วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

"ปู" หน้าเหวอ ?? ขณะยืนดูระดับน้ำพุ่งสูงขึ้น ที่แม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ 23 ก.ย.56



"ปู" หน้าเหวอ ?? ขณะยืนดูระดับน้ำพุ่งสูงขึ้น ที่แม่น้ำเจ้าพระยา

"ปู" ตะลึง!! หลังยืนดูระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณระเบียงหอประชุม -พร้อมแสดงความเป็นห่วงและให้กองทัพเรือดูแลอย่างใกล้ชิด

          วันนี้ (23 ก.ย.56) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ราชนาวิกสภา กองทัพเรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายวิบูลย์ สงวนพงษ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยืนดูระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณระเบียงหอประชุมราชนาวิกสภา ก่อนการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งนายกฯ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ได้ให้กองทัพเรือติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ใช้เรือผลักดันน้ำเร่งระบาย พร้อมระบุว่าได้สั่งการให้ทุกจังหวัดมีความเชื่อมโยงในการระบายอย่างเป็นระบบ มั่นใจน้ำเหนือเขื่อนจะมีปริมาณไม่มาก ขณะที่น้ำใต้เขื่อนจะมีการเร่งระบายไปตามพื้นที่รับน้ำที่เตรียมไว้ เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่กทม.สั่งเตรียมเครื่องสูบน้ำ เรือดันน้ำ ร่วมกับกทม.เร่งระบายน้ำอีกทางหนึ่งแล้ว ซึ่งเบื้องต้นกทม.ได้เตรียมแผนรับมือตามที่รัฐบาลวางแผนไว้แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมเอ่อล้นจนระบายไม่ทัน ก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ชาวบ้านประท้วงขอเปิดประตูระบายน้ำ

          อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากเข้าประชุมอาทิ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมชลประทาน และนายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เป็นต้น

          โดยนายจารุพงศ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาหลายจังหวัดมีฝนตกหนักจากร่องฝนและดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกินน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทำให้กลายเป็นข่าวที่ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือหากมีสถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น
ภาพจาก manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น