ้น หรือฟังไม่ขึ้น
ถ้าขึ้น ก็ขอแสดงความยินดีกับคุณหนู "พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร" ที่จะได้นั่งเล่นตุ๊กตุ่น-ตุ๊กตาเสียกบาลบ้านเมืองในตำแหน่งเลขาฯ สมช.ตามทักษิณบัญชาต่อไป
ถ้าไม่ขึ้น คำอุทธรณ์ตกไป ก็ขอแสดงความยินดีกับนายถวิลผู้ประกาศชัด "ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ที่จะได้ตำแหน่งเลขาฯ สมช.คืน!
และยินดีกับประเทศชาติบ้านเมืองที่อนาคตด้านความมั่นคง ยังพอจะอุ่นใจได้ ในภาวะ "ทุกข์ซ้ำ" บ้านเมืองก็คงไม่ถูก "กรรมซัด" ให้วิบัติเป็นหนักไปกว่านี้!
ครับ..สถาบันบริหาร-สถาบันนิติบัญญัติ "ออกฉาก" สนุกสนาน มันมือ-มันปากมานานพอสมควรแล้ว นับจากนี้ไปก็น่าจะเป็นเวลาที่สถาบันตุลาการได้ "ออกฉาก" แสดงบทเพื่อบ้านเมืองบ้าง
ทั้ง "ตุลาการไทย-ตุลาการโลก" นี่...เป็นเวลาของท่าน เพราะนอกจากศาลปกครอง ศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.แล้ว
ตุลา-พฤศจิกา "ศาลโลก" ก็ได้ฤกษ์ออกฉาก "ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร" เมื่อปี ๒๕๐๕ ว่า ตามคำพิพากษานั้น ขอบเขตที่ตั้งตัวปราสาทพระวิหาร มันมีแค่ไหน-ตรงไหน?
หรือตีไม่แตก โยนกลับให้ "ไทย-เขมร" ไปว่ากันตามกรอบเจรจาที่มีอยู่แล้วแต่เดิม คือให้คณะกรรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-เขมร (JBC) สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่กันไปเอง ตามที่ตกลงกัน
ขณะนี้ สถานการณ์อำนาจทั้ง ๒ ฝ่าย "ไม่เหมือนเดิม" ฝ่ายเขมร..สมเด็จฮุน เซน เปิดสภาเมื่อวาน ชงเอง-กินเอง มีแต่ ส.ส.รัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านไม่ยอมร่วมสังฆกรรม
"สม รังสี" ผู้นำฝ่ายค้าน ด้วยแรงส่งยุโรป-สหรัฐ กำลังเป็นซันไรส์
ส่วน "สมเด็จฮุน เซน" ฝ่ายรัฐบาล เริ่มขาดแรงส่ง กำลังเป็นซันเซต
เช่นเดียวกับไทย รัฐบาล "ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ" เข้าสู่สภาพหัวทิ่ม-หัวตำ ก่อนเข้ามาบอก "จะไม่กู้ซักบาท เพราะมีมันสมอง" แต่พอเข้ามา...กู้แม่งมันวินาศสันตะโรตั้งแต่วินาทีแรกยันวินาทีสุดท้าย (ที่ใกล้มาถึง)
ประชาชนเขียว เหลือง แดง ดำ เรียกว่า "ทุกสี" จับได้ด้วยพฤติกรรมประจักษ์ ทั้งกู้-ทั้งโกง-ทั้งกิน ขืนธุระไม่ใช่ เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่
ชาวบ้านสิ้นใจ-ไทยสิ้นชาติ "ตายยกแผ่นดิน" แน่นอน!
ไต้ฝุ่น "อุซางิ" ว่าเป็นมหาพายุ แต่ถ้ามองจากนอกเข้ามาข้างใน "คนภายนอก" จะบอกว่า "มวลชนปฏิวัติ" ที่กำลังก่อตัวในประเทศไทยเวลานี้
เป็นอภิมหาพายุ จะรุนแรงและน่ากลัวกว่า "อุซางิ" ร้อยเท่า!?
เพราะทักษิณอยู่ข้างนอก เมื่อมองเข้ามาข้างในจึงเห็นระลอกคลื่นแต่ละทิศ-ละทาง ทบยอดทยอยไล่ก่อตัวเป็น "มวลชนปฏิวัติ" ชัดกว่าคนข้างในที่เป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ เป็นหนอนแดงในถังคูถ ที่มองกันไม่เห็น
ทักษิณจึงผวา...ร้อง ๘ ตุลา มีคนจ้องล้มรัฐบาล!
เห็น "เงา" ผีผลัก ยิ่งลักษณ์ล้มลงไป ทักษิณก็โวยวายคล้ายคนประสาทหลอน ด้วยปรากฏการณ์เป็นลาง ฝั่งเขมร-ฮุน เซน โทรมทรุด ฝั่งไทย-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ฝันร้ายคล้ายผีผลัก
ก็อยากบอกไพร่ราบ-ลูกหาบแดงทั้งหลาย ยามตาย "ตายก่อน" แต่ยามเสวยสุข กลับไม่ได้อะไรกับเขา ฉะนั้น "สิบเบี้ยใกล้มือ" คว้าอะไรได้ตอนนี้ก็รีบคว้าเอา
เพราะอีกไม่นาน น้ำที่มากับไฟ และไฟที่มากับน้ำ จะทั้งกวาด-ทั้งเผา "เสนียดแผ่นดิน" สิ้นสุดแห่งความชั่วร้ายที่ทำลายเมืองเสียที!
ผมไม่เห็น แต่เหมือนมีสิ่งมาบอกให้รู้ "ในสิ่งที่ผมไม่รู้" ฉะนั้น ไม่มีเหตุผลที่ท่านจะรับฟังหรือเชื่อถือ แต่ให้ดูไว้...ทุกย่างก้าวบนความเป็นไป ทุกอย่างจากนี้...จะไม่เหมือนเดิม
เรื่องน้ำ ๓.๕ แสนล้าน ก็ดี เรื่องราง ๒ ล้านล้าน ก็ดี เรื่องข้าว ๖.๗ แสนล้าน และจะเอาอีก ๒.๗ แสนล้าน ก็ดี
ทั้งผีน้ำ ผีป่า ผีถนน ผีราง และแม่พระโพสพ ณ เทวสมาคมพิทักษ์ ลงความเห็นว่า เมื่อเหล่าอสูรยักษี-ยักษาอหังการ-เหิมเกริม ต่อกรุงรัตนโกสินทร์เหนืออาณัติฟ้า
"ทัณฑ์อาญา" สายฟ้าแลบ ซึ่งจะมาแบบมิคาดหมาย ท่านทั้งหลาย ถ้าไม่ถอนพฤติกรรม "พึงระวัง" ให้จงหนัก!
ออกกฎหมายตามอำเภอใจ แก้รัฐธรรมนูญด้วยกูเป็นใหญ่ ด้วยหวังอาศัย "พระปรมาภิไธย" ประกาศใช้เป็นใบบุญอ้างอิงบังหน้า นั่นหารู้ไม่ว่า ประหนึ่งกำเริบเสิบสานคิดการไม่ซื่อ ผลของมันก็คือ
กระทำต่อกฎหมาย...
มันก็ต้อง "รับกรรม" ทางกฎหมาย ด้วยโทษที่ "อ้าย-อี" มันกระทำ
เพราะมันหยิ่งผยองจนลืมไปว่า กฎหมายที่จะฉีกทิ้งด้วย "อสัตย์ในหัวใจ" นั้น ประทับตรา "พระบรมราชโอการ" เด่นชัด
เมื่อกระทำด้วยขั้นตอนที่ขัดบทบัญญัติ เท่ากับขัดพระบรมราชโองการ อันเรียกว่า "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย"
ถึงเวลา "กฎหมาย" ทำงานแล้ว...
หลังจากปล่อยให้พวกเจ้า "ทำงามหน้า" มาเป็นเวลานานพอสมควร!
ส่วนวันนี้-พรุ่งนี้ ๒๔-๒๕ กันยา เพราะคุณวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ "ฟันธง" รัฐบาลทำผิดกฎหมายแล้ว ๒ เรื่อง เครื่องจึงติด-คิดแถลง เรื่องแรก ไม่แถลงผลงานปีละครั้งต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๗๕ วรรคสอง
และเรื่องโครงการน้ำ ๓.๕ แสนล้าน ตาม พ.ร.บ.ต้องกู้ให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ มิ.ย.๕๖ แต่ยังไม่มีอะไรเสร็จตามอ้างว่าเป็นโครงการเร่งด่วนเลย ถ้าน้ำท่วมตอนนี้ จะโทษว่าเพราะศาลไม่ให้กู้ก็ไม่ได้ รัฐบาลนั่นแหละต้องรับผิดชอบ
และที่ไปเซ็นกู้ ๓.๕ แสนล้านกับ ๔ ธนาคารไว้ก่อนสไตล์ศรีธนญชัยนั้น เมื่อยังไม่มีการเบิกใช้ ก็ถือว่าความผิดยังไม่เกิด แต่ถ้าไปเบิกวันไหน ทุกองค์ประกอบการทำผิดกฎหมายจะสมบูรณ์ทันที!
เอ้า...ก็ลองฟังกันวันนี้ พวกซับในเขาจะเขียนให้ยิ่งลักษณ์ลุกขึ้นแถในรัฐสภาอย่างไรบ้าง แต่อยากถามก่อนว่า นี่...วันนี้แถลงผลงานรัฐบาลปีแรก สิงหา ๕๔-สิงหา ๕๕ ใช่ไหม หรือเหมารวม แถลงทีเดียว ๒ ปี
จากสิงหา ๕๕-สิงหา ๕๖ ด้วย?
แต่ถ้าหลงจ้ง ๒ ปีแถลงครั้งเดียวกันไปเลย ระวัง...จะผิดกฎหมายซ้ำสอง เพราะมาตรา ๗๕ วรรคสองระบุ.....เสนอต่อรัฐสภาปีละ ๑ ครั้ง
ไม่ใช่ ๒ ปี ๑ ครั้ง อย่างที่กำลังแถลงวันนี้!
จำนำข้าวหมดไป ๖.๗ แสนล้าน แต่นายกฯ สมาคมชาวนาไทยบอกว่า ชาวนาได้จริงๆ แค่ ๘๖,๐๐๐ ล้าน แล้วอีก ๕ แสนกว่าล้านมันไปไหน อย่าลืมแถลงให้มันแดงแจ๋-แดงจ๋าด้วยนะยิ่งลักษณ์
งบประมาณแผ่นดินปีละกว่า ๒ ล้านล้าน นอกงบประมาณที่แถว่า "เงินกู้ ไม่ใช่เงินแผ่นดิน" อีกนับไม่ถ้วน ถ้าปีละ ๔๐ สองปีก็ ๘๐ สามปีก็ ๑๒๐ เป็นรัฐบาลครบสี่ปีก็ ๑๖๐
โอ๊ยยยย...โคตรบิดร-มารดา เกิดชาตินี้ ชาติหน้า ไม่ว่าชาติไหนๆ ขอให้ได้เกิดมาเป็นนักการเมืองใต้บารมี "ทักษิณริ-ยิ่งลักษณ์ยำ" เทิ้ดดดดด พ่อเจ้าประคู้นนนนนนน!!!!
วันนี้ขอแข่งกับ "ท่านขุนน้อย" ด้วยการห้อยคำคม ว่าด้วยกรณี "เขื่อนแม่วงก์"
นายปลอดประสพ สุรัสวดี.........
"ผมพยายามทำความเข้าใจว่าผู้คัดค้านจะค้านทำไม เหตุใดจึงเชื่อแบบนั้น แต่ขอขอบใจที่พวกเขาเป็นคนรักป่า รักสัตว์ป่า แต่ผมรักคนไทยมากกว่า ผมเลือกเอาชีวิตของคนไทยมากกว่า ผมต้องทำให้คนไทยปลอดภัยให้ได้ ป่าสร้างได้ สัตว์ป่าสร้างได้ แต่ถ้าน้ำท่วมไม่มีคนไทย ประเทศก็อยู่ไม่ได้ รัฐบาลตัดสินใจแล้วคือสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไม่มีเปลี่ยนใจ"
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร.........
"......เราคงต้องมาประเมินในพื้นที่ว่าเราจะรับอันไหน เพราะถ้ามีธรรมชาติก็อาจเกิดความสวยงาม แต่แน่นอนผลกระทบหรือความเสี่ยงที่เราต้องรับในเรื่องของอุทกภัยที่จะไหลลงมา โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใต้ท้ายเขื่อน"
"สืบ นาคะเสถียร".......
"ผมขอพูดในนามสัตว์ป่าทุกตัว เพราะพวกเขาพูดเพื่อตัวเองไม่ได้"
"ศศิน เฉลิมลาภ"......
"การที่ผมเดินนั้น ผมไม่ต้องการสื่ออะไร
.....แต่อยากให้สงสัย".
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น