"ณัฐวุฒิ"หนุนเต็มสูบ!!!! ค้านคำสั่งศาลรธน.ปมม.68 -ขู่ตึงเครียดหาก "ใช้อำนาจเรี่ยราด"
"ณัฐวุฒิ"หนุน สส.-สว. ออกแถลงการณ์ค้านคำสั่งศาลรธน. ปมม. 68 ขู่หากศาลรธน.ยังดึงดัน-ใช้อำนาจเรี่ยราด จะเกิดการเผชิญหน้ากัน-ตึงเครียด
วันนี้(23 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม ส.ส.และ ส.ว.ออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้พิจารณา มาตรา 68 ว่า ตนสนับสนุนเต็มที่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติแสดงท่าทีชัดเจนในการปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพราะถือเป็นการรักษาเกียรติยศของอำนาจอธิปไตยของประชาชนที่มอบให้ตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นเรื่องการออกกฎหมายเป็นอำนาจโดยชอบของฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปฏิบัติถือเป็นการก้าวก่ายแทรกแซง และในที่สุดจะกลายเป็นชนวนในการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง สิ่งที่ตนอยากจะเรียกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ คือขอให้ยอมรับท่าทีของฝ่ายนิติบัญญัติ ละวางจากการใช้ดุลพินิจเกินกว่าอำนาจที่กฎหมายบัญญัติให้ สถานการณ์ต่างๆก็คงจะคลี่คลาย แต่ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญยังดึงดันและใช้อำนาจเรี่ยราดเหมือนที่ผ่านมาก็เกรงว่าเมื่อเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและศาลรัฐธรรมนูญบรรยากาศทางการเมืองอาจจะตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ความอดทนอดกลั้นมาตลอด และถึงวันนี้ก็ขอทำตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้แต่ความอดทนของคนมีขีดจำกัด และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคลแต่เป็นโครงสร้างอำนาจในระบอบประชาธิปไตย เป็นหลักการที่ถึงเวลาคงประนีประนอมไม่ได้นอกจากรักษาหลักการที่ถูกต้องไว้เพื่อให้ประเทศยังคงความเป็นประชาธิปไตย ผมจึงสนับสนุนให้เดินหน้า ในส่วนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ควรทบทวนตัวเอง อย่าไปคิดว่าพวกท่านทั้ง 9 คน เป็นสุภาพบุรุษแห่งวังจุฑาเทพ ที่ทำอะไรออกมาแล้วจะมีคนเชียร์และสนับสนุนเพราะเล่นบทพระเอกตลอดเวลานั้นคงไม่ใช่ เพราะหากทำเกินอำนาจหน้าที่ก็คงมีแต่สายตาที่ตั้งคำถาม” นายณัฐวุฒิ กล่าวและว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่พรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองใดต้องการไปริดรอนอำนาจฝ่ายตุลาการ แต่เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญมีเจตนาที่จะริดรอนอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะอำนาจการสถาปนากฎหมายเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็มาดึง ถ่วงและเบรกไว้ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองมีปัญหา
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนอยากส่งสัญญาณอันตรายถึงสังคมไทยจากการใช้ดุลยพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นอกเหนือจะไปก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติแล้วแม้แต่ฝ่ายตุลาการด้วยกันก็ยังงงเป็นไก่ตาแตกกับการใช้ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไปวินิจฉัย พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นต้น หากสังคมปล่อยให้องค์กรแบบนี้ใช้อำนาจล้นบรรทัดตลอดเวลาบ้านเมืองจะหาสมดุลไม่ได้ สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญทำไม่น่าเรียกว่าการถ่วงดุล แต่เป็นการถ่วงรั้งอำนาจอธิปไตยหากปล่อยไว้ก็จะทำให้บ้านเมืองและบรรยากาศทางการเมืองเกิดความเสียหาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น