วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

ชี้'จีน'เงียบเฉยแม้มะกันอวดแสนยานุภาพใน'เกาหลี' เนื่องจากเคืองโสมแดง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2556 00:33 น


ชี้'จีน'เงียบเฉยแม้มะกันอวดแสนยานุภาพใน'เกาหลี' เนื่องจากเคืองโสมแดง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์3 เมษายน 2556 00:33 น

       เอเจนซี - การที่จีนไม่มีท่าทีตื่นเต้นตกใจเมื่ออเมริกาส่งเครื่องบินสเตลธ์แสดงแสนยานุภาพเหนือคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเปียงยางประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามกับโซล บ่งชี้ว่า พญามังกรเชื่อว่า ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของโสมแดง และการโรมรันยังไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
      
       การประจำการของกองทหารอเมริกันในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เคยเป็นประเด็นที่ปักกิ่งกังวลมาแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากกระตุ้นความกลัวเกรงที่ว่า ตนกำลังถูกถูกโอบลัอมโดยวอชิงตันและพันธมิตร โดยเฉพาะหลังจากสหรัฐฯประกาศยุทธศาสตร์ “ปักหมุด” ในเอเชีย-แปซิฟิก
      
       ทว่า การส่งเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ (สเตลธ์) ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-2 และเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 มาร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ในเวลานี้ ซึ่งเปรียบได้กับการมาโอ้อวดแสนยานุภาพกันที่หน้าประตูบ้านจีนนั้น กลับได้รับการตอบสนองจากปักกิ่งน้อยมาก ยกเว้นเพียงการออกมาเรียกร้องให้ทุกๆ ฝ่ายใช้ความอดกลั้น
      
       การประกาศของวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้วว่า จะเสริมกำลังระบบอาวุธต่อต้านขีปนาวุธเพื่อรับมือการข่มขู่ของเกาหลีเหนือ ก็ยังเรียกเสียงวิจารณ์จากจีนแค่เพียงพอหอมปากหอมคอเท่านั้น
      
       หนี่ เล่อเซวียง (Ni Lexiong) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่า การดำเนินการใหม่ๆ เหล่านี้ของสหรัฐฯ นั้น จีนไม่ได้รู้สึกว่าตนเองตกเป็นเป้าหมาย
      
       นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารที่มีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีนคนหนึ่ง ยังระบุเหตุผลที่จีนดูสงบเงียบผิดปกติในครั้งนี้ว่า เนื่องจากปักกิ่งเชื่อว่า การประจำการของกองกำลังอเมริกันในเกาหลีใต้เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อกำราบเปียงยางที่ชอบสร้างปัญหา
      
       นอกจากนั้น การสำรวจความคิดเห็นทางออนไลน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดย โกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ทรงอิทธิพลในแดนมังกร ยังพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 80% ไม่เชื่อว่า สถานการณ์ปัจจุบันบนคาบสมุทรเกาหลีมีความรุนแรง เนื่องจากไม่ใช่ครั้งแรกที่เปียงยางใช้ถ้อยคำก้าวร้าว และส่วนหนึ่งอาจเป็นด้วยวัยของ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันที่ยังหนุ่มแน่นมาก
      
       ขณะเดียวกัน เว็บไซต์จีนไม่ได้วิพากษ์อเมริกาฝ่ายเดียว แต่ยังหันมาวิจารณ์ผู้นำเกาหลีเหนือด้วย โดยส่วนใหญ่โทษว่า เป็นความผิดของคิมในการนำพาประเทศสู่หายนะและนำภูมิภาคเข้าใกล้สงคราม
      
       อย่างไรก็ดี การโจมตีเกาหลีเหนือรุนแรงเกินไปในจีนอาจได้รับผลตามมา เช่นเมื่อวันจันทร์ (1) หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบของเกาหลีใต้รายงานว่า บรรณาธิการของสตัดดี ไทมส์ ในจีน ถูกพักงานจากการวิจารณ์ผ่านไฟแนนเชียล ไทมส์ของอังกฤษว่า จีนทอดทิ้งเกาหลีเหนือ
      
       คนจำนวนไม่น้อยในจีนยังเห็นอกเห็นใจเปียงยาง เช่นทหารเก่าอย่างพล.ต. ลั่ว หยวน ที่เขียนในบล็อกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เกาหลีเหนือแค่ต้องการผลักดันให้นานาชาติรับประกันความมั่นคงของตน และต้องการความสัมพันธ์ปกติกับวอชิงตัน
      
       ลั่วยังเชื่อว่า หลังจากการซ้อมรบระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้สิ้นสุดลง และหลังการฉลองวันคล้ายวันเกิดคิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือผู้ล่วงลับไปแล้ว ในตอนช่วงกลางเดือนนี้ผ่านพ้นไป บรรยากาศในคาบสมุทรเกาหลีจะเย็นลงและกลับสู่สถานะเดิมคือ ไม่มีสงครามและก็ไม่มีการรวมชาติ
      
       ขณะเดียวกัน มีบางคนในจีนวิจารณ์อเมริกาโดยตรง เช่น หลี่ เจี๋ย ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารที่ทำงานให้สถาบันวิจัยของกองทัพเรือจีน กล่าวผ่านเว็บไซต์ของพีเพิลส์ เดลี่ กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า การบินปฏิบัติการของบี-2 แท้จริงแล้วมีเป้าหมายที่จีนมากกว่าเกาหลีเหนือ เนื่องจากอเมริกากังวลกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการทหารของพญามังกร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น