วันอังคาร ที่ 2 เมษายน 2556
Posted by ทนายเบิ้ม , ผู้อ่าน : 1494 , 16:06:59 น. หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน
พิมพ์หน้านี้ 
โหวต 1 คน hayyana โหวตเรื่องนี้  "แต่ที่น่าสนใจมันไปอยู่ที่เรื่องที่สาม...มากกว่า...เพราะหากสองเรื่อง แรกนี้ มีอันต้องสะดุดหรือเจอโรคแทรกซ้อน...แต่หากเรื่องที่สาม...สามารถ “วางเกม” ให้เป็นไปตามที่ “นักโทษเหลี่ยมจัด” ต้องการ...นั่นหมายถึง “ขุมทรัพย์ของเหลวมีสี” จะอยู่ในมืออย่างสะดวกโยธิน เพราะต่อสู้กันกลางเดือนเม.ย.นี้ แต่จะมีคำตัดสินคือราวเดือนต.ค.-พ.ย.โน่น...(ที่ไม่รู้ว่า ถึงเวลานั้นรัฐบาลน้องหน้าโง่...จะอยู่หรือป่าว) แต่ที่แน่ๆ ดีลขุมทรัพย์จะสำเร็จไปครึ่งตัวแล้ว เพราะ “นักโทษเหลี่ยมจัด” นั้นมี “ข้อตกลงลับ” กับ “ฮวยเซ็ง” ว่า...ทำอย่างไรก็ได้ให้ “ไทย” แพ้คดีเขาพระวิหาร...เพราะ “เขมร” ต้องการพื้นที่บริเวณโดยรอบเขาพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร...ต้องทำให้มาตกเป็นของ “เขมร” ให้ได้ อย่าแปลก...หากจะเห็นท่าทีของ “คนในรัฐบาลน้องหน้าโง่” ประกาศชัดแจ้งแดงแจ๋ว่า...หากแม้ไทยจะแพ้คดี-เสียดินแดนเพิ่ม...ก็จะไม่มีการสู้รบ ผิดกับจุดยืนของ “คนมีสี” ที่ประกาศไม่ยินยอม...แม้จะต้องรบ...ก็พร้อมรบ!!! ว่ากันว่า “ฮวยเซ็ง” หวังได้ “สองเด้ง” คือ 1.ผลประโยชน์ระยะยาวหากพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร...ตกเป็นของเขมร โดยสมบูรณ์ 2.คะแนนนิยมทางการเมืองที่จะได้จากชาวเขมร เพราะที่ผ่านมา หากมีเรื่องราวกับไทยแล้ว จะดูเหมือนว่า “ตกเป็นเบี้ยล่าง” มาตลอด “นักโทษเหลี่ยมจัด” จึงซ่อนแต้ม...เพื่อส่งสัญญาณในคราวสไกป์-สกั้ง...มาล่าสุดเมื่อวีคก่อนในการประชุมพรรคเผาไทย...ด้วยประโยคทำเป็นด่า “ลูกสมุน” ว่า "อย่าไปยอมทหารมากเกินไป" แต่ความจริงคือการส่งสัญญาณให้ “ปล่อยไหล” เรื่องการต่อสู้ในคดีพระวิหาร...ที่จะมีขึ้นในราวกลางเดือนหน้านี้ เพราะหากว่ากันตามหลักฐานและเอกสารที่มีอยู่ “ตรงหน้า”...คนวงในกระทรวงบัวแก้วต่างรับรู้ดีว่า “ไพ่เด็ด” มีอยู่ในมือ...แต่เวลานี้ “ยี้หัวเหม่ง” พยายามตีกัน...ไม่ให้นำไปสำแดงต่อศาลโลก!!! "หลักฐานเด็ด" ที่ว่าก็คือ "โทรเลข" ของ "เจ้าสีหนุ" เมื่อครั้งยังเป็นประมุขของเขมร ที่ส่งถึง "รัฐบาลไทย" (ในเวลานั้น) เมื่อคราวศาลโลกตัดสินครั้งแรกที่ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนส่วนหนึ่ง เพราะถ้อยคำในโทรเลขฉบับนั้น...เป็นเหมือนการยอมรับ-เป็นคำสารภาพ...ที่จะทำให้ “ไทยได้เปรียบ” ในการต่อสู้ต่อศาลโลกในครั้งนี้ เพราะข้อความตอนหนึ่งในโทรเลขฉบับนั้น...ระบุในทำนองว่า "ได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว" นั่นหมายถึงการชนะคดีในครั้งนั้น ที่พื้นที่บนปราสาทพระวิหารต้องตกเป็นของเขมร...แต่พื้นที่ด้านล่างโดยรอบเป็นของไทย...แค่นี้ “เขมรก็พอใจแล้ว” แถมยังมีหลักฐานการส่ง "บรั่นดี" มาให้ไทยดื่มฉลองร่วมกันด้วย งานนี้คนไทยต้องคอยวัดใจ “ยี้หัวเหม่ง” ว่าจะยอมปล่อยไหลให้ทีมกฎหมายของไทย นำหลักฐานเด็ดชิ้นนี้ไปสำแดงต่อศาลโลกหรือไม่...โปรดติดตาม!!!"(ไทยอินไซเดอร์) ที่ีบอกว่าน่าสงสัย เพราะอะไร ถ้าเอกสารเก่าแก่ฉบับนี้มีจริงแล้ว ประเด็นคดีเขาพระวิหาร โมเมนตั้มของเกมส์จะเปลี่ยนแน่นอน จากที่ตอนนี้ 50/50 ชนะคือเสมอตัว แพ้คือเสียดินแดน ถ้าตรงนี้มีจริง อะไรที่ว่าแน่ก็ไม่แน่เสียแล้ว จึงไปขอค้นคว้าอีกทีจาก อ.กูเกิ้ล ว่าที่ไต่กอเขาบอกมา มีจริงหรือ หนาแน่นเพียงไร ต้องบอกว่า แทบหาอะไรตรงนี้ไม่ได้เลย หรือจะเป็นข่าวทีี่ไม่น่าสนใจ ไม่มีจริง เลื่อนลอย ลางเลือน โชคดี เหมือนมีอะไรดลใจ ไปเจอข้ิอความเล็กๆจากคอลัมน์หนึ่งเช่นกัน จากเว็บข่าวชื่อดัง ตามนี้ "ฟังแล้วพอเบาใจ หลังจาก ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดต่างประเทศ และ วีรชัย พลาศรัย ทูตไทยกรุงเฮก เดินสายแจงความคืบหน้าการสู้คดีพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบนเขาพระวิหาร.......... หลักฐานสำคัญอยู่ที่เอกสารโทรเลขของกัมพูชา ที่ระบุถึง เจ้าสีหนุ แสดงความพึงพอใจที่ชนะคดีตัวปราสาทในปี 2505 และยอมรับรั้วกั้นแบ่งเขตตามคำสั่งของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สงสัยตอนนั้นฮุนเซนเอาแต่วิ่งเล่นซุกซน จึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร........."(เดลินิวส์) อาจมีหรือไม่มี ในทางคดีแล้ว เขาไม่เปิดเผยกันออกมามากมาย นี่อาจเป็นแทคติคอย่างหนึ่งของฝ่ายเราก็ได้ ไม่ได้หวังว่าเราจะชนะ แต่ก็ไม่อยากให้แพ้ เพราะถ้างานนี้เสียดินแดน อะไรจะเกิดบนแผ่นดินนี้ ไม่อาจคาดเดา หลักฐานเด็ดชิ้นนี้จะมีจริงหรือไม่ เดือนนี้เป็นที่รู้กัน ถ้าไม่มีก็แล้วไป แต่ถ้ามี ไม่เอาออกมาใช้ คุณคนที่กีดกันนั้น ต้องการอะไรกันแน่ี หรือความโลภบดบังไปจนสิ้นแล้ว พ่อคุณ แม่คุณ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น